เปิดใจ “หมอปลา” โต้ข่าวลือตายอย่างอนาถ!

กลายเป็นประเด็นฮือฮา หลังจากที่มีเพจปลอมกุข่าว “หมอปลา มือปราบสัมภเวสี” สิ้นชื่อ ตายอย่างอนาถ สาเหตุเกิดจากฟ้าผ่า ต้นไม้ล้มทับจนเสียชีวิต มีงานศพเป็นเรื่องเป็นราว มีคนโทรศัพท์เข้าไปร้องห่มร้องไห้เป็นจำนวนมาก ล่าสุด

“หมอปลา” ออกมาเปิดใจ โต้ข่าวลือตายอนาถ ท้าเพจดัง แปะรูปแล้วรักษาไม่หาย ให้ถีบหน้า!  ในรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ทางช่อง 28 ที่ได้เชิญตัว “หมอปลา จีระพันธ์ เพชรขาว” มาพูดคุยกันให้เห็นจะจะว่ายังไม่ตาย

 

คุณเห็นข่าวหรือยัง?

หมอปลา : เห็นตอนสามทุ่ม เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา โทรกันมาทั้งคืน โทรคุยกับแฟนผมว่าผมตายหรือยัง โทรถามทุกคน แม้แต่บริษัทที่ทำรายการก็โทรมาถาม

 

มีรูปขอแสดงความเสียใจกับหมอปลา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พ.ค. เนื่องจากฝนตกหนักและฟ้าผ่า?

หมอปลา : ครับ ในข่าวว่าต้นไม้ทับผมตาย น่าจะเป็นเพจหมาแต่งมา

 

มี ป๋อง กพล เกี่ยวด้วยนะ?

หมอปลา : มันไปกันใหญ่ แล้วมีคนที่คิดว่าผมตาย โทรมาร้องห่มร้องไห้กับแฟนผม โดยเฉพาะคนสูงอายุ ผมอยากอธิบายว่าถ้าตายโหง สิ่งที่ผมทำคงไม่ตายโหง นอกจากเมียมายิงตาย คนให้ข่าวเพราะศัตรูผมเยอะ ไอ้พวกหลอกลวงคน ทำให้คนเสียผลประโยชน์เยอะมาก

 

ศัตรูคุณเป็นใคร?

หมอปลา : พวกหมอดูทั้งหลายในประเทศไทย ร่างทรง พวกนี้หลอก แต่ผมไม่หลอก ผมช่วยฟรี การหาทางออกให้เขาก็แนะนำคนเหล่านี้ ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อพวกหมอดูร่างทรง

 

ยืนยันไม่เคยเก็บเงิน?

หมอปลา : ไม่เคยเก็บเงินครับ ถามว่าทำไมคนเป็นห่วงผมเยอะ สิ่งที่ผมช่วยเหลือคนมันสะท้อนมาถึงครอบครัวผม ว่าทำไมมีข่าวแบบนี้คนเป็นห่วงกันเยอะมากๆ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนเป็นห่วงผมขนาดนี้ บางเคสแฟนฟังโทรศัพท์แล้วร้องไห้ไปกับเขาเลย ไม่คิดว่าแฟนตัวเองจะสำคัญ

 

แล้วมีคนอื่นอีกไหมที่เป็นโจทก์?

หมอปลา : ร่างทรง แล้วก็พวกพระนอกรีต หลอกดูดวง แล้วก็เพจหมา พวกที่หาว่าผมหลอกคน ไอ้พวกเพจปัญญาอ่อน แม้กระทั่งไอ้เพจฟักโกสต์ ด่าผมตลอด ไม่รู้ผมไปเยี่ยวรดหัวพ่อมันหรือเปล่า ด่าตั้งแต่ผมไม่มีเมีย ตอนนี้มีเมียก็ด่าอยู่

 

เขาบอกว่าคุณไปอ้างตัวว่ารักษาได้ วันดีคืนดีคุณเอารูปถ่ายคุณไปให้เขา ให้เอาไปแปะแล้วจะหายปวด?

หมอปลา: ก็คนไม่เคยลอง แล้วคนแบบนี้ มีการตราหน้าว่าผมไม่กล้าเจอเขา ผมขอให้เขาถอดแว่น ถอดเสื้อดูสิ กล้าเจอไหม ถ้ามาเจอกันใส่แว่นใส่หมวก ผมคุยกับใคร ผมคุยกับมนุษย์ต่างดาวเหรอ

 

คิดไหมว่าข่าวที่ออกมานั้นมาจากบีฟักโกสต์?

หมอปลา : ตอนแรกยอมรับว่าคิด คือไอ้พวกเพจฟักโกสต์ก็ด่าผม ไอ้ฤๅษีเสพยาบ้าปัญญาอ่อนอีกตัวก็ชอบว่าผม ไม่รู้ไปเหยียบส้นตี_อะไร ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้พวกมัน ตอนนั้นไอ้เพจนี้มาโจมตีผมเพจเดียว ก็คิดว่าไอ้สองตัวนี่แหละ พอเช็กไปเช็กมา ก็ไม่ใช่ ยังไม่ได้ด่าเขาเลยนะ แค่คิดไว้ ตอนนั้นที่ด่า คือช่วงแรกที่เขาด่าผม ตั้งแต่ผมไม่มีครอบครัว หาว่าผมหลอกคนให้คนงมงาย แล้วเขาก็ท้าผม พอผมให้เขาถอดเสื้อ ถอดแว่น ถอดหมวกก็ไม่กล้า ผมไม่กลัวอยู่แล้ว

 

เอารูปมาติดแล้วหายจริงเหรอ?

หมอปลา : จริงครับ รูปที่เราให้คนไป เราไม่ได้ขาย เราแจก คนมาขอรูปแล้วเขาใช้แล้วมันได้ผล ถามว่ามันงมงายเหรอ มันต้องลอง ถ้าเป็นรูปผมรักษาได้

 

งั้นคนก็ไม่ต้องไปหาหมอสิ?

หมอปลา : ผมไม่ได้บอกว่าทุกอย่าง แต่ถ้าอาการปวด รับประกันจะเห็นผลใน 5 นาที อย่างปวดฟัน ปวดหัวจะเห็นผลเลย ผมท้าว่าคนที่ตอนนี้ดูผมพูด คุณจะเป็นวิทยาศาสตร์ก็ได้ คุณมาหาผมเลย แล้วพาผมไปหาใครก็ได้ ที่ไม่ได้เตี๊ยมกัน แล้วพาไปหาเขาได้เลย ถ้าหากเขาไม่หายปวด ให้มาถีบ แล้วผมจะเลิกเป็นหมอ แต่ถ้าคุณดีแต่ปาก แต่บอกว่าผมงมงาย ถ้ามันหายคุณจะให้อะไรผม ผมท้าใครก็ได้ที่กำลังกล่าวหาว่าผมให้ความงมงายกับคน บางคนจะทรมานมาก ใช้แล้วอ้วกอาเจียน ก็อธิบายให้เขาฟังก่อนว่าเพราะอะไร คุณก็เอาไปลองดูก่อน ถ้าไม่ดีก็ให้มาถีบหน้าผมเลย

 

คุณก็ท้าเขาไปเรื่อย?

หมอปลา : ผมท้าแต่ต้องให้รู้ว่านี่ช่วยได้จริงๆ คนได้ไปถึงจะรู้ ทำไมคนถึงรักผมเยอะ เพราะเขาเคยเอาไปใช้ รูปก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้พอแจกไปเยอะ คนก็เอาไปปริ้นท์ขายกัน ใบนึงเป็นสิบๆ บาทนะครับ

 

ข่าวที่ออกมาว่าตายอนาถเพราะบีฟักโกสต์หรือเปล่า?

หมอปลา : ตอนแรกคิด แต่ตอนนี้ไม่คิด รู้แล้วว่าใคร แต่พูดไปก็มีเรื่องมีราวใหญ่โตอีก เพราะเป็นข้าราชการด้วย

 

แต่ บีฟักโกสต์ ก็เป็นโจทก์คุณอยู่?

หมอปลา : ก็เขาหาเรื่องเหน็บแนมผม

 

คุณส่งคนไปกระทืบเขาถึงบ้านจริงหรือเปล่า?

หมอปลา : แค่คิด ผมก็ไม่เคยกล่าวหาว่าเพจเขาปล่อยข่าว ก็มีด่าไม่กี่เพจ แต่ละเพจก็ปกปิดใบหน้าตัวตน

 

วิดีโอคอลคุณบีฟักโกสต์ คุณบียืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับข่าวหมอปลาเสียชีวิต?

บี : ถูกต้องครับ มันมาจากเว็บข่าวปลอมที่เอามาแชร์กัน มีคนส่งมาให้ผมดู ผมก็รู้แล้วว่าเว็บปลอม ผมก็ไม่แชร์ ผมก็บอกน้องๆ ว่ามันไม่ใช่ข่าวจริง เป็นข่าวเว็บปลอม วันนี้ตั้งใจมาหาหมอปลา แต่รายการเชิญมา แต่หมอปลาว่าถ้าผมไม่ยอมถอดหมวก ถอดแว่น ก็ไม่ต้องมา ก็เลยต้องมาวิดีโอคอลตรงนี้ ผมทำหลายเรื่อง ไม่จำเป็นว่าเฉพาะเรื่องหมอปลา ให้มาเปิดตอนนี้ผมก็ยังไม่พร้อม ยังมีอีกหลายเคสที่ผมต้องเคลียร์ ไม่พร้อมเปิดตัวในตอนนี้

 

 ในมุมคุณบี คุณไม่เชื่อเรื่องราวหมอปลา เรื่องการทุบศาล?

บี : ใครๆ ก็ทำได้ครับ ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ หรือมีเซ้นส์ ผมก็ทำได้ ผมก็ทุบมาแล้วหลายศาลเหมือนกัน ไม่ต้องไปบนบานศาลกล่าวขอขมาอะไรทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่เราอุปโลกน์ขึ้นมาว่ามีความขลัง หมอปลาก็อาจบอกว่าเขามีพลัง มีเซ้นส์ มีอาการหืดหอบน้ำมูกไหล ซึ่งผมก็มองว่าไม่เมกเซ้นส์ ผมก็ทำได้

หมอปลา : ผมเคยบอกแล้วว่าการทุบศาล มันไม่ได้ใช้คาถา ใช้แค่ค้อนก็จบ ผมก็ต่อต้าน จะไปตั้งศาลทำไม ศาสนาพุทธก็ไม่ได้สอน แล้วไม่ได้บอกว่าผมมีพลังวิเศษ ผมเพียงแต่ช่วยหาโรคที่บางคนหาทางวิทยาศาสตร์ไม่เจอ บางโรคที่วิทยาศาสตร์ช่วยไม่ได้ เรื่องศาล ต้นไม้ ต้นตะเคียนก็เห็นๆ อยู่แล้วว่าผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ผมเผาอย่างเดียว

 

เรื่องไปเจอแล้วห้าว?

หมอปลา : มันเป็นระบบร่างกายที่เป็นไปเอง ผมก็บอกในรายการแล้วว่าผมไม่สามารถควบคุมอาการเหล่านี้ได้ มีช่วงแรกที่ออกรายการเรื่องจริงผ่านจอ ทางรายการหาหมอเพื่อให้ตรวจร่างกายหมอปลา สุดท้ายหมอไม่สะดวกมาตรวจให้ เราก็พยายามเอาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์แล้วว่าทำไมพอเจออะไรแบบนี้ ผมเกิดอาการต่อต้าน ผมพยายามเอาวิทยาศาสตร์เข้ามาพิสูจน์ทุกอย่าง ผมไม่ได้อุปโลกน์ว่ามีพลังวิเศษ ผมแค่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์คนที่หาทางออกไม่เจอ เรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย อย่างถามว่าที่ไปทุบศาลในรายการเพราะศาลตรงนั้นมีผลต่อชีวิตเขา ทำให้เขาเจ็บไข้ได้ป่วย พอทุบเสร็จอาการเขาก็หาย

บี : ศาลทำให้คนป่วยได้เหรอครับ หมอปลาอ้างตัวว่าไม่มีพลังวิเศษ แต่สิ่งที่ทำอยู่ การรักษาคน เอารูปหมอปลาไปแปะหัวแล้วหาย อันนี้ไม่ใช่พลังวิเศษเหรอครับ ที่ไปแปะตามตัวปวดตรงไหนก็หาย ไม่ใช่พลังวิเศษเหรอครับ

หมอปลา : ผมเคยพูดเหรอว่าผมมีพลังวิเศษ คุณคิดกันไปเองหรือเปล่า ผมพูดแค่ว่ารูปผมที่จะเอาไปใช้ สามารถรักษาอาการเจ็บปวดได้ ไม่ได้บอกว่ารูปผมมีพลังวิเศษ แล้วเรื่องศาล ที่คุณบอกคุณก็ทุบศาลได้ งั้นคุณลองไปเจอคนที่เขาหาทางออกไม่เจอ อย่างเช่นเขาผ่านศาลนั้นแล้วมีอาการเจ็บป่วย คุณช่วยเขาได้หรือเปล่า ไม่ใช่ผมทุบศาลด้วยความสนุกสนาน ผมไปทุบเพื่อให้คนเหล่านั้นหมดทุกข์

 

คุณบี คุณรับคำท้าไหม?

บี : คือไม่ใช่ครับ มันเป็นเรื่องที่คนป่วยเขาก็คิดว่าเขาป่วยเพราะสัมภเวสี แต่ทางการแพทย์ ป่วยอะไรก็ให้หมอตรวจ ไม่ใช่ป่วยแล้วไปทุบศาลแล้วหาย มันไม่ใช่ หมอปลาพยายามแนะนำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทุกคนเจ็บป่วยมีเหตุผลอยู่แล้วว่าเป็นอะไร ความดัน เบาหวาน แล้วไปทุบศาลเกี่ยวอะไรกับการเจ็บป่วย เขาหายขึ้นมาก็คิดว่าเป็นเพราะการทุบศาล แต่จริงๆ มันเกี่ยวกับสภาพร่างกาย อีกอย่างหนึ่งหมอปลาอ้างว่าเอารูปมาแปะตรงที่ปวดแล้วหาย นี่คืออะไรเหรอครับ ถ้าอย่างนี้เป็นริดสีดวงแปะยังไงครับ ปวดเท้าแปะยังไงครับ

หมอปลา : ถ้าปวดตูดก็เอาไปติดที่ตูดได้ ฝ่าเท้าก็ติดได้หมดคุณบี

บี : สิ่งที่คุณเชื่อมันมีผลรับรองทางการแพทย์หรือเปล่า หรือคิดขึ้นมาเองว่ามันน่าจะหาย

หมอปลา : อย่างโรคที่ผมรักษา ทางวิทยาศาสตร์เขาพิสูจน์แล้วว่าหาโรคไม่เจอ ไม่ใช่ว่าเขามาหาผมเลย คนเหล่านี้ไปโรงพยาบาลมาหมดแล้ว แล้วหาโรคไม่เจอ ก็มาให้ผมรักษา อย่างโรคริดสีดวง ผมมียาสมุนไพร ที่ต้มแล้วให้เขาไปทาน เขาก็หาย แต่คุณน่าจะอิจฉาคนมากกว่า คุณน่าจะเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง โรคอิจฉาริษยาซึ่งมันรักษายาก เห็นคนอื่นได้ดี แทนที่จะส่งเสริมให้คนทำดีช่วยเหลือคน แต่คุณมีแต่ความอิจฉา

บี : ขอพูดก่อนดีกว่าก่อนหมอปลาอ้างว่ารักษาโรคได้ เขามีใบประกอบวิชาชีพหรือเปล่า หรือมีหน่วยงานทางการแพทย์มารองรับหรือเปล่าว่าเขาสามารถรักษาโรคได้จริง หรือแค่อุปโลกน์ขึ้นมา แล้วชาวบ้านก็เชื่อ เพราะเป็นคนดัง

หมอปลา : การรักษาแบบหมอพื้นบ้าน มันต้องใช้เหรอ คนที่มาให้รักษาเป็นร้อยๆ คนแล้วหายกลับไป ตรงนั้นเป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเขาหายหรือไม่หาย

บี : อันนี้เป็นการคิดขึ้นมาเองของคุณ มีหน่วยงานมายืนยันหรือเปล่า

 

ทางนี้เขารักษาให้ฟรีไม่เอาตังค์?

บี : หมอปลากำลังเปิดบ้านเป็นสถานรักษาโรคผู้ป่วยถูกไหม แล้วมีใบอนุญาตหรือเปล่า

หมอปลา : ต้องใช้ใบอนุญาตทำไมครับคุณบี โรคที่ผมรักษาคน เป็นโรคที่ทางการแพทย์เขาให้คำตอบไม่ได้ เขาไปหามาทั่วแล้วเขาไม่หาย

 

มีกระแสข่าวว่าหมอปลาจะส่งคนไปทักทายคุณบีจริงไหม?

หมอปลา : แค่คิด

บี : ผมไม่สนใจหรอกครับ มันเยอะแยะอยู่แล้วคนที่เสียผลประโยชน์จากการที่ผมแฉ อันที่เป็นประเด็นสำคัญ ผมอยากถามว่าหมอปลาอ้างตัวเองว่ารักษาโรคได้ มีหน่วยงานอะไรรับรองหรือเปล่า ตกลงพูดเองไหมว่าหาย มีคนไข้ไม่หายบ้างไหม

หมอปลา : การรักษาคนหายหรือไม่หาย คนไข้เขาบอกเองคุณบี การช่วยเหลือคนไม่มีทางออก ต้องมีหน่วยงานด้วยเหรอ

บี : คุณพูดมาชัดๆ เลยว่าคุณรักษาโรคอะไรได้บ้าง

หมอปลา : คุณไม่มีหูเหรอ คนเหล่านี้เขาไปหาหมอวิทยาศาสตร์มาแล้ว เขาไม่สามารถหาทางออกได้ เขาก็มาให้ผมรักษา ผมรักษาโรคที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากอะไร คุณบีต้องไปสัมผัสเอง คุณบีมีหูกี่ข้าง

 

คุณบีมีอะไรจะถามอีก?

บี : จริงไหมที่มีการจ่ายยาแล้วอ้างว่ามีแพทย์เข้าไปรักษา เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแพทย์ มีจริงหรือเปล่า

หมอปลา : อยากรู้ก็ไปสิ ไม่ใช่ใส่หมวก ใส่แว่น แล้วไปด่า

บี : ผมมีข้อมูลหมดแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นหมอ แล้วมีการใช้เข็มกับผู้ป่วยให้น้ำเกลือ จ่ายยา จริงหรือเปล่า

หมอปลา : คุณกล้าไปหรือเปล่าล่ะ หรือคุณเห่าหอนอยู่ในเพจของคุณ ผมกล้าเจอตัวคุณ แต่ไม่เจอในสภาพปิดหูปิดตา ผมถามคุณ ทำไมไม่กล้าล่ะ ทุกคนที่อยากรู้ก็ไปสัมผัส คนเรามีตากี่ข้าง หูกี่ข้าง

 

มีจริงไหมเหมือนที่เขาพูด?

หมอปลา : ก็อยากให้ไปสัมผัสดีกว่าก่อนพูด เรื่องพวกนี้ใครอยากดูต้องไปบ้านผม เพราะบ้านผมเปิดให้ทุกคนเข้าได้ตลอด ไม่ได้ปิดกั้นใครเลย

 

บ้านหมอปลาเป็นสถานบำบัดไหม?

หมอปลา : เราช่วยคนไม่มีทางออก มีคนอยู่ที่นั่นเป็นร้อยๆ คน ทุกอย่างที่เราช่วยเหลือ เขาไปหาหมอวิทยาศาสตร์มาหมดแล้ว แล้วทางการแพทย์ไม่สามารถรักษาให้เขาได้ ผมช่วยคนก็เจอพวกเพจเห็บหมา มาบอกว่าหลอกคนให้งมงาย ถ้าหลอกคน ผมก็ต้องได้ตังค์สิ

 

ล่าสุดมีอะไรนะ เรื่องเอกซเรย์?

หมอปลา : ล่าสุดมีน้องคนหนึ่งเขาปวดท้อง อายุ 13 เขาไปเอกซเรย์เจอตะกั่ว เจอแป้นเหล็ก สักพักเอกซเรย์ใหม่เจอน็อต 3 ตัว คือทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยน้องเขาได้ น้องเขาก็มาหาผม ผมก็รักษาน้อง ตอนนี้มันหายไปแล้วครับ คือทางการแพทย์ แค่เอกซเรย์ เหล็ก 1 อันกลายเป็น 3 อัน แล้วย้ายไปด้วย ตอนนี้น้องเขาอยู่กระบี่

 

คุณบีถ้าผมเชิญน้องมาได้ คุณมาร่วมรายการได้ไหม?

บี : ยังยืนยันคอนเซ็ปต์เดิมต้องใส่หมวกใส่แว่น

หมอปลา : ไม่เอาครับ ผมต้องคุยกับมนุษย์ที่อยากรู้ว่ามีหูมีตากี่ข้าง ไม่อยากคุยกับมนุษย์พิการ พิการทางสมองหรือเปล่าก็ไม่รู้ คนเราถ้าคิดจะว่าใคร ต้องเปิดตัวตนสิ ผมไม่เคยกลัวความตายเลย แต่นี่อะไร พิการทางสมองหรือเปล่า อิจฉาผมหรือเปล่า

บี : ถ้าเชิญผมก็ไปแต่คอนเซ็ปต์เดิมครับ ใส่หมวกใส่แว่น