ประสบกรรมความรักก่อนเป็นเอ๋ สแกนกรรม

ฤษณา สุยะมงคล เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไขว่คว้าหาความรักมาตลอดชีวิต แต่ความรัก 2 ครั้งของเธอนั้นต้องพบกับความทุกข์ระทมผิดหวัง สิ้นหวังยากไร้และตกต่ำอย่างแสนสาหัส มันเลวร้ายเสียจนเธอต้องหันเหชีวิตเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งธรรม และด้วยความมุ่งมั่นในจิตใจอันเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งของเธอ ในเวลาต่อมาเธอจึงสัมผัสได้ในพลังแห่งญาณทิพย์ ทำให้เธอมีส่วนได้ช่วยเหลือคนที่มีความทุกข์ในโลกนี้ด้วยวิธี ‘สแกนกรรม' (กรรมเก่าในอดีตชาติของทุกคน) เธอมีประสบกรรมความรักที่ขมสุดๆ มาเล่าให้ฟัง ใครได้อ่านคงได้อึ้งไปเหมือนกันว่า...ชีวิตแบบนี้มีจริงด้วยหรือ!!

ที่มาแห่งความเปลี่ยนแปลกของชีวิตเธอเริ่มรู้สึกได้ตั้งแต่...

"ตอนอายุ 13 ปี เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่จะได้รับญาณวิเศษ ตอนนั้นนอนอยู่ในบ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์เพราะต้องขายของชำ บ่ายโมงกว่าๆ รู้สึกเหมือนมีคนมารับเรา เขานุ่งผ้าเตี่ยวสีแดง ขาเขาจะไม่ติดดิน ถือหอกมาด้วย รู้สึกเหมือนมีคนมาเรียกให้เราลุก พอเขาดึงร่างเราออก (กายทิพย์) เราก็มีพลังดึงเข้าดังปึ้ง มีคนดึงกายทิพย์กับกายเนื้อเรามารวมกันเข้าอีกที เหมือนวิญญาณเรารวมเข้าร่าง

ตั้งแต่นั้นมามันก็ผิดปกติตลอด นอนที่ไหนก็จะมีร่างหลุด พ่อเราต้องคอยดู ถ้าเราเริ่มผิดปกติเมื่อไรก็บอกพ่อและพี่ว่าถ้าเป็นอะไรไปให้ตบตัวเราด้วย พ่อก็พาไปหาพระท่านรดน้ำมนต์ให้แล้วก็บอกให้สวดมนต์ แต่ไม่ได้บอกให้แผ่เมตตา (สวดนะโม 3 จบแล้วก็สวดชินบัญชร) เพราะเริ่มใช้กรรมแล้ว วิญญาณทุกวิญญาณที่เราเคยได้ฆ่าแกงเขาก็จะเริ่มมา มาหาให้เร็วที่สุด เหมือนเป็นไฟลต์บังคับให้เราปฏิบัติ ถ้าวันไหนไม่ได้ทำ

ก็จะมาแล้วบีบคอ เอาเล็บมากรีดเรา สารพัดเลย (คือเราเคยอยู่ในสมัยพระนเรศวร เราเป็นทหารแล้วออกรบพอมีเมียแล้วก็ทิ้ง) แล้วถึงเวลาวันที่ได้ญาณทิพย์มาจากนั้นแต่ใช้การไม่ได้ เพราะว่ายังเด็กอยู่ ยังไม่รู้วิธี พออายุ 27 ปี ยังต้องมาแต่งงานอยู่กินกับนักบินอีก แม้จะลำบากบ้าง แต่ฐานะบ้านเราก็ไม่ได้ลำบาก

เวลาเรามีคู่เราก็อธิษฐานทุกครั้งขอให้รวยให้มีกิน ให้เจริญรุ่งเรือง แต่เรากลับได้วิบากกรรมมาแทน มันเป็นทุกข์ทางใจแสนสาหัส เพราะไม่รู้ว่าจะไปเหนือหรือใต้ดี ไม่มีงานทำ เงินที่เขาให้ใช้ก็รู้สึกร่อยหรอแล้ว แล้วผู้หญิงของเขาก็รังควาน แล้วเราก็เข้าข้างตัวเองว่าเขาจะกลับมา แต่ฝ่ายชายเขาเปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ยอมรับความจริงเอง

หลังจากที่สามีคนแรกเขาทิ้งไปแล้ว ก็เอาเงินที่เขาให้นี่ไปตามหาหมอดูไปเจอคนทรงเป็น 100 คนแน่ะ เงินที่ได้มาเกือบหมด บางหมอหลอกเราไป 40,000 บาทแน่ะ นึกย้อนไปแล้วยังขำเลย ความที่หลงเชื่อยอมเอาเสื้อและตัดเล็บใส่หม้อลอยน้ำเราก็ทำ ขนาดไปกดเอทีเอ็มที่ธนาคารให้เขาเลย หมอหลอกเราไปเรื่อยๆ แทนที่จะบอกเราว่าน้องทำใจเถอะชีวิตคู่ก็เป็นอย่างนี้ แต่เขากลับบอกว่าผู้ชายน่ะเขาโดนของ

แต่เราก็ยังอยากรู้ว่าโดนของจริงหรือเปล่า เขาจะกลับมามั้ย 2 ปีที่หลงผิดกับการดูหมอนี่เงินหมดเลย ไม่มีอะไรจะกินเลย นอกจากต้มมาม่ากิน ขายของได้เงินมาก็หมดไป ถึงกับโดนตัดไฟเลย ต้องจุดเทียนอยู่เอา นั่งร้องไห้ทุกวัน นั่งสวดมนต์ไปเรื่อยเปื่อย ก็เลยตัดสินใจเห็นสมุดสีชมพูของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เป็นหนังสือสวดมนต์ ทำวัตรเย็น ก็เลยพูดใส่หนังสือท่านเลยว่า ลูกยอมทุกอย่าง ให้ลูกได้ไปปฏิบัติธรรมใช้หนี้ก็ได้ หากมีคนมาช่วยเหลือลูก ลูกจะไป แต่ลูกไม่มีเงินเลย อยู่ๆ หลวงพ่อท่านก็ส่งคนนำเงินมาให้"

แต่วิบากกรรมของเธอยังไม่หมด เธอจึงพบแต่เรื่องเลวร้ายสุดๆ

"วันนั้นเรากำลังจะไปกรรมฐานประมาณ 4 ทุ่ม ผู้หญิงส่งคนมาเอากระบี่ของอดีตสามีซึ่งอยู่ที่บ้าน ผู้หญิงเขาอยากได้เขาขู่หลายรอบแล้ว ถ้าวันนั้นเปิดบ้านให้พวกนั้นเข้าละก็โดนข่มขืนแน่ เพราะบ้านโครงการนี้เปลี่ยวมาก อันนี้คือวิบากกรรม ออกจากบ้านจะไปกรรมฐานก็ไปไม่ได้ เขามาล็อกตัวเลย ตอนนั้นก็นึกถึงพระแม่กวนอิมอย่างเดียวเลยบอกให้ช่วยลูกด้วย อยู่ๆ ก็สลัดออก แล้วก็กระโดดขึ้นรถ แล้วก็ขับรถออกมา เขาก็ขับมอเตอร์ไซค์หนีออกไปจากหมู่บ้านเลย มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่ากรรมนี่มันซ้ำมันซ้อน ทำให้เรามีวิบากกรรมไม่จบสิ้น หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้น คือไม่มีมาร บารมีไม่เกิด คือเขามาฝึกเราเพื่อให้ บังคับไฟลต์บินนี้ต้องสวดมนต์ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าไปโกรธอย่าไปอาฆาตพยาบาทกับใคร

พอเราไปกรรมฐาน เราก็จะมีเซนส์เริ่มแข็งแรง ตั้งแต่สวดมนต์บทของหลวงพ่อจรัญ สวดมนต์ไปเรื่อยๆ มันจะเห็นภาพล่วงหน้าด้วยตาเปิดนี่ละค่ะ จะมีภาพลอยเข้ามาบอกให้เราเห็น ต้องพึ่ง ครีเอตอย่างเดียว เพราะว่ามีเท่าไรก็ไม่มีเหลือ พอเราไปที่วัดหลวงพ่อจรัญ ในสภาพที่หมดหวังมีความหวังแค่หลวงพ่อจรัญ ที่เลือกหลวงพ่อจรัญก็เพราะมีคนบอกว่าหลวงพ่อท่านดังเรื่องกฎแห่งกรรม เจ้ากรรมก็คือการนั่งกรรมฐานชดใช้

แต่ตอนแรกคิดว่าไปนั่งแล้วจะได้เขาคืนมา แต่ไปแล้วไปเลย มันก็เลยทำให้ต้องเริ่มฝึกใหม่หมดเลย จากพุทโธก็ต้องเป็นยุบหนอ ครูบาอาจารย์เป็นยุบหนอ ท่านก็มาบอกให้ยุบหนอ ทำให้เราได้เห็นหลวงพ่อท่าน ท่านมายืนเอามือไขว้หลังแล้วก็มามอง เพราะเราอธิษฐานดังมาก อธิษฐานไม่เหมือนคนอื่น "ข้าพเจ้า กฤษณา สุยะมงคล ยอมรับวิบากกรรมทั้งหมด แล้วขอชดใช้ด้วยบุญกรรมฐาน" ก็รู้สึกเห็นการที่มานั่งวิปัสสนานี่มายอมรับสำนึกผิด แล้วข้างหลังนี่มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้มันเกิด ก็อยากให้เรื่องมันจบ

ตอนอยู่ที่วัดหลวงพ่อตอนกลางคืนก็มีวิญญาณมารบกวน เป็นเรื่องแปลกมากเพราะเรื่องตะกรุดที่เขาฝังตายไว้ในร่างเรา จะมีผู้ชายที่มีย่ามใส่ม่อฮ่อมมาในนิมิตเรามากับกุมารองค์หนึ่ง มาถึงให้กุมารเหยียบหน้าอก มามัดกายทิพย์แล้วก็มามุดสอดตะกรุดเข้าช่องคลอด เราก็ได้แต่ร้องว่า "หลวงพ่อจรัญ ช่วยด้วย" ก็เหมือนเป็นเสือมากัดผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นก็ตะลีตะลานหนี แล้วก็เป็นจังหวะบังเอิญที่หมาเกิดมากัดกันพอดีมันสะบัดกระแทกข้างฝาที่ นอนอยู่ ทำให้เราตื่นไปพร้อมกับกายเนื้อกายทิพย์ก็มารวมกันมันถึงได้หลุด เรียกแต่หลวงพ่อช่วยด้วยๆ มันเป็นวิบากกรรมที่ท่านจะให้ชดใช้ให้หมด

พอหลังจากกลับมาก็ยังเจ็บกระเสาะกระแสะอยู่จนกระทั่งวันหนึ่ง บ่ายโมงปวดปัสสาวะอย่างแรงก็กลับมานอน โดยเอาขาไขว้กับลำตัวแล้วก็ลดตัวนอนลง พอนอนได้ 5 นาที เหมือนเราเคลิ้มหลับไป แต่เราเห็นว่ามีแม่ชีมาถอดกางเกงปฏิบัติธรรม แล้วแม่ชีก็ล้วงตะกรุดออกจากช่องคลอดเรา หลวงพ่อท่านก็สาดน้ำมนต์ตู้ม ถอดออกจากกายทิพย์ เหมือนโรคปัจจุบันที่บอกว่าเป็นมะเร็งอะไรนี่ จริงๆ ภายนอกมันเป็นเซลล์ แต่ภายในมันเป็นวิญญาณ

ถ้าคนมีตาทิพย์จะเห็นโรคนี้เป็นตัว ฟันเขาจะคมมาก แล้วก็จะกินทุกอย่าง แล้วกายทิพย์เขาจะเป็นรู กรรมฐานต้องไปปิดรูเอง เหมือน บริกรรมเต้านมให้หายเหมือนเอาพลังจิตไปฉายมะเร็งตัวเอง แล้วมันร้อนมากสำหรับวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นดวงจิต กรรมฐานก็เป็นพลังจิต ต้องจูนเข้าหากัน คนที่หายจากโรคภัยไข้เจ็บจริงๆ เขาใช้พลังจิตรักษาโดยตำแหน่งมันคือฉายแสง พอเราโดนกายทิพย์อย่างนี้ เขาก็เลยถอดกายทิพย์มา เอาออกจากกายทิพย์ พอหลังจากนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง ก็เลยรับทราบว่าตัวเองมี ‘ตาทิพย์'

ข้ออ้างอิงเกี่ยวกับการมี ‘ตาทิพย์' ก็เพราะหลังจากได้รู้จักกับพี่หน่อย (ซึ่งอยู่ดรีมเวิลด์) เขารู้เขาก็พาไปดูพนักงานของเขาให้เราลองทักคน พอทักแล้วเป๊ะๆ วิธีที่เราสัมผัสได้นั้น มันจะมีเสียง พร้อมกับมีภาพแล้วค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ แต่ก่อนใช้การเห็นด้วยตา แต่เดี๋ยวนี้ใช้ด้วยจิตเป็น ‘สติปัฏฐาน 4' (เห็นหนอ) คือมองปุ๊บอ่านข้อมูลทั้งหมดออกมาปึ้ดเลย แต่ต้องพัฒนาทุกวัน ดูคนโดยใช้หูทิพย์ตาทิพย์ได้ถึงปี 2548 ปรากฏว่าวันหนึ่งไปทักพี่หน่อยเขาว่าเห็นอดีตของพี่ พี่น่ะเป็นผู้ชายอยู่ในรัชกาลที่ 5 แล้วก็ทำร้ายเมีย ให้กินยาขับเลือด แล้วพี่ก็จะเป็นซีสต์ในชาตินี้ ซึ่งเขาก็เป็น ซีสต์อยู่ 2 ก้อนอยู่ในท้องจริงๆ ทรมานมาก เราก็ได้สื่อวิญญาณของแม่สามีเขาได้ถูกต้องอีกว่าท่านนุ่งขาวห่มขาว เพราะแม่เขาก่อนจะตายก็ใส่ชุดขาว แต่ตอนนั้นเราดูเป็นวันๆ คิดเงินวันละแค่ 100 เดียว สื่อวิญญาณได้หมด พอเริ่มจากจุดเล็กๆ ได้เงินมาพอมีกินเท่านั้น หลังจากนั้นเริ่มเปิดบ้านดูการสแกนกรรมแล้ว

จนกระทั่งปี 2549 ได้เจอคู่ใหม่อีกคน แต่เขากลับกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรตัวเป็นๆ เลย นั่นเพราะความที่เราติดในรูป รส กลิ่น เสียง ตัณหา ราคะที่เกิดขึ้นจากใจ พอชีวิตกำลังดีมาออกพ็อกเกต บุ๊ก ‘สแกนกรรมปี 52' ซึ่งเขาเห็นเราฝึกกรรมฐาน เราไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา เพราะเขาชอบญาณทิพย์ของเรามากกว่าให้เราสแกนกรรมให้คนไปทั่ว พอเราไม่ทำงานให้เขา เขาก็ด่าว่าสาดเสียเทเสีย แล้วเราก็โง่ไปจดทะเบียนกับเขาด้วย มีเสียงทิพย์เตือนมาว่า "ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดีอย่างที่เจ้าคิด" เขาชอบความแปลกของเรา พอหลังจากที่อยู่กินด้วยกันได้ 3 เดือน โปรโมชั่นก็หมด ทุกอย่างอันเป็นธาตุแท้หรือความเลวร้ายออกมาหมด จริงๆ เราถูกลิขิตให้มีคู่คนที่ 2 เพราะต้องการให้เราฝึกให้ได้ ‘สติ ปัฏฐาน 4' (ตัดความอยากให้ได้) เพราะถ้าไม่ฝึกให้เป็นครูบาอาจารย์ผู้อื่น เราจะเขียนพ็อกเกตบุ๊กเล่มหนึ่งไม่ได้แน่"

หนังสือ ‘สแกนกรรม' เล่มแรกเป็นการบอกถึงที่มาการได้มาซึ่งญาณทิพย์ สามารถมองเห็น ‘กรรมเก่า' ในอดีตชาติของบุคคลทั่วไปได้ และต้องผจญภัยจากเวรกรรมความรักครั้งแรกอย่างแสนสาหัส จึงใช้การปฏิบัติธรรมเพื่อชดใช้หนี้กรรม ‘สแกนกรรม' เล่ม 2 (กรรมลิขิตหรือจิตลิขิตกรรม) เป็นการเผชิญกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นไปตามกรรมลิขิตทั้งสิ้น เพื่อให้เข้าใจบาป บุญ คุณโทษ และการทำผิดศีล 5 ต้องชดใช้กรรมอย่างไรบ้าง และในฉบับนี้ อ.เอ๋ได้เดินทางท่องเที่ยวไปในประเทศต่างๆ ทำให้ได้พบเจอวิญญาณของทั้ง คนไทยและคนต่างชาติ และวิญญาณเขามาขอให้ อ.เอ๋ช่วยเพื่อพาดวงวิญญาณเขากลับเมืองไทย และท้ายสุดยังสอดแทรกบทสวดมนต์ที่จำเป็นกับการใช้ชีวิตไว้ด้วย บางเรื่องเป็นสิ่งเหลือเชื่อ คุณอ่านแล้วชอบก็หวังว่าจะช่วยให้ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข และไม่ประมาทได้อย่างสบาย

เรื่องน่าอ่านเพิ่มเติม
++ คติโบราณเกี่ยวกับผลแห่งกรรม คลิก!!