"พิธีกรรมอาบน้ำเพ็ญ" มงคลชีวิต เสริมเสน่ห์ เรียกงาน ความรัก

"พิธีกรรมอาบน้ำเพ็ญ" มงคลชีวิต เสริมเสน่ห์ เรียกงาน ความรัก

"พิธีกรรมอาบน้ำเพ็ญ" มงคลชีวิต เสริมเสน่ห์ เรียกงาน ความรัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การอาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญนั้น ปกติในหนึ่งปีจะนิยมทำ ในวันเพ็ญเดือน ๑๒ แต่ที่พิเศษที่สุดคือการอาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญในวันที่พระจันทร์เต็มดวง และมาตรงกันกับวันจันทร์ เรียกว่าจันทร์ซ้อนจันทร์ หากในเดือนใดปีใดที่มีจันทร์ซ้อนจันทร์เช่นนี้ถือว่าดีเป็นพิเศษ ไม่ต้องรอวันเพ ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งจะอาบให้กับผู้ที่จะไปออกรบ เชื่อกันว่าช่วยล้างบาป เสริมเสน่ห์ เรียกงาน เงิน ความรัก เรียกสามี ซึ่งดาราศิลปินหลายๆ ท่านก็นิยมทำกัน เพื่อเรียกงาน บ้างก็ว่าทำแล้วได้งานตรึม และมีดาราหลายท่านก็เคยไปอาบ


เพื่อเป็นการเสริมบารมีให้ตัวเอง พิธี “อาบน้ำใต้แสงจันทร์” เป็นพิธีเก่าแก่มาจากตำราโบราณตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ที่จะอาบให้กับผู้ที่จะออกรบ ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นพิธีที่กำลังฮอตฮิตในหมู่ดาราคนมีชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็เคยเห็นผลมาแล้วจากดารานักร้องหลายท่าน เพื่อให้คนรักลุ่มหลง รักใคร่ พิธีอาบน้ำแสงจันทร์ เรียกงาน เรียกสามี ศาสตร์เหล่านี้มาเป็นเวลากว่า 30 ปี  โดยมีคติความเชื่อว่า เมื่ออาบน้ำเพ็ญแล้วก็จะโชคดีมีลาภ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม คนที่ป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บ หน้าตาเศร้าหมอง เมื่อได้อาบน้ำเพ็ญไปแล้วก็จะหายจากอาการเจ็บป่วย ในขณะที่ผู้เป็นหมอดู นักพยากรณ์ เป็นแพทย์แผนโบราณ เมื่อได้อาบน้ำเพ็ญแล้วก็เชื่อว่าจะทำให้มีความสามารถในการพยากรณ์ ในการรักษาโรคดีขึ้น

ความจำดีมีปฏิภาณไหวพริบ เรียนหนังสือเก่ง เสริมสง่าราศีให้ผุดผ่องดังพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ เสริมบารมีแก่ผู้ที่มีญาณเทพ มีองค์เทพคุ้มครอง ขจัดอำนาจมนต์ดำ คุณไสย ภูตผีปีศาจที่เข้าแฝงอยู่ในร่างกาย ทำให้ชะตาชีวิตรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยจากโรคต่างๆ พิธีอาบน้ำเพ็ญที่เก่าแก่และสืบทอดมายาวนาน ต้องยกให้ วัดสุทัศนเทพวราราม เสาชิงช้า กทม. จัดพิธีอาบน้ำเพ็ญตามตำรับของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) ณ บริเวณลานว่างข้างพระอุโบสถ เริ่มตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๐ น. เป็นต้นไป โดยจะเริ่มจากพระสงฆ์ทำสังฆกรรม สวดพระปาติโมกข์ คือ ศีล ๒๒๗ ข้อ อันหมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งสงฆ์ทั้งปวง ต่อด้วยเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก และเจริญพระคาถาภาณวาร เป็นพระคาถาที่สวดตามวาระ ไม่ค่อยสวดบ่อยนัก เป็นพระคาถาขับไล่เสนียด สิ่งอัปมงคล ป้องกันภัย และโรคร้ายต่างๆ และเจริญอายุวัฒนะ

พิธีอาบแสงจันทร์ทำเพื่อชำระล้างบาป คือพิธีชำระร่างกาย ช่วยให้ผู้ที่ชำระทำให้ตัวเองมีสิริมงคล เพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ในสิ่งที่ทำไม่ดีต่อพ่อแม่ หรือหรือทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว โดยตำรานี้มันมีมาตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวร สมัยพิชัยสงคราม ตั้งแต่ยุคอโยธยา ขั้นตอนพิธีนั้นต้องไปดำน้ำผุดท่องคาถาใต้น้ำ จะให้ดีต้องที่เขาใหญ่เท่านั้น และต้องทำในตอนกลางคืน ถึงจะตรงตามตำราที่สุด การอาบน้ำนี้คือการดำน้ำผุดแล้วท่องคาถาใต้น้ำ และต้องเป็นน้ำที่ไหล ต้องสัมผัสผิวเรา ตามตำราบอกว่า แม่พระคงคาไหลออกจากเกสาแม่พระธรณี มันก็ต้องเป็นน้ำพุดจากดินขึ้นมา เห็นน้ำก็รู้แล้วว่าสะอาดจริงกินได้ จะใกล้เคียงตำราที่สุด และสถานที่นั้นจะต้องมีต้นตะเคียนใหญ่อยู่ด้วย พลังงานโลกวิญญาณผ่านไปผ่านมา แล้วเทวดาที่สถิตอยู่ที่อ่างน้ำ นางไม้จะมาสรรเสริญ ว่ามนุษย์ผู้นี้รู้ได้ยังไง ทำพิธีโบราณเป็น 2-3 พันปีได้อย่างไร ไปที่ๆ น่ากลัวจะทำให้จิตใจเรากลัวด้วย ของไม่ดีพวกนี้จะได้ออกง่าย นี่คือเคล็ดลับ

ซึ่งต้องกล่าว อัญเชิญแม่พระคงคา เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา และนางไม้ทั้งหลาย ให้มารับรู้ว่ามนุษย์ผู้นี้มีความเดือดร้อนถึงจะชำระร่างกาย ขอให้ครูบาอาจารย์หรือสิ่งที่มีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์มาช่วยปัดเป่าในสังขารมนุษย์ มาช่วยกันเสก มาช่วยกันทำให้เขาบริสุทธิ์ จากนั้นถึงจะให้ลูกศิษย์ลงไปดำน้ำ และก็จะต้องท่องคาถาในน้ำ เขาเรียก โอมชำระ มหานที สักขาระ ชำประสิทธิเม ยิ่งนานได้ก็ยิ่งดี ยิ่งท่องได้เยอะก็ยิ่งได้เปรียบ ถ้าท่องได้น้อยก็แล้วแต่ความรู้สึกหรือจิตภูติของเรา ไม่สามารถที่จะบังคับได้ ก่อนขึ้นต้องตอบแทน คือต้องกล่าวคำอวยพรและขอบคุณที่ให้ความสะอาดต่อร่างกายบุคคลคนนี้ เขาเรียกว่าอวยพรสรรเสริญต่อรูปวิญญาณ ในเมื่อเขาให้ความดีเราแล้วจะมีด้วยกัน 3 ระบบคือ ก่อนลง ลง แล้วก็ขึ้น ไม่บังคับว่าต้องทำกี่ครั้ง แล้วแต่ ถ้ายิ่งทำเยอะมันก็ดีกับตัวเรา ถ้าไม่มีเวลาครั้งเดียวก็ดี ข้อห้ามไม่มี แต่เสื้อผ้าที่ใส่มาห้ามโป๊เปลือย

สำหรับผู้ไม่สามารถไปร่วมพิธีที่ใดได้ และคนที่อยู่ในเมืองก็ทำได้เช่นกัน ตามคติความเชื่อของคนโบราณมักจะตักน้ำจากแม่น้ำลำคลองที่ไหลผ่านหน้าบ้านในเวลาเที่ยงคืนพอดี ตักมาอาบน้ำตอนเที่ยงคืน หรือให้นำภาชนะใส่น้ำไปตั้งไว้ยังกลางแจ้ง รอจนกระทั่งบังเกิดเงาของพระจันทร์ลอยเด่นอยู่ภายในขันน้ำมนต์ หรือภาชนะที่ใส่น้ำนั้น เป็นการนำเอาธาตุน้ำมารับแสงจันทร์ ธาตุน้ำในช่วงเวลาดังกล่าวจะซึมซับเอาพลังงานจากพระจันทร์ช่วงเต็มดวงไว้อย่างเต็มที่ จากนั้นก็ตักอาบได้ ถือว่าเป็นสิริมงคลเช่นกัน


คำขอขมาพระแม่คงคา

"สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต" นี่เป็นคำขอขมาพระแม่คงคาเป็นภาษาบาลี จากคำบอกเล่า พระราชวิจิตรปฏิภาณ "เจ้าคุณพิพิธ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ทั้งนี้คำขอขมาเป็นภาษาไทยความหมายว่า ข้าแต่คงคา ลูกขอวันทา ด้วยประทีปกระทง พระแม่คงคา มีความเมตตา ต่อลูกสูงส่ง คือน้ำในกาย สามส่วนมั่นคง กายจึงยืนยง ชุ่มชื่นยืนนาน พระแม่คงคา กำเนิดจากฟ้า โปรยปรายลงมา เป็นกระแสธาร เกิดเป็นแม่น้ำ หลายนามขนาน ปิง, วัง, ยม, น่าน คือ เจ้าพระยา ท่าจีน, ตาปี นครชัยศรี โขง, ชี, มูล, ละหาร ห้วยหนองคลองบึง จนถึงแก่งกว๊าน น้ำใต้บาดาล อีกทั้งประปา

ลูกๆ ทั้งหลาย เดินทางขายค้า สำเร็จกิจจา คมนาคม นำมากินใช้ ได้ดั่งอารมณ์ ยามร้อนประพรม ชุ่มชื่นกายใจ ชำระมลทิน โสโครกทั้งสิ้น สะอาดสดใส ผุดผ่องพราวตา แลเลิศวิไลซ์ แม่น้ำรับไว้ สกปรกโสมม น้ำเสียเรือนชาน ซักผ้าล้างจาน เททิ้งทับถม ไหลลงคงคา ธาราระทม สารพิษสะสม เน่าคลุ้งฟุ้งไป วันนี้วันเพ็ญ พระจันทร์ลอยเด่น เป็นศุภสมัย ลูกจัดกระทง ประสงค์จงใจ นำมากราบไหว้ พระแม่คงคา เทวาทรงฤทธิ์ ซึ่งสิงสถิต ทุกสายธารา ทั้งผีพรายน้ำ อย่าซ้ำโกรธา ลูกขอขมา อโหสิกรรม ทำกิจใดใด อุทกภัย อย่าได้เติมซ้ำ อย่าพบวิบัติ ข้องขัดระกำ อย่าให้ชอกช้ำ น้ำท่วมพสุธา อย่าให้สินทรัพย์ ต้องพลันย่อยยับ เพราะสายธารา อย่าให้ชีวิต ต้องปลิดชีวา พระแม่คงคา รับขมาลูก เทอญ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook