"หลวงปู่ทวด หลวงปู่หล้า" กับเรื่องสุดขนลุกของ "บอส พุทธิพงษ์"

มีโอกาสได้รับบทนักข่าวครั้งแรกในชีวิตสำหรับหนุ่มหล่อมาดเข้ม “บอส-พุทธิพงษ์  คล้ำจีนภาณุวงศ์”  ในบท “บุรัณย์” นักข่าวสายอาชญากรรม จากละคร สาปกระสือ ทางช่อง 8  ถึงกับกุมขมับ โดยเฉพาะตอนที่ต้องรายงานสด การพูดรายงานข่าวต้องชัดถ้อยชัดคำ รายงานข่าวให้สนุก และน่าเชื่อถือ ซึ่งส่วนตัวเป็นคนสนุกสนาน เลยต้องทำสมาธิกับบทนี้เป็นพิเศษ 

ขึ้นชื่อว่า “สาปกระสือ” ก็จะเกี่ยวข้องกับความลี้ลับ และตำนานของกระสือไทยที่มีมายาวนาน การถ่ายทำละครเรื่องนี้ต้องเดินทางถ่ายทำหลายจังหวัด ทั้งปราสาทเมืองสิงห์ สถานที่เก็บของโบราณต่างๆ แม้เจ้าตัวจะไม่เห็นถึงความลี้ลับ หรือดวงวิญญาณต่างๆ  แต่เจ้าตัวยอมรับว่าบางสถานที่ ที่ไปถ่ายทำสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังแอบมองอยู่ 

หนุ่มบอสเลยต้องพก หลวงปู่ทวด องค์สีดำ ฐานล้อมเพชร และ หลวงปู่หล้า วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ห้อยกับสายสิญจน์แดงล้อมด้วยตะกรุดเต็มเส้น ทั้ง 2 องค์ ไปด้วยทุกที่  ซึ่งได้มาจากคุณแม่ โดยตกทอดมา 30-40 ปีมาแล้ว แม่มอบให้ตั้งแต่ตอนบอสเกิด พอโตมามีรถคันแรกก็นำไปแขวนและตั้งไว้หน้ารถตลอดเลย เปลี่ยนคันก็จะนำไปด้วย

มีความเชื่อว่าหลวงปู่ทวด และหลวงปู่หล้าจะคุ้มครอง

"ตัวบอสเองก็มีความเชื่อเรื่องนี้ เคยมีเหตุการณ์ที่เจอกับตัวครั้งหนึ่ง คือไปถ่ายละครแถวสัตหีบ ถ่ายตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 10 โมงเช้าของอีกวันหนึ่ง ก็คิดว่าไม่ง่วง ไม่ไปที่พัก ขอขับรถกลับบ้านที่กรุงเทพดีกว่า  เพราะคิดว่าไหว และส่วนตัวเป็นคนขับรถอย่างระมัดระวังโดยตลอด ซึ่งไม่เคยคิดว่าตัวเองจะขับรถหลับในมาก่อนเลย จู่ๆ ตอนอยู่บนมอเตอร์เวย์ ก็รู้สึกวูบหรือหลับไป ครั้งแรกก็เหมือนมีเสียงของตกในรถแบบดังตึ่ง ทำให้ตกใจ ลืมตาขึ้น แต่ก็รู้สึกตื่นแบบไม่ดี ตื่นแบบสะลึมสะลืออยู่ ก็วูบต่ออีกรอบ มีความรู้สึกว่าแป๊บเดียว แป๊บเดียวจริงๆ ก็เหมือนมีใครมาตบหัว ตบแบบหัวทิ่มลงมาเลย แล้วก็ตื่นเลย ก็รู้สึกรถเซ คร่อมเลนซ้ายไปแล้ว ก็ตั้งสติขึ้นมาประคองรถ ทำให้ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ตั้งแต่ขับรถมาไม่เคยมีเหตุการณ์อะไร จะรอดทุกครั้ง แทบไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงหรืออุบัติเหตุอะไรเลย"

ถ่ายละครในป่าจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ไปด้วยตลอด

"ถ้าไปต่างจังหวัดใกล้ๆ ที่ขับรถไป โดยติดอยู่ที่รถตลอดอยู่แล้ว แต่หากต้องไปนอนพัก หรือ เดินทางไปต่างจังหวัดที่ไม่ได้ขับรถไป ก็จะมีพกตะกรุดติดตัวไปอันหนึ่ง มีความเชื่อว่าตะกรุดนี้ กันของ กันอะไรที่ไม่ดีเพื่อความสบายใจอย่างหนึ่งของเราด้วย เมื่อก่อนตอนเด็กหรือวัยรุ่น ก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ พอโตมามีเหตุการณ์อะไรหลายๆ อย่างมาประจวบเหมาะกัน  ทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องอย่างนี้มันมีอยู่จริง โดยตะกรุดที่พกติดตัวนี้ไปหาพระที่เชียงใหม่ก็ได้มา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ตะกรุดที่สร้อยหลวงปู่หล้าที่ล้อมรอบเส้นสายสิญจน์นั้น ได้มาตั้งแต่รุ่นแม่ 30-40 ปีที่แล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าพระคุ้มครองเราให้ปลอดภัย ให้พร แต่ตะกรุดมันจะป้องกันสิ่งไม่ดี แบบการโดนของ การโดนสิ่งไม่ดี มันเป็นการสะท้อนสิ่งชั่วร้ายออกไป มีความเชื่ออยู่แล้วว่าสิ่งพวกนี้อยู่รอบตัวเรา ผมเป็นคนไม่ได้เห็น แต่เป็นคนที่รู้สึก  เห็นมากสุดคือเงาดำๆ หรือควัน เป็นคนกลัว ถ้าไม่เจอก็ไม่กลัวนะ แต่ถ้าในสถานที่ที่เราไปมีความรู้สึกว่ามีหรือเห็นเงาก็จะกลัว"

ช่วงที่ถ่ายทำละครสาปกระสือ เจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง

"เรื่องสาปกระสือนี้ เป็นละครแนวพีเรียด ดราม่า ลี้ลับ เป็นความเชื่อของแต่ละคน เป็นเรื่องเกี่ยวกับตำนานของกระสือไทย ซึ่งมีมายาวนานมาก  เราเดินทางไปถ่ายกันหลายจังหวัด  ส่วนตัวผมไม่เจอแบบเห็นเป็นรูปร่าง แต่ก็มีพี่ๆ ทีมงานในกอง คนที่มีเซนส์เขาเจอ เห็นกับตา ส่วนของผมจะมีฉากที่ต้องไปตามหาความจริง ว่าดวงไฟที่เห็นเป็นกระสือหรือไม่ ก็ต้องวิ่งไป และรายงานไปในป่า  ซึ่งตอนนั้นทั้งกองเหลือแค่ผม และนักแสดงร่วมอีก 1 คนเท่านั้น  ซีนวันนั้นก็ดึกมากแล้วด้วย  ตอนที่ผมเดินไป ผมรู้สึกว่ามีคนมองผมอยู่  มันรู้สึกได้เอง ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ซึ่งในมือผมมีไฟฉาย ผมก็ตัดสินใจส่องไปเลยตรงจุดที่ผมรู้สึก  ถึงจะไม่เจออะไร  แต่ผมสัมผัสได้ว่ามีคนจ้องมองพวกเราอยู่แน่นอน  ซึ่งผมอาจจะคิดไปเองก็ได้  แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไม" 

"เพราะตลอดการถ่ายทำฉากนั้น ผมรู้สึกโดนจ้องมองตลอดเวลา ซึ่งผมก็ไหว้ขอขมาบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าผมมาทำงาน ไม่ได้ต้องการลบหลู่หรือลองของอะไร เพื่อความสบายใจครับ  ซึ่งใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้เลยนะ ส่วนตัวผมค่อนข้างที่จะเชื่อเรื่องพวกนี้ ก็อย่างที่บอกว่าตอนเด็กหรือสมัยวัยรุ่นไม่คิดจะเชื่อเหมือนกัน แต่พอรู้สึกเจอกับตัว และคนรอบข้างรู้สึกด้วย และทุกอย่างเห็นตรงกัน ก็รู้สึกว่าแปลกดีนะ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพูดได้ ต่างคนต่างความเห็น อย่างไรก็ตาม ละครมันก็มีมากกว่าสิ่งลี้ลับ มีเรื่องราวของอดีตชาติและปัจจุบัน มีหลายอารมณ์ ฝากติดตามละคร สาปกระสือ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.45 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 นะครับ"