“หมอปลา” ฉะ “หมอไสยเวท” เพ้อเจ้อเสกลูกมะพร้าวขายชาวบ้าน

“หมอปลา” ฉะ “หมอไสยเวท” เพ้อเจ้อเสกลูกมะพร้าวขายชาวบ้าน

“หมอปลา” ฉะ “หมอไสยเวท” เพ้อเจ้อเสกลูกมะพร้าวขายชาวบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่โลกสังคมออนไลน์ได้ออกมาแฉหมอดูรายหนึ่ง ใน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ระบุเมาแอ๋ระหว่างทำพิธีปัดเป่า ก่อนบังคับซื้อ “ลูกมะพร้าว” ลูกละ 2 พัน ใครไม่เชื่อจะแช่งให้ตาย จนมีชาวบ้านออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรม

ซึ่งรายการโหนกระแส  ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ทางช่อง 28  ได้เชิญ คุณวัชระวุฒิ วิรัมย์” หรือ หมออ๊อฟ” หมอดูที่ทำพิธีผู้ตกเป็นข่าว รวมไปถึง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นิตยา  ไกรษร”  คนพาหมออ๊อฟมาทำพิธีปัดเป่าในหมู่บ้าน คุณจำปา  อ่อนสร้อย” และ คุณทองพูน แดงสี”  ชาวบ้านที่ร่วมพิธี รวมทั้ง หมอปลา มือปราบสัมภเวสี” มาเผยความจริงกันในรายการ  จน หมอปลา” ฉะ “หมอไสยเวท” เสกลูกมะพร้าวขายชาวบ้าน อัดโกหก-เพ้อเจ้อ! ท้าพ่อปู่เข้าร่างกลางรายการให้เห็นจะจะ 

 

หมอปลาไม่เชื่อเรื่องนี้ ?

หมอปลา : ไม่เชื่อครับ เพ้อเจ้อ ดูข่าวแล้วมันไม่ใช่ มะพร้าวเขาเอาไว้กิน ไม่ใช่ทำพิธีบวงสรวงรักษาคน ไม่มีหรอกครับ

 

เริ่มที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก่อน เกิดอะไรขึ้นถึงไปเชิญหมออ๊อฟมา ?

นิตยา : คือคนในหมู่บ้าน ไม่เคยป่วย อยู่ๆ ก็ตาย แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อย เดี๋ยวชนคนนั้น เดี๋ยวชนคนนี้ เหตุเกิดที่ไหนทำไมต้องมาตายที่หมู่บ้านแสลงโทน ก็มีถูกรถชน เดือนหนึ่งประมาณ 3 คน ตายติดต่อกันจนครบ 10 คน

 

นึกยังไงไปเชิญหมออ๊อฟมา ?

นิตยา : ก็คิดว่าจะมีเภทภัยต่างๆ ที่ถ้าเราไม่เชื่อแต่ก็น่าจะเชื่อ ก็ยกศาลเพื่ออัญเชิญปู่ย่าตาทวด บวงสรวงขึ้นศาล ไม่ให้เดินทางถนนหนทาง ให้คนมีเคราะห์ไปเจอแล้วเกิดอุบัติเหตุ ก็ให้อาจารย์อ๊อฟเชิญให้ไปอยู่ในศาล

 

ค่าจ้างเท่าไหร่ ?

นิตยา : หมออ๊อฟไม่ได้เรียกค่าจ้างค่ะ

 

แต่ตามข่าว 15,500 บาท ?

นิตยา : ไม่ใช่ค่ะ

หมออ๊อฟ : ไม่เคยเรียกครับ อันนี้เป็นข้อมูลเท็จจริงๆ ยังงงว่าไปได้ข่าวมาจากไหน ไม่ใช่ครับ ผมบอกกับพี่ผู้ช่วยก่อนที่จะเชิญผม เพราะผมอยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีการโปรโมตตัวเอง ไม่มีการติดป้าย ไม่มีการโปรโมตใหญ่โต ไม่มีการโปรโมตในเฟซบุ๊กใดๆ ทั้งสิ้น ผมอยู่แบบหมอสายโบราณพื้นบ้านที่เขาเป็นกันมา

 

หมอด้านอะไร ?

หมออ๊อฟ : หมอไสยเวท รักษาอาการเจ็บป่วยอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เพราะว่าเขมร ชาวบ้านสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ เขาจะเชื่อถือผี

 

ไปเรียนวิชามาจากไหน ?

หมออ๊อฟ : บางวิชาเรียนจากอาจารย์ในละแวกใกล้ๆ จากพระเกจิบางรูป ผมก็เรียนจากสุรินทร์บ้าง บุรีรัมย์บ้าง เขมรบ้าง เป็นวิชารักษาถอนคุณไสย

 

ไล่ผีได้มั้ย?

หมออ๊อฟ : ไล่ได้ครับ

 

พอไปถึงหมู่บ้าน เราจับอะไรได้ ?

หมออ๊อฟ : ตอนแรกผมยังไม่ได้ไป เขาให้ผมดูอยู่ที่บ้าน ใช้จิตดู เขามีขันธ์ 5 และเงิน 2 บาทค่าครูผม เขาบอกว่าที่หมู่บ้านมีปัญหาอะไร ทำไมเกิดเรื่องแปลกๆ ในหมู่บ้าน ผมก็บอกว่ามีคนรุกรานกำแพงดินเก่า คูเมืองเก่า คูเมืองโบราณ มันจะเป็นคล้ายๆ เมืองโบราณเมืองขอม

นิตยา : มีจริงค่ะ

หมออ๊อฟ : แล้วผมก็ทายทักว่า มันมีต้นมะค่าโมงเก่า แล้วตรงนั้นเป็นทางลึก เขาเรียกว่ากำแพงขาด แล้วเป็นอุโมงค์ต้นไม้ บางทีชาวบ้านเดินไปก็ได้ยินอะไรแปลกๆ บางทีก็ได้ยินปี่พาทย์ บางทีก็ห้อยหัวลงมา ชาวบ้านก็ยืนยันตรงกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นผีมั้ย พอส่องเห็น ท่านผู้ช่วยกับชาวบ้านไปหาผมหลายคน เขาบอกว่าอยากให้มาทำพิธี ผมก็บอกทางชาวบ้านว่าให้ไปปรึกษาตกลงกันนะ พี่ผู้ช่วยถามผมว่า หมอจะเอาค่าทำพิธีเท่าไหร่ ผมบอกว่าไม่มีการเรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พอไปถึงก็สัมผัสได้ว่ามีสิ่งไม่ดี ลูกหลานไปเหยียบย่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมเลยเอาลูกมะพร้าวมาเพื่อล้าง

 

ที่บอกว่าขาย?

หมออ๊อฟ : พูดว่าขายก็ไม่ถูก ให้บูชา หลังจากบูชาเสร็จ ผมไม่ได้เอาไปนะ ขอแค่ขึ้นครู สวดให้ครบ 7 วัน จะให้ไปทำบุญทำทานในหมู่บ้าน

 

พอทำศาลเสร็จแล้วก็เสกมะพร้าว ?

หมออ๊อฟ : เสกเพื่อล้างสิ่งไม่ดีออกไป เช่น พวกผีปีศาจ ตอนแรกให้บูชาลูกละ 99

 

ตอนหลังมีการดื่มเหล้า ?

หมออ๊อฟ : ต้องให้คนที่อยู่ในพิธีเป็นคนบอก คือปู่ย่ามาเข้าร่าง ผมไม่รู้เรื่อง ปกติผมไม่ดื่มเหล้า พอทรงบางคนเห็นว่ายกเป็นขวด

นิตยา : เข้าปากนิดๆ ไม่ได้เมา

 

หมอปลาเชื่อมั้ย ?

หมอปลา : ไม่เชื่อครับ มะพร้าวจะทำพิธีตรงนี้ได้ยังไง แกบอกว่าเพราะคนในหมู่บ้านไปเหยียบย่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มึงปัญญาอ่อนถึงขนาดให้คนเหยียบย่ำได้หรือครับ คิดง่ายๆ คุณเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุณเห็น มนุษย์ไม่เห็น กระโดดสิครับ

หมออ๊อฟ : การเดินย่ำไม่ใช่การเดินเหยียบครับ การเหยียบย่ำคือการดูหมิ่น ไม่เคารพสถานที่ ไม่ใช่ว่าไปเดินเหยียบ เป็นการดูหมิ่น ไม่เคารพสถานที่ รู้ว่าตรงนั้นเป็นโบราณสถาน เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน แต่ลูกหลานไปทำลายสร้างสิ่งปลูกสร้าง นั่นคือการเหยียบย่ำ ไม่ใช่ไปเดินเหยียบ ต้องเข้าใจด้วยนะหมอปลา

หมอปลา : มันไม่ใช่ครับ ถามว่าการดูหมิ่น ดูหมิ่นยังไงครับ

หมออ๊อฟ : ดูหมิ่นโดยการทำลายครับ เป็นกำแพงดินโบราณแต่ไปขุดไปถางเรียบหมด

หมอปลา : มันไม่ใช่การดูหมิ่นหรอก มันเป็นการทำมาหากิน ตรงนั้นถ้าเป็นปู่ย่า ก็น่าจะไปผุดไปเกิด ให้ชาวบ้านเขาทำมาหากิน ชาวบ้านเขาจะได้รวย ถ้าคุณอยู่จริงๆ ชาวบ้านก็เดือดร้อน มันไม่เกี่ยวเลย ถ้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องมาช่วยคน ไม่ใช่มาทำร้ายคนนะพี่

 

ทำไมตอนแรกราคามะพร้าวถึงขึ้น ?

หมออ๊อฟ : อันนี้ไม่ได้ขึ้นครับ ชาวบ้านให้ดูคลิป ขึ้นกับคนที่อยู่ทางสามแพร่งคนนั้นคนเดียว เหมือนปู่ท่านหยอก ท่านล้อมากกว่า ไม่ใช่ว่าไปชี้หน้าด่าปาวๆ เหมือนที่ให้ข่าว ไม่ใช่นะ เขาร้องเหมือนทำนองเขมร เขาเอาให้ดูอยู่ ประมาณว่าขอสัก 2 พันได้มั้ย ถ้าไม่ให้ไม่ได้แช่ง เขาบอกไม่มี ปู่บอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ประมาณว่าไม่มีได้ไง ทำมาค้าขายอยู่ตรงนั้น ต้องมีให้บ้าง เขาก็ไม่ให้ ปู่แกก็หยุด ไม่ใช่เดินไปชี้หน้า

 

ไปดูฝั่งชาวบ้านที่เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปู่หรือคุณแช่ง ?

หมออ๊อฟ : ไม่ใช่ผมแน่นอน เพราะผมไม่ค่อยคุยกับใครอยู่แล้วระหว่างทำพิธี คนที่ออกคลิปวันนั้นเห็นข่าวว่าไม่ใช่คนในพื้นที่ด้วย เป็นคนนอกที่เพิ่งมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน

 

มะพร้าวไปเสกอะไร ?

หมออ๊อฟ : ก็ไปเสกคาถาตามที่พ่อปู่ท่านทรงมา ไม่ต้องดื่มครับ อุปมา น้ำอะไรที่บริสุทธิ์ที่สุด คือน้ำมะพร้าว ขนาดคนตายยังเอาล้างหน้าศพ เสกแล้วก็ล้างตรงแผ่นดินตรงนั้น ตรงเป็นหุบเป็นที่เก่าโบราณของเขา

 

ปู่ในร่างคนไปบอกเขาเห็นมีเงินในเก๊ะไปเอามาบูชา แล้วปู่บอกว่าขอให้มึงทำมาค้าไม่ขึ้น ?

หมออ๊อฟ : ไม่ได้ข่มเสียงขนาดนั้นครับ พูดหัวๆ กัน คนในพิธีก็หัวเราะขำๆ

หมอปลา : คุณรู้ได้ไง

หมออ๊อฟ : ผมดูคลิปครับ มันไม่ใช่ลูกละสองพัน พอดีมีบ้านหนึ่งซึ่งผมเคยรักษาให้หาย ลูกเขาบูชาพันนึง แม่เขาบูชาพันนึง ไม่ใช่ลูกละสองพัน

 

แล้วที่บอกว่าเมาล่ะ ?

หมออ๊อฟ : ถ้าเมาผมคงขับรถกลับบ้านไม่ได้ บางทีผมมาทำพิธีถึงกรุงเทพฯ ทำพิธีตามต่างจังหวัดหลายๆ ที่ ถ้าผมเมาคงหนีไม่พ้นตำรวจ เป่าแอลกอฮอล์ยังไงก็ขึ้น แต่ทุกวันนี้เป่าแล้วก็ไม่ขึ้นครับ

 

พี่เป็นอะไร ?

จำปา : ไม่สบายค่ะ อยู่ๆ ก็ป่วยแล้วล้ม พาราก็ช่วยไม่ได้ ไปหาหมออ๊อฟ

 

เขาให้กินมะพร้าว ?

จำปา : ไม่ได้กิน แต่แกเข้าทรง ไล่สิ่งที่เลวร้ายอยู่ในตัวหาย

หมออ๊อฟ : ทางเขมรเราเชื่อและเคารพเรื่องผีสางมาตลอด บางทีไปทำผิดกับสถานที่ ไม่รู้จะแก้ยังไง เขาเรียกว่าพิธีกรรมเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเพื่อสอบถามว่าลูกหลานทำผิดตรงไหนจะได้แก้ไข มันเป็นความเชื่อที่บรรพบุรุษสอนเรามาเป็นร้อยๆ พันๆ ปี ก่อนที่จะมีศาสนาอีก

 

แต่คือคุณหาย ?

ผู้หญิง : ใช่ค่ะ

 

ทางคุณเป็นอะไร ?

ทองพูน : ผมเป็นคนช่วยเหลือผู้ช่วย ทำพิธีบายศรี เดินสายสิญจน์รอบบ้าน  ผมไม่ได้ป่วย ช่วยดูแลจัดสถานที่

 

ยืนยันว่าหมออ๊อฟไม่ได้หลอก ?

ทองพูน : ไม่ได้หลอกครับ

 

หมอปลาว่ายังไง ?

หมอปลา : หลอกครับพี่ ปู่มาหลอกคน มันไม่ใช่

หมออ๊อฟ : หลอกตัวเองตรงไหน

หมอปลา : แค่บอกว่าตัวเองมีองค์ มาทรง มันก็หลอกอยู่แล้วครับ เพราะศาสนาไม่เคยสอนเรื่องการทรงเจ้าอยู่แล้ว เป็นแค่เรื่องที่คิดอุปมา อุปไมยเอง ตอนคุณบอกว่าคุณทรง คุณไม่รู้ตัว ผมไม่เชื่อ โกหกตอแหลครับ

 

แล้วเขาตั้งศาลล่ะ ?

หมอปลา : ก็บอกว่าเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อ คิดกันเอง ปู่ที่ไหน ถ้าผมไปก็ทุบไม่เหลือครับ ถามว่าไปทุบแล้วจะเกิดอุบัติเหตุมั้ย ไม่เกิดหรอก ทำถนน ทำสัญลักษณ์ให้คนในหมู่บ้านอย่าประมาท มันก็ไม่เกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว พิธีกรรมนี้บ้าบอคอแตก

หมออ๊อฟ : ขอถามหน่อย ถ้าหมอปลาบอกว่าผีไม่มี แล้วที่หมอปลาไล่ผีทุกวัน มันคืออะไร

หมอปลา : นั่นไม่ใช่ปู่ครับ ผมเรียกว่าปัดเป่าครับ

หมออ๊อฟ : ผมก็ปัดเป่า แต่ตอนทำพิธีเชิญเขาให้ปู่เข้ามา

หมอปลา : ขอโทษคุณทำตอนนี้ได้มั้ย

หมออ๊อฟ : ไม่ได้ครับ ผมไม่ใช่หมอที่ทำนอกพิธีการ

หมอปลา : ผมอยากคุยกับปู่ เพราะคุยกับพี่ พี่ตอแหลผมอ่ะ ผมอยากคุยกับปู่

 

สร้างศาล ขึ้นศาลไว้แล้ว เขาไปทุบได้มั้ย ?

นิตยา : ไม่ให้ทุบค่ะ มันเป็นความเชื่อของตัวดิฉัน เป็นความเชื่อของชาวบ้าน

หมอปลา : มะพร้าวนี่ปลุกเสกอะไร กินแก้อะไรเหรอ พอเสกมะพร้าว มาตั้งศาลไม่ให้คนตาย มันเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่งั้นคนก็ล้นโลกสิครับพี่

หมออ๊อฟ : ไม่ใช่ว่าห้ามไม่ให้คนตาย ก็คุณไม่ได้ไปอยู่ในหมู่บ้านเขา คุณจะรู้ได้ยังไง

หมอปลา : ผมเดินทางไปภาคอีสานเยอะ ผมก็อธิบายให้เขาฟัง ทำไมคนเขาถึงเชื่อเรื่องพวกนี้เยอะ เชื่อคนหมดเนื้อหมดตัว บางคนรื้อบ้าน ผมก็คุยให้เขาฟัง อย่างเรื่องสุขภาพ ผมก็แนะนำให้เขาไปตรวจสุขภาพ แต่อย่างอุบัติเหตุนี่ ผมไม่แนะนำให้ใครตั้งศาลหรอก ผมว่าพี่ไปทำสัญลักษณ์และอบรมเด็กอย่าให้ขับรถไว  มันก็ไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่นี่อะไรมาทำพิธี มันไม่ใช่ ถ้าปู่มีจริง ปู่มาเข้าร่างผมหน่อยครับ ถ้าปู่มีจริงอยู่มาหลายปี ก็ไปผุดไปเกิดเถอะ

 

คุณเสกหนังควายให้เข้าท้องเขาได้มั้ย ?

หมออ๊อฟ : ผมไม่ใช่หมออะไรแบบนั้นครับ ผมไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี

 

เขาว่าปู่ ปู่ได้ยินมั้ย ?

หมออ๊อฟ : อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ เขาเชิญผมไปทำพิธี ถ้าเขาไม่เชิญ ผมไม่ไปทำเด็ดขาด

 

มีข่าวว่ามีเงินอีก 3 หมื่นเป็นค่าอะไร ?

หมออ๊อฟ : ชาวบ้านร่วมบริจาคลูกมะพร้าวได้ 3 หมื่นกว่า ที่บอกว่าผมไปเรียกค่าทำพิธีอีก 15,500 ไม่ได้เรียกเงินเลยครับ

 

ผู้ช่วยเก็บเงินไว้เองหรือเปล่า ?

นิตยา : ไม่ค่ะ ค่าตีลูกคลี คือเอาลูกมะพร้าวมาสะเดาะเคราะห์ได้ 17,000

 

แพงสุดเท่าไหร่ ?

นิตยา : สองพัน แต่เขาไม่ได้ให้

 

ต้องไปขอให้เขาบูชา ตามจิตศรัทธาไม่ได้เหรอ ?

นิตยา : ก็บูชา 99 ก็ให้บูชาลูกละ 100 เลย  นอกนั้นก็แล้วแต่เลื่อมใส ศรัทธา ดิฉันเป็นผู้นำให้ก่อนเขา 500 ใครจะบูชาต่อจากผู้ช่วย 99 แต่เขาบอกว่าไม่มี 99 ให้ 100 ได้มั้ย ก็ได้ แล้วแต่ศรัทธา

 

ลูกมะพร้าวเอาไปทำอะไร ?

ผู้ช่วย : เอาไปตี แล้วสะเดาะเคราะห์ น้ำแตกกระจายกองอยู่หน้าพิธี ก็ชำระล้างแผ่นดิน เนื้อก็ทิ้งทั้งหมด เพราะเป็นพิธีล้างภูตผีปีศาจ

 

จ่ายแพงสุดเท่าไหร่ ?

ผู้ช่วย : คนจ่ายแพงสุด 2,000 เขาให้เอง ไม่ได้เรียกร้อง เขานับถืออาจารย์ เขาเลื่อมใสอาจารย์

หมออ๊อฟ : จริงครับ ผมเคยรักษาเขา เขาน่าจะโดนคุณไสย

 

แล้วเงินที่เหลือเอาไปทำอะไร ?

นิตยา : อยู่กับดิฉัน พอเอาไปขึ้นครูแล้วครบ 7 วัน ก็เอามาให้ดิฉัน

 

เอาไปก่อนทำไม ?

หมออ๊อฟ : เอาไปขึ้นพาน แล้วสวดสะเดาะเคราะห์ให้เขาอีก 7 วัน แล้วเอาหมื่นเจ็ดมาคืนให้ผู้ช่วย

นิตยา : เอาไปทำบุญหลังจากนี้ แต่เอามาให้นักข่าวดูก่อน

หมอปลา : ความจริงเงินหมื่นเจ็ดปู่เอาไปพี่ แต่พอเป็นข่าวปั๊บปู่ก็ต้องแก้ตัวเอามาคืนชาวบ้าน

หมออ๊อฟ : ผมเคยทำให้หลายที่แล้วครับ ขนาดเทศบาลบางที่ก็เอาผมไปทำ พอเอาผมไปทำ ผมส่งคืนทุกบาททุกสตางค์ทุกที่ครับ ไปถามได้เลย เอาไปขึ้นถาดครู ขึ้นแล้วก็เขียนชื่อหมู่บ้านเขาแล้วก็สวด บอกเจ้าที่เจ้าทาง ว่าลูกหลานขอซื้อที่ตรงนั้นเป็นที่อยู่อาศัยแล้วนะ เงินทองนี้ลูกหลานจะทำบุญอุทิศให้เจ้าที่เจ้าทางต่อไป มันเป็นพิธีกรรมของเขมรที่เขานับถือมา คุณจะให้เขาเชื่อแบบคุณไม่ได้

หมอปลา : ไม่ใช่ มันเพ้อเจ้ออ่ะพี่

หมออ๊อฟ : ไม่งั้นก็คงเพ้อเจ้อทั้งอีสาน

หมอปลา : เพ้อเจ้อแค่กลุ่มคนเดียว แล้วไปหลอกลวงคน ผมไปสัมผัสมาหมดแล้ว ที่บอกว่าปู่มีการหยอกล้อ ปู่มีเวลาว่างขนาดนั้นเลยเหรอ มาหยอกล้อชาวบ้าน

หมออ๊อฟ : พิธีของผมไม่มีการจำกัดชั่วโมง บางทีสองวันสองคืนก็มีนะ

หมอปลา : ปู่ว่างขนาดนั้นเลยเหรอครับ

หมออ๊อฟ : ขอเชิญไปดูการทำพิธีครับ

หมอปลา : ไปครับ

 

ในมุมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถ้าหลังจากนี้ไม่เป็นไปตามที่หมออ๊อฟบอกจะทำยังไง ?

นิตยา : ก็ตั้งแต่แก้บนมายังไม่มีนะ ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

เชื่อทางนี้หมดใจ ?

นิตยา : ค่ะ

 

หมอปลาไม่เชื่อ ?

หมอปลา : เพ้อเจ้อ

หมออ๊อฟ : ผมไม่ได้ให้หมอปลามาเชื่อนะครับ กรณีนี้ผมมาชี้แจง ไม่ได้ให้ใครเชื่อในตัวผม แต่ผมมาชี้แจงในข่าวที่บอกว่าผมไปขูดรีดชาวบ้าน และเรียกเงินอีก 15,500 แต่สำหรับใครจะเชื่อ ใครศรัทธา ผมไม่มีเสื้อแจก ไม่มีป้ายประกาศ ไม่มีวัตถุมงคล ผมมีแค่ตัวผม ซึ่งเขาได้ยินกันปากต่อปาก จะไม่มีการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก ผมอาศัยชาวบ้านรู้จักปากต่อปากเท่านั้น

หมอปลา : พี่มีจิตใจที่หลอกลวงคน

หมออ๊อฟ : ถามว่าคุณมองแค่ข่าวในแง่ตรงนี้

หมอปลา : ไม่ได้มองแค่ข่าว แค่บอกว่าปู่ลง มันก็โกหกล้านเปอร์เซ็นต์แล้วนะครับ

หมออ๊อฟ : ผมไม่ได้ให้คุณเชื่อผมครับ

 

ท้าให้หมอปลาไปดูพิธีกรรม ?

หมอปลา : ไปครับ

หมออ๊อฟ : เดี๋ยวจะพาไปทัวร์สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ

หมอปลา : ผมไปทุกเดือน ผมไปช่วยคนเยอะแยะ

 

ทุบได้มั้ย ?

ผู้ช่วย : ไม่ให้ทุบค่ะ เป็นความเชื่อของคนในหมู่บ้านค่ะ

หมอปลา : มีคนไม่เชื่ออีกเยอะ

 

ไม่กลัวคนมาด่าคุณเหรอ ?

หมอปลา : ผมก็ด่ากลับนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook