"กรรม" ที่เจอแต่อุปสรรคในการทำงานหรือค้าขายทำอย่างไร?
เหตุที่กล่าวนี้เป็นกรรมแบบหนึ่งที่บางท่านอาจจะเคยพบเจอระหว่างการทำงาน เช่น ลูกค้าเลื่อนจ่ายเงินบ่อย ทำอะไรก็ติดขัด เกือบจะได้แต่ก็ไม่ได้ เกิดความเสียหายทำให้ล่าช้าทั้งๆที่ดูแล้วไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่จะก่อความเสียหายเหล่านั้นขึ้นได้เลย เรื่องราวเหล่านี้มักจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและทำให้เกิดความเสียหายต่องานต่อธุรกิจหรือเงิน หลายคนอาจถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัวเสียอนาคตมานักต่อนักก็เพราะมีสาเหตุเก่าและใหม่อยู่มากมาย
เหตุจากกรรมเก่า
เคยไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่นเคยบอกกล่าวท่านว่าจะเป็นธุระเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้แต่ก็ไม่ได้ทำตาม ปล่อยให้ท่านต้องไปทำเอง หรือบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้แล้วไม่ไปแก้บนก็จะส่งผลให้เวลาทำมาค้าขายจะเจอโรคเลื่อนจ่ายบ่อย เพราะตนเองเคยผิดนัดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ และที่สำคัญมากคนที่เคยมีกรรมทำไว้กับพ่อแม่ไม่ว่าทางใดก็ตามทั้งกาย วาจา ใจนั้นเจริญไม่ได้เป็นอันขาด
ส่วนกรรมที่ทำให้เจออุปสรรคประเภทกำลังจะได้แล้วไม่ได้ เช่น ปลูกข้าวทำนาไว้ใกล้ถึงฤดูจะเก็บเกี่ยวแล้วข้าวกำลังเหลืองงามเต็มที่ที่พอเกี่ยวแล้วจะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็เกิดเหตุภัยธรรมชาติขึ้นมาทำให้ข้าวเสียหายหมดเก็บเกี่ยวไม่ได้ หมดเนื้อหมดตัวไปก็เพราะ กรรมที่เคยนำอาหารหรือของใช้ที่มีประโยชน์เพื่อส่วนรวมไปทิ้งน้ำหรือทำลายไม่ให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์
หรือเคยเป็นทหารไปสู้รบในสงครามและจุดไฟเพื่อไล่ศัตรูโดยไม่สนใจว่าไฟนั้นจะลุกลามไปไหม้ลามไปยังที่แห่งใดทำให้วัดวาอาราม เรือกสวนไร่นาของส่วนรวมเสียหายใหญ่หลวง หรือเคยประกอบอาชีพเป็นนายเรือบรรทุกสินค้าแต่ด้วยความไม่ระมัดระวังในการเดินเรือ เป็นเหตุให้เรือต้องจมลงสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของสินค้าเพราะความประมาทของเรา เป็นต้น
มีเจ้ากรรมนายเวรตามมาเกิดเป็นคนใกล้ชิด เป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อน หรือคนร่วมงานกัน ที่คอยขัดแย้งกันตลอดหรือเป็นตัวถ่วงให้งานนั้นเดินหน้าไมได้ หรือให้งานไปทำแล้วทำไม่ได้เกิดความเสียหาย เป็นต้น กรรมเก่าเหล่านี้แม้จะเป็นเหตุที่ทั้งตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์แต่อย่างไรก็ตามผลกรรมเกิดขึ้นไปแล้ว สร้างความเสียหายไปแล้วเหมือนข้าวสารถูกหุงเป็นข้าวสุกไปแล้วย่อมไม่อาจทำให้เหมือนเดิมได้
กรรมใหม่
ต้องพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดข้องนั้น การที่ลูกค้าเลื่อนจ่ายเงินบ่อยหรือว่าเบี้ยวนัดบ่อยอาจเกิดขึ้นเพราะว่าตัวของเราเองก็เป็นผู้ที่เลื่อนนัดลูกค้าบ่อยเช่นกัน คือเราไม่มีสัจจะในการรักษาสัญญากับคนอื่นก่อน จนทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการกระทำของเรา เขาจึงเลื่อนจ่ายเราบ้าง ส่วนเรื่องของการเจอแต่อุปสรรคในการทำงาน
นั้นเพราะการทำงานในแต่ละขั้นตอนเต็มไปด้วยความประมาทในการทำงานไม่มีความเอาใจใส่ในเนื้องานที่ทำเลย จึงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้หลายครั้งทำให้งานล่าช้าหรือเสียหาย เช่น ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์นัดจะเอาคอมพิวเตอร์ไปส่งลูกค้าวันนี้ เพราะซ่อมเสร็จแล้วแต่ก่อนจะนำส่งกลับไม่ตรวจสอบโดยการลองเครื่องก่อนนำส่งอีกครั้ง เมื่อนำส่งกลับพบว่าคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะปัญหายังแก้ไขไม่หมดทำให้ต้องเสียเวลานำกลับมาซ่อมใหม่ ลูกค้าก็เกิดความไม่พอใจอันจะนำไปสู่ความขัดเคืองในอีกหลายด้าน ทำให้ต้องเจอแต่ปัญหาอยู่ร่ำไปเป็นต้น
การแก้ไขในทางโลก
1. ยึดหลักอิทธิบาท 4 ในการทำงานเสมอ
การทำงานให้ประสบความสำเร็จและก้าวข้ามผ่านทุกอุปสรรคนั้นไม่พ้นการทำงานให้อยู่กรอบธรรมข้อนี้ คือ ธรรมที่ทำให้สำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อค้า ข้าราชการ เกษตรกร หรือแม้แต่กรรมกรชายหญิงงานแต่ละชนิดแต่ละอย่างต้องใช้ธรรมะข้อนี้ประกอบทั้งสิ้น
ต้องรักงานที่ทำ คือ ไม่ว่าการงานนั้นจะเป็นอะไรต้องทำไปด้วยความไม่เบื่อหน่ายไม่ว่าจะรักหรือไม่รักก็ตาม เมื่อได้รับมอบหมายหรือตัดสินใจทำแล้วต้องทำให้สำเร็จให้ได้ เพราะหากเบื่อหน่ายแล้ว จิตใจก็จะไม่จดจ่อกับงานงานก็ไม่เกิดประสิทธิภาพ และสามารถเป็นสาเหตุของความเสียหายได้ง่าย คนเราลองไม่เบื่องานแล้ว สิ่งที่ยากอาจกลายเป็นง่าย และงานที่ดูว่ามากอาจเป็นงานที่น้อยลงไปโดยพลัน
ต้องพากเพียรทำ เพราะงานทุกอย่างต้องใช้ความพากเพียร ซึ่งจะเพียรทำมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ความยากง่ายของงานนั้น ต่อให้ไม่ชอบงานที่ทำหากมีความพากเพียรทำแบบแข็งใจทำไปเรื่อย ๆผลสำเร็จของงานก็จะเกิดขึ้นเอง
ต้องเอาใจทำ คือ มีความละเอียดลออ เอาใจใส่ในงานนั้นให้มาก ลงมือทำแต่ละขั้นตอนอย่างเต็มที่พิถีพิถันในงานแต่ละชิ้น นอกจากงานจะออกมาดีแล้วยังลดโอกาสในการเกิดความเสียหายในงานให้น้อยลงมากอีกด้วย
ต้องเอาใจใส่ไตร่ตรองในงาน เพราะความจริงแล้วการที่งานเกิดอุปสรรคเสียส่วนมากก็เพราะส่วนใหญ่ขาดเรื่องการเอาใจใส่ตรวจสอบงานในขั้นสุดท้าย หรือแม้แต่ตั้งแต่ต้นงานเลยก็ตามจะเป็นปัญหาพ่วงกันมา แม้งานนั้นจะเป็นแค่งานเล็กน้อยแต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้
2. ทำงานให้หนักขึ้นตามหลักของกรรม ว่าด้วย วัตถุ ประโยค และเจตนา
วัตถุกรรม ก็คือ ถ้าเป็นเรื่องงาน ก็คือ การทำงานด้วยการมองมุมบวกด้วยความเต็มใจกับลูกค้า เพื่อนคู่ค้า หรือแม้แต่ลูกน้องในปกครอง เพื่อการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีสร้างมิตรภาพในงาน แม้จะมีเรื่องบาดหมางข้องใจกันมาก่อน หรือมีการตกลงเรื่องยาก ๆใด ๆหากมีสายสัมพันธ์ที่ดีแล้วก็จะช่วยให้งานง่ายขึ้น เพราะมีคุณงามความดีที่คอยช่วยเหลือกันมาก่อน
ประโยคกรรม ก็คือ คนที่มีความพยายามมากว่า ขยันขันแข็งกว่าจะยังผลให้สำเร็จเกิดได้เร็วกว่าและความผิดพลาดก็จะน้อยกว่าด้วย คือไปทำงานเช้า ทำแบบสุดฝีมือเมื่อพบปัญหาแม้ตัวเองจะแก้ไขไม่ได้ก็ไม่ยอมหยุดนิ่งที่จะขวนขวายหาความรู้เพิ่มและพัฒนาตนเองต่อไป ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ชำนาญงานกว่าช่วยแก้ปัญหาให้ พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้งานสำเร็จอันไม่ผิดไปจากทำนองคลองธรรม ก็จะได้รับความชื่นชมและเป็นการป้องกันตัวเองออกจากความเดือดร้อนที่จะเกิดจากงานนั้นด้วย
เจตนากรรม ก็คือ มีความมุ่งหวังที่จะสร้างงานทำงานนั้นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง คือ ตั้งใจทำสินค้าที่มีคุณภาพดีแต่ราคาถูก จำหน่ายไปทั่วประเทศเพื่อให้คนที่มีโอกาสรน้อยได้ร่วมใช้สินค้าหรืองานนั้นได้ไม่ยากนัก คนที่ทำงานมีเจตนาแบบนี้จะไม่ร่ำรวยเร็ว แต่จะร่ำรวยขึ้นและร่ำรวยนาน ผิดกับคนที่ทำงานการค้าแบบฉาบฉวยคือ ลดราคา ลดต้นทุนลดคุณภาพลง เพียงเพื่อหวังให้ตนเองกำไรเยอะ ๆ แม้จะร่ำรวยเร็วในตอนแรก ๆแต่ความสำเร็จนั้นจะไม่ยั่งยืนแน่นอน หลักการทำงานว่าด้วย วัตถุประโยคและเจตนานี้ มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันจะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปไม่ได้เลย เพราะจะทำให้ผลกรรมหรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นได้น้อยนอกจากนั้นยังอาจก่อความเสียหายที่ไม่คาดคิดได้อีกด้วย
การแก้ไขในทางธรรม
ต้องทำทานแก้ไขกรรม เพราะเมื่อพิจารณาจากสาเหตุแล้วจะเห็นได้ว่าเราอาจเคยไปทำกรรมที่ก่อความเสียหายต่อ “ของส่วนรวมเอาไว้” การทำทานแก้ไขคืนก็ต้องทำทานแบบเพื่อส่วนรวมให้บ่อยครั้งขึ้น เช่นการทำบุญด้วยการถวายอาหารพระสงฆ์ครั้งละ 4 รูปขึ้นไป หรือเลี้ยงเด็กยากจนอนาถาผู้ยากไร้หรือคนชราไร้บ้านให้เขามีความสุข หากเป็นทานที่ให้แก่บุคคลต่ำกว่าหรือแม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ให้แบบไม่ต้องเลือกโดยให้ไปโดยไม่ต้องเสียดาย
หากไม่มีกำลังทรัพย์มากพอก็ให้ทานด้วยเลือดเนื้อชีวิตของตนเอง เช่นไปทำการบริจาคร่างกายหรืออวัยวะไว้เพื่อประโยชน์แก่ผู้เจ็บป่วยทั่วไป หรือบริจาคเลือดเพื่อต่อชีวิตผู้อื่นแบบนึกว่าไม่รอดก็จะรอดได้โดยง่าย หรือช่วยร่วมทำบุญที่เกิดประโยชน์ทางสาธารณให้มากที่สุด เช่นการไปขัดห้องน้ำวัด การกวาดถนนหนทางหน้าบ้านและบริเวณใกล้เคียง การช่วยขนปูนขนทรายร่วมสร้างวัด ร่วมสร้างโรงพยาบาล บริจาคเงินซื้อเครื่องมือแพทย์บริจาคให้โรงพยาบาล สร้างถนนหนทาง สร้างสะพานบุญเหล่านี้เป็นบุญใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเพราะมีคนใช้ประโยชน์ในสิ่งนั้นมาก
ที่สำคัญเลยก็คือ ต้องเป็นผู้มีความกตัญญูอย่างสูงต่อผู้ที่มีพระคุณทุกท่านที่เคยมีพระคุณกับเรามา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย คือเลี้ยงดูตอบแทนท่านบุญกุศลในการเลี้ยงดูผู้มีพระคุณจะช่วยหนุนนำไม่ให้เกิดความตกต่ำ เคล็ดสำคัญมากข้อหนึ่ง ให้ไปกราบเท้าพ่อแม่ขออโหสิกรรมต่อท่าน ที่เราเคยหรืออาจจะเคยทำให้ท่านต้องช้ำใจทั้งกาย วาจา ใจ หาน้ำสะอาดล้างเท้าพ่อแม่ เช็ดเท้าให้ท่านขอให้ท่านให้อโหสิกรรม ตั้งจิตอธิษฐานขอเป็นลูกที่ดี ขอพรจากท่านให้สำเร็จในการงานที่ทำ พรของพ่อแม่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าพรของเทวดาชั้นใดทั้งสิ้นเพราะท่านเป็นพระพรหมของลูก
นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ต้องรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด เพราะอานิสงส์ของศีล 5 จะช่วยเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ เจ้ากรรมนายเวรก็จะไม่มีกำลังพอที่จะเจาะเกราะแห่งบุญที่เกิดจากศีลได้ เพราะศีลเป็นเครื่องกั้นความชั่วร้ายทั้งมวลและป้องกันไม่ให้บุญงามความดีรั่วไหลออกจากตัวอีกด้วย ศีลจะเก็บกักบุญที่เราทำให้ส่งผลเร็วขึ้นทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งต้องหมั่นสวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิเพื่อให้ตนเองเกิดกำลังใจที่เข้มแข็งเพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอุปสรรคที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจิตจะไม่ตกและพบวิธีการที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาได้และสุดท้ายก็ขอให้ตั้งจิตอธิษฐานขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายให้เขาทั้งหมดถอนตัวไปจากเรา หรือจะใช้วิธีสวดมนต์อุทิศบุญเพื่อปรับภพภูมิให้เจ้ากรรมนายเวรนั้นเป็นผู้มีความสุขขึ้นเจริญขึ้นก็สามารถทำได้