"จินตรา พูนลาภ" กับอาถรรพ์เลข 9 และเรื่องลี้ลับที่คําชะโนด!
จากเหตุการณ์ต่างๆ อาถรรพ์เรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้น เพราะนักร้องสาวเสียงพิณ จินตรา พูนลาภ เธอได้มีโอกาสได้ทำเพลงที่ชื่อว่า "ใจช้ำที่คำชะโนด" เพลงสไตล์หมอลำที่สื่อความหมายถึงชายเจ้าชู้ทิ้งคำสัญญาไว้ใต้ต้นชะโนด ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเธอก็เป็นคนที่มีความเชื่อเรื่อง ปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีปทุมมา หรือ พญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และในครั้งนี้ก็มีเหตุการณ์เรื่องบังเอิญที่ชวนน่าขนลุกเกิดขึ้นกับเธอ ซึ่ง จินตรา พูนลาภ ได้เล่าให้ฟังว่า..
จินตหรา พูนลาภ : จริงๆ เพลงนี้เกิดจากความเชื่อส่วนตัวของ จิน ค่ะ เพราะ จินเคยฝันเห็นพญานาคมาเล่นน้ำอยู่ข้างบ้าน จากนั้นเลยมีความผูกพันกับพญานาคมาตลอด และเชื่อว่าถ้าขอพรอะไรก็จะได้สิ่งที่ดีงามเข้ามาในชีวิต หลังจากนั้นก็ไปคุยกับอาจารย์นักแต่งเพลง คือ อ.เพ็ชร รัชชาตะวัน ก็เลยได้เป็นเพลงนี้มาค่ะ ใจช้ำที่คำชะโนด และต้องนำทีมกองถ่ายมาถ่ายทำที่คำชะโนดด้วย
อันนี้จะพูดจากใจเลย เพราะเราพา น้องเก่ง วง FLAME ไปไหว้ คือเราไม่ได้เชื่อเรื่อง ปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีปทุมมา หรือ พญานาค เพียงอย่างเดียว แต่เพราะเราเป็นคนอีสาน ก็จะมีความเชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษที่จะติดตัวเรา คือเราเชื่อแล้วความสำเร็จมันก็ตามมา คือก่อนที่เราจะออกเพลงแต่ละที่จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เราไม่ข้ามไปในทางที่ผิด พอเราไปหาท่านเพื่อจะขอร้องเพลงท่าน ก็ไปบวงสรวงเพื่อจะร้องเพลงให้ได้สำเร็จ ซึ่งเราก็มีความเชื่อและศรัทธาว่าสิ่งเหล่านั้นมีจริง ไม่ได้เชื่อไม่ลืมหูลืมตา คือเชื่อว่าทุกสิ่งมีเจ้าที่เจ้าทาง มีสิ่งที่คุ้มครองที่ทำให้ประสบความสำเร็จค่ะ
ตอนที่ถ่ายทำมีเหตุการณ์อะไรที่แปลกๆ คาดไม่ถึงเกิดขึ้นไหม?
จินตหรา พูนลาภ : มีเหตุการณ์บังเอิญเยอะค่ะ อย่างการถ่ายเอ็มวีก็เปลี่ยนวัน อย่างเราออกเพลงวันที่ 9 น้องเก่งเขาออกเพลงวันที่ 9 เหมือนกัน คือมีตัวเลข 9 เกิดขึ้นเยอะมาก ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรแต่พอเพลงดังก็คิดย้อนไปว่า เออเพลงออกวันที่ 9 ถ่ายเอ็มวีวันที่ 9 วันที่โปรโมตเพลงก็วันที่ 9 หมด ทุกอย่างมันเป็น 9 9 9 9 หมดซึ่งตรงกับเลขรัชกาลที่ 9 ของในหลวง
อีกสิ่งหนึ่งที่เจอคือช่วงที่ถ่ายทำเป็นช่วงฝนตกหนักแต่วันที่ถ่ายทำไม่มีฝนเลย และช่วงกลางคืนปกติที่นั่นแมลงเยอะจนคนที่นั่นคิดว่าจะถ่ายไม่ได้ แต่วันที่ถ่ายทำก็ไม่มีแมลงเลย และอีกอย่างหนึ่งคือจินเป็นคนที่รำไม่เป็น คือเป็นหมอลำ แต่รำไม่ได้ เป็นคนมือแข็งฟ้อนไม่ได้เลย แต่พอเราเข้าฉากวันนั้น โดนผลักเข้าไปรำได้เฉยเลย ตัวเบาหวิวเลย ช่างแต่งหน้าก็งงว่าปกติเรารำไม่ได้ เราเองก็บอกว่าอยู่ดีๆ เราก็รำได้เอง คือมันมีอะไรหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับพี่จินช่วงที่ถ่ายทำ ซึ่งเป็นที่่น่าแปลกใจมากค่ะ