วางสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างไรให้ "ร่ำรวย" เงินทองไหลมาเทมา

ท่านพ่อค้าแม่ค้าควรรู้! การวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในร้านอย่างไรให้ "ร่ำรวย" นับเงินจนเมื่อยมือ ฮวงจุ้ยการจัดวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจมีผลต่อการทำธุรกิจก็เป็นได้ แต่จะจัดวางอย่างไรจึงส่งผลดีต่อธุรกิจการค้า ไปพบกับวิธีการวางตำแหน่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำร้านที่รับรองว่าถูกต้องตาม หลักฮวงจุ้ย

ปัจจุบันไม่ว่าจะเดินเข้าร้านค้าร้านไหน มองไปรอบ ๆ ร้านก็จะเห็นแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์วางไว้เต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อความเป็นสิริมงคล ทำมาค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา ลูกค้าหลั่งไหลเข้าร้านตลอด แต่เรื่องการวางตำแหน่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีความสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดแต่เรื่องดีๆ ทำมาค้าขึ้นได้ด้วย ถือเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ ในวันนี้มาบอกให้เจ้าของกิจการได้รู้กันว่าวิธีวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหถูกต้องต้องทำอย่างไร

1.มากไปใช่ว่าจะดี
ว่ากันว่าการวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีมากเกินไปจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี เพราะหลักฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พลังอิม (หยิน) พลังของจิตวิญญาณ ถ้ามีมากเกินไปพลังอิมจะไปทำลายพลังเอี้ยง (หยาง) ซึ่งก็คือ โชคลาภ ได้
ร้านค้าต้องการความเคลื่อนไหว หรือ พลังเอี้ยง ยกเว้นว่าร้านนั้นจะเป็นร้านสังฆภัณฑ์ที่ขายของเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยตรง ถึงจะอนุโลมให้วางจำนวนมากได้
เพราะฉะนั้น ร้านค้าจึงไม่ควรวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากจนเกินไป เพราะดูแล้วเหมือนศาลเจ้ามากกว่าร้านค้า

2. เลือกองค์ไหนดี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่มักจะวางในลักษณะหันหน้าออกหน้าร้าน หรือถ้าวางด้านข้างจะต้องวางหันไปที่ประตูร้านเสมอ อย่างไรก็ตาม การวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงกับประตูร้านจะต้องเลือกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ถูกองค์ ซึ่งหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ไม่มีการกำหนดเอาไว้ตายตัว เพียงแต่บอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ควรใช้เป็นองค์เทพมากกว่าจะเป็นพระพุทธรูป เนื่องจากพระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าซึ่งละกิเลสแล้ว ไม่ค้ากำไร แต่องค์เทพมักสร้างบารมีด้วยการช่วยเรื่องผู้คนจึงเหมาะสมกว่า
ร้านค้าที่ชอบตั้งพระพุทธรูปมาก ๆ มักจะเกรงใจลูกค้า เวลาลูกค้าต่อรองสินค้าก็มักจะใจอ่อนยอมให้ เพราะไม่อยากเอากำไรมากนั่นเอง

3. เลือกนางกวักดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
องค์เทพอย่าง นางกวัก เป็นที่นิยมกันมาก การวางตรงประตูร้านถือว่าเหมาะ เพราะเป็นการกวักเรียกลูกค้าให้เข้าร้าน ไม่ควรนำนางกวักไปวางหลบมุม หรือไปวางรวมกับองค์เทพอื่น ๆ นางกวักจะต้องแยกหิ้งวางเดี่ยว ๆ ถึงจะดี และองค์นางกวักจะต้องดูสวย ห้ามเลือกองค์ที่หน้าดุ เรียกว่าลูกค้ามองเห็นจะต้องชอบ ส่วนร้านค้าไหนจะใช้ แมวกวัก ของญี่ปุ่นมาวางหน้าร้าน ก็ไม่ผิดกติกาใด ๆ เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นมงคลเหมือนกัน

4. เทพเจ้าจีนที่ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น
องค์เทพของจีนที่นิยมนำมาวางในร้านค้าก็คือ องค์พระสังกัจจายน์ เพราะแทนความหมายของโชคลาภ ร่ำรวย แต่จะไม่นิยมนำเจ้าแม่กวนอิมมาวาง เพราะเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ จะไม่เน้นเรื่องการค้าขาย
ส่วนบางร้านจะนิยมวางเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งแทนความหมายว่าร้านนี้มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้านั่นเอง

5. เทพสายฮินดูที่เหมาะสม
องค์เทพที่นิยมมากที่สุดก็คือ พระพิฆเนศ เพราะแทนความหมายของความสำเร็จ ซึ่งเคล็ดการวางพระพิฆเนศที่เหมาะสมจะต้องวางคู่กับพระแม่ลักษมี เพราะพระแม่ลักษมีเป็นเทพให้โชคลาภ ร่ำรวย เมื่อนำมาวางคู่กันก็จะได้ความหมายว่า ความสำเร็จในโชคลาภ ถือเป็นมงคลสำหรับร้านค้า

6. ตำแหน่งที่ควรวาง
คราวนี้มาดูตำแหน่งการวางองค์เทพกันบ้าง ตำแหน่งต้องห้ามที่ไม่ควรนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปวาง เพราะผิดตามหลักฮวงจุ้ย มีดังนี้
1. ห้ามวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์พิงผนังห้องน้ำ
2. ห้ามวางเหนือขอบประตูทางเดินเข้าออก
3. เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ห้ามเป็นห้องน้ำ หรือมีคานทับ
4. ห้ามวางพิงเสาที่ลอยกลางห้อง
การวางตำแหน่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งในแง่ของ ความเชื่อ เพราะนอกจากเทคนิค กลวิธีในการทำการค้าขายแล้ว เรื่อง หลักฮวงจุ้ย ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน
ดังนั้นจะวางตำแหน่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้จุดไหนก็ควรจะศึกษาให้ดี ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้การทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้ามากขึ้นไปอีก