ดูกันจะจะ คลิป “แจ๊ค-จิลล์” เสริมดวงสื่อพลังโพมินข่อง สาวไทยถึงขั้นของขึ้น!
ของขึ้นคาพม่า “แจ๊ค-จิลล์ กุมารทอง” ทำพิธีดวงดีสื่อจิตโพมินข่อง พานักแสวงบุญไปไหว้ขอพรจาก “โพมินข่อง” นัตเทพ ที่ทั้งคู่เผยว่าเป็นจอมขมังเวทที่มีอิทธิฤทธิ์มากที่สุดในพม่า มากกว่า “เทพทันใจ” เสียอีก
จากอดีตนักร้องฝาแฝดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โผล่มาอีกทีก็โด่งดังในฐานะเซียนกุมารทองอันดับ 1 ของเอเชีย และเมื่อไม่นานมานี้ก็ออกมาเปิดเผยว่า ไปเรียนวิชาไสยเวทจากหมอผีเขมรมา เพื่อที่จะใช้ควบคุมเครื่องรางของขลังที่เจ้าตัวมีสะสมมากมายเต็มบ้าน และสารภาพว่า กุมารทองรุ่นต่างๆ ของแจ๊ค-จิลล์ที่ทำออกมาขายดีประสบความสำเร็จจนเป็นที่นิยมของนักธุรกิจไทยและต่างชาตินั้น ตนเองเป็นผู้ปลุกเสกเอง! ทำให้เหล่าดาราและคนดังแห่มาให้ทำพิธีเสริมดวงให้
ล่าสุดก็พาแฟนคลับไปทำพิธีเสริมดวงที่ประเทศพม่า โดยทำพิธีที่ศาล “นัตโพมินข่อง” เมืองหงสา ซึ่งเป็นนัตจอมขมังเวทอันดับ 1 ของพม่าที่เคยมีชีวิตอยู่จริงเมื่อ 200 ปีที่แล้ว เป็นปรมาจารย์ทั้งด้านหมอยา หมอผี เวทมนตร์ ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ มนตร์แดง ของแรงมีพลังมากที่สุดในบรรดา 37 นัตของพม่า มีพลังเหนือ “นัตโบโบจี” หรือที่คนไทยเรียกเทพทันใจ เป็นที่ศรัทธา เคารพนับถือของชาวพม่ามากที่สุดเพราะขอได้ทุกอย่างและได้รวดเร็วเพราะเป็นนัตจอมขมังเวท
ของบูชา “นัตโพมินข่อง” มีดังต่อไปนี้
บุหรี่ฉุน , ชา , กล้วย และ มะพร้าว
การไปทำพิธีดวงดีเสริมดวงที่ศาลโพมินข่องครั้งนี้ ค่อนข้างเป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับชาวพม่ามาก เพราะปกติคนไทยจะไม่เข้ามากราบไหว้บริเวณศาลโพมินข่องมีแต่ชาวพม่าเท่านั้น โดยสองพี่น้องได้นำผ้ายันต์ครูโภคทรัพย์ 8 ทิศ ซึ่งเป็นยันต์ที่ตกทอดจากครูบาอาจารย์มาแล้วหลายรุ่นและใช้ในการทำพิธีต่างๆ มาหลายร้อยงาน และยันต์ผืนนี้นี่แหละที่ดารา นักธุรกิจชาวไทย ชาวจีน ฮ่องกง ต่างติดต่อเข้ามาเพื่อให้แจ๊ค-จิลล์ทำพิธีดวงดีเสริมดวงแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ และประสบความสำเร็จ งานเงินหลั่งไหลเข้ามาอย่างน่าอัศจรรย์ จนเป็นที่ร่ำลือของคนดัง นักธุรกิจไทยและต่างชาติ
โดยสอง พี่น้องแจ๊ค-จิลล์ ได้นำยันต์ผืนดังกล่าวมาเข้าร่วมพิธี และให้ผู้เข้าร่วมพิธีนั่งบนผ้ายันต์เพื่อรับพลัง จากนั้นก็โยงสายสิญจน์จากนัตโพมินข่องไปยังผู้เข้าร่วมพิธีและพึมพำร่ายคาถาสื่อจิตถึงโพมินข่อง เวลาผ่านไปไม่นานจิลล์หนึ่งในพี่น้องฝาแฝดก็เริ่มมีอาการแปลกๆ และเดินไปจับมือของผู้ร่วมพิธีทีละคนพร้อมกับบ่นงึมงำเหมือนกับร่ายคาถาบางอย่าง กระทั่งถึงผู้ร่วมพิธีคนหนึ่ง พอมือสัมผัสกันก็เกิดอาการของขึ้นจะกรีดร้องและจะลุกขึ้นยืน ทำให้จิลล์ต้องร่ายคาถาและกดลงทุกอย่างจึงสงบลง หลังจบพิธีสองพี่น้องถึงกับเข่าทรุดหมดพลัง เอ่ยปากว่า ท่านมาแรงจริงๆ
“เหนื่อยครับ หมดพลังเลย ปกติไม่เคยมาสื่อให้ใครแบบนี้มาก่อน จะทำพิธีกันเงียบๆ ไม่อยากออกมาบอกว่าเราทำอะไรได้ บอกตรงๆ ว่าอาย แต่การที่มาพม่าครั้งก่อน มาที่บริเวณวัดแห่งนี้และได้ยินเสียงเรียก ทำให้เราเดินตามมาจนเจอศาลโพมินข่องแห่งนี้ ท่านสื่อให้เรามา ท่านต้องการจะสื่อบอกว่า ท่านคืออันดับ 1 ของพม่า ท่านมีพลังสูงสุดไม่ใช่นัตโบโบจีหรือเทพทันใจ เราก็เรียนด้านไสยเวทมาเหมือนลูกศิษย์มาเจออาจารย์เลยสื่อกันได้ ทำให้เราต้องออกมาบอกต่อว่า ท่านคืออันดับ 1 ถ้าต้องการจะขอพร ขอได้ทุกสิ่ง ขอได้เร็ว ต้องนัตโพมินข่องเพราะเป็นนัตจอมขมังเวท มีฤทธิ์เยอะ บันดาลได้ทุกสิ่ง ไม่เหมือนเทพทันใจที่เป็นนัตถือศีลจะให้ได้เฉพาะบางเรื่อง เช่นเรื่องการเรื่องงานเท่านั้น ถ้าจะขออะไรที่เป็นสีเทา ขอโชค ขอลาภ ขอเสน่ห์เมตตา ขอทุกสิ่งต้องขอที่นัตโพมินข่อง ชาวพม่าที่นี่รู้ดีและศรัทธาท่านมาก นัตเทพทันใจนี่ไม่เป็นที่นิยมของชาวพม่านะ มีแต่คนไทยนี่แหละที่นิยมมาไหว้กัน”
“สำหรับพิธีกรรมนี้ เราได้พาแฟนคลับมาทำพิธีเกี่ยวกับเรื่องโชคลาภและหลายๆ เรื่องนะครับ เสริมดวงต่างๆ และขอพรท่านโพมินข่อง และก็ได้เห็นแล้วว่าท่านได้สื่อผ่านมา อันนี้ไม่ได้ลงทรงนะครับ แต่ผ่านสื่อมาให้สมาชิกได้รับพลังงานกันทุกคน ก็เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไหร่ในพม่า เพราะอันนี้เป็นพิธีกรรมที่เราสองคนได้สื่อให้กับสมาชิกได้โชคดีและสมหวังในสิ่งที่ขอ”
“สำหรับอาการที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อกี้ บอกเลยว่าท่านไม่สามารถที่จะไปทรงใครได้นะครับ มันเป็นอาการที่ท่านส่งผ่านสื่อมา ตอนแรกเราก็ทำพิธีกันปกติ แต่เป็นครั้งแรกที่ทำให้หลายๆ คนพร้อมกัน แต่บอกตรงๆ เลยว่าครั้งแรกที่ตั้งใจคือแค่จะโยงสายสิญจน์ให้รับพร พลังงานที่เราโยงสายสิญจน์มาจากท่านจะอยู่บนผ้ายันต์ พลังงานต่างๆ จะส่งผ่านยันต์ไปถึงทุกๆ คน และก็จะสวดมนต์ขอพร แต่กลับกลายเป็นว่า พอโยงสายสิญจน์และเริ่มสวด ผมก็ลุกไปจับมือทุกคนโดยอัตโนมัติ”
“ตอนนั้นผมไม่รู้สึกตัวเองเลย รู้แต่ว่าต้องทำอะไร คือไม่ให้ไป จะให้ทำ ไม่รู้เลยว่าตัวเองเหงื่อออกเยอะมาก มาดูคลิปย้อนหลังถึงได้รู้ว่าเหงื่อออกเยอะมาก แต่ตอนตัวสั่นน่ะรู้นะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าจะทำให้เสร็จ รู้ว่าท่านผ่านมาให้ทำ คือเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คิดไว้ว่าจะต้องมาทำแบบนี้ แต่ที่ผมสื่อได้คือท่านต้องการที่จะทำให้ทุกคนให้ครบ ท่านก็สื่อให้เราทำให้ทุกคน ท่านก็บอกว่ามาแล้วนะ ให้รู้ว่าท่านมีตัวตนนะ ท่านอยู่อีกที่หนึ่ง น้อยครั้งที่ท่านจะลงมา”
(คุณเทียนหอม ผู้เข้าร่วมพิธีที่มีอาการของขึ้นกรีดร้อง)
“มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้องขึ้นมา อาการที่มีการร้องออกมา คือพอมีอาการผมก็จับเพื่อให้หยุด นี่ท่านนะ คือเหมือนสื่อแบบนี้ให้กับท่านไป อาจจะเป็นด้วยอดีตชาติเขาเคยผูกพันอะไรกันมาก่อนก็เป็นไปได้ ท่านคงอาจจะเห็นในจุดประสงค์ที่ดีในการทำครั้งนี้ ก็เลยส่งสื่อผ่านมาให้ทุกคนในวันนี้ได้รับพลัง ได้รับสิ่งดีๆ กลับไป ได้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน อาการนี้ก็ต้องบอกก่อนว่าเป็นการผ่านสื่อต่างๆ ในการที่ส่งพลัง เราเกี่ยวกับด้านนี้อยู่แล้ว ต้องบอกว่าโปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ เพราะน้อยคนที่จะได้รับแบบนี้นะครับ วันนี้เราได้มาทำให้ทุกคนและได้รับสิ่งแบบนี้แล้วครับ”
คลิกชมคลิป “แจ๊ค-จิลล์” เสริมดวงสื่อพลังโพมินข่อง สาวไทยถึงขั้นของขึ้น!
“เป็นพลังที่แรงมากครับ ท่านไม่ค่อยได้ใช้กับใคร ไม่ค่อยได้ผ่านกับใคร เวลาสื่อผ่านปุ๊บ อำนาจของท่านที่แรงอยู่แล้ว และเราไม่ใช่พวกขมังเวทที่ฝึกปรือทุกวัน เมื่อกี้ก็จุกเหมือนกัน แต่ก็พยายามจะสื่อผ่านให้ครบถ้วนทุกอย่างกับจำนวนคนที่อยู่บนผ้ายันต์ในผ้าผืนนี้เขาก็ได้รับทุกคน พอจบผมก็หมดแรงเลย แต่ท่านมาบอกว่าท่านดีใจมากที่วันนี้เราพาคนมาให้รู้จักท่าน และท่านก็ตอบแทนในสิ่งที่ท่านอยากที่จะให้คนรู้ว่าท่านคืออันดับหนึ่งของพม่า และทุกคนกลับไปด้วยความโชคดีและมีความสุขมากๆ ครับ”
ส่วนด้านผู้เข้าร่วมพิธีที่มีอาการของขึ้นกรีดร้องนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจึงได้ทราบว่าชื่อ “เทียนหอม” ทำธุรกิจจัดหาแรงพม่ามาทำงานในไทย บินเข้าออกประเทศพม่าเป็นว่าเล่น แต่ก็ไม่เคยสัมผัสหรือสื่อถึงพลังได้แบบนี้มาก่อน กับอาการที่เกิดขึ้นเจ้าตัวบอกว่า....
“เรารู้สึกเหมือนตัวเองหนัก และเหมือนมีอะไรบางสิ่งบางอย่างมาตอบสนองให้เรารู้ว่าเราได้มาถึงท่าน และตอนที่ท่านบอกว่า ท่านจะกลับ ตัวเราก็เบาและโล่งไปเลย ถามว่าเคยร่วมพิธีเสริมดวงชะตามาก่อนมั้ย ไม่เคยเลยค่ะ แต่เคยมีอาการแบบนี้ค่ะ เพราะมีการบูชาแบบนี้อยู่แล้ว แต่จะเป็นก็ต่อเมื่อเหมือนท่านมาบอกเราค่ะ รู้สึกเหมือนกลับมาบ้านค่ะ แต่ปกติก็เดินทางมาที่พม่าบ่อยค่ะ เพราะต้องทำงาน แต่ไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยสื่อได้แบบนี้ ส่วนมากไปที่ชเวดากองก็ไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้ค่ะ มันอัศจรรย์มากค่ะ สัมผัสได้ถึงพลังจริงๆ”
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม