"หลวงพ่อคูณ" เกจิดังแห่งที่ราบสูง กับเรื่องราววัตถุมงคล และของขลัง
พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่านเป็นพระเถระที่มีพุทธศาสนิกชนเคารพเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดอีกองค์หนึ่ง มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมากและมีชื่อเสียงในการสร้างวัตถุมงคลที่โด่งดัง โดยตามประวัติพบว่าท่านเคยสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกตั้งแต่สมัยบวชได้ประมาณ 7 พรรษา
โดยเริ่มจากตะกรุดโทน ตะกรุดทองคำ เพื่อฝังที่ใต้ท้องแขน ณ วัดบ้านไร่ ราว พ.ศ. 2493 โดยท่านบอกกับผู้มาขอเสมอว่า "ใครขอ กูก็ให้ ไม่เลือกยากดีมีจน" ปัจจุบันพระเครื่องหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นั้นเป็นที่นิยมและโด่งดังมีชื่อไปถึงระดับต่างประเทศ จนกลายเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมพระเครื่องอย่างมาก
ซึ่งหลาย ๆ รุ่นมีราคาแพง โดยเฉพาะเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก ส่วนเรื่อง "เครื่องรางของขลัง" ของหลวงพ่อคูณคงต้องยกให้ ตะกรุดทองคำหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะเป็นตะกรุดทองคำฝังแขน ในปี 2493 หรือ 7 พรรษาหลังจากอุปสมบท และได้มีการสร้าง เหรียญรุ่นแรก ออกที่วัดแจ้งนอกในปี 2512
ซึ่งถ้าหากจะนับรุ่นกันจริง ๆ แล้ว ได้มีการประมาณกันว่า ตลอดชีวิตของท่านได้มีการสร้างวัตถุมงคลออกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4,000 รุ่น โดยแต่ละรุ่นล้วนได้รับความนิยมและเป็นที่แตกต่างกันไป ในแง่ของ ความขลัง หลวงพ่อคูณถือเป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ฯลฯ เรียกว่าความขลังขั้นมหัศจรรย์
จากประวัติท่านทั้งเรื่องของความแก่กล้าในวิชาอาคม และความความรู้ด้านพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ ทำให้ท่านได้รับฉายาว่า "ปราชญ์แห่งที่ราบสูง" หลวงพ่อคูณท่านมีจิตเมตตาเป็นอย่างยิ่ง มีจิตที่แจ่มใส หมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส เป็นที่พึ่งทางธรรมให้แก่ญาติโยมทุกคน
ภาพที่คุ้นตาของคนไทย คือ การนั่งยอง ๆ นับประคำเวลาเสกพระ ในสมัยที่มีผู้คนพากันแห่แหนไปให้ท่านใช้หนังสือพิมพ์เคาะศีรษะ บางคนหลังจากโดนเคาะแล้วก็ประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนไปประสบอุบัติเหตุก็ไม่ได้รับอันตราย ฯลฯ ส่วนการเคาะศีรษะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การเคาะศีรษะแล้วสัมฤทธิผลตามใจปรารถนา นี่คือความมหัศจรรย์ที่เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ คือ ความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นจากอำนาจแห่งฌานที่ท่านดำรงอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ หลวงพ่อคูณ ท่านมีคำสอนที่ลึกซึ้ง กินใจ แม้ว่าบางครั้งคำพูดของท่านอาจจะฟังไม่รื่นหูเท่าใดนักสำหรับบางคน แต่ความหมายแห่งคำสอนของท่าน สามารถช่วยให้ผู้ที่ได้รับฟังและนำมาคิด ได้รับประโยชน์สุขในการดำรงชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ดังต่อไปนี้
คำสอนหลวงพ่อคูณ
สอนคนทำงาน
- คนส่วนใหญ่ที่มาวัดเพราะมันมีทุกข์ ถ้าไม่มีทุกข์ไอ้คนพวกนี้มันก็ไม่เข้ามา แต่ถ้ามึงงานยุ่งไม่เข้าวัดไม่เป็นไร มึงก็ตักบาตรอยู่หน้าบ้านก็ยังดี ไม่จำเป็นต้องตักบาตรทีละร้อย ๆ องค์ ตักบาตรวันละองค์สององค์ตามกำลังมึง พอทำบุญแล้วร่างกายมึงจะแข็งแรง ความคิด ความอ่าน ปลอดโปร่งเฉียบแหลม เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ อาชีพที่มึงทำอยู่ก็จะก้าวหน้า แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับว่า พ่อแม่มึงสอนให้ทำบุญตักบาตรตั้งแต่ยังน้อยหรือเปล่า? ถ้ามันสอนมาลูกหลานก็กล้าทำบุญเข้าวัด แต่ถ้ามึงไม่สอนมันก็ไม่กล้าทำบุญ ไม่กล้าเข้าวัด
- ลูกหลานเอ๋ย...การทำหน้าที่คือการปฏิบัติธรรม จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อย่าได้ทุจริตต่อหน้าที่เลย
เกี่ยวกับวัตถุมงคล
- วัตถุมงคลเหมือนเปลือกไม้ หากผ่านเปลือกไปได้ท่านก็จะถึงแก่น ซึ่งการฝ่าเปลือกไม้ไปได้ท่านต้องรู้จักให้ทาน
- วัตถุมงคลของกู เน้นไปทางคลาดแคล้ว และปลอดภัยก็พอแล้ว แต่ไอ้คนที่เอาของกูไปใช้ ถ้ามันประพฤติปฏิบัติตัวไม่ดี คุณพระก็ไม่คุ้มครองดอก...
คำคม 10 ข้อ "กูให้มึง"
มีเนื้อหาตรงไปตรงมาของหลวงพ่อคูณ ที่กลายเป็นข้อเตือนสติของชาวพุทธมาจนปัจจุบัน ดังนี้
1. ยิ่งเอา มันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมด มันยิ่งได้
2. กูให้พวกมึงรู้จักพอเพียง
3. กูทำดีเขาจึงให้ของดีกูมา
4. กูไม่เคยยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ
5. กูดีใจที่เกิดมาเป็นคนจนเพราะได้สร้างทานบารมี ถ้ากูเกิดมาเป็นคนรวยป่านนี้ คำว่า "บุญ" ก็ไม่รู้จักกัน
6. เงินเป็นทาสกู กูไม่ยอมเป็นทาสเงิน
7. การทำตัวให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่นั้นง่าย แต่จะสร้างสมบุญให้มีบารมีนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องเป็นผู้ให้ด้วยธรรมอันบริสุทธิ์จริง
8. กูจะทำให้ชาวบ้าน เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน
9. เกิดมาแล้ว รักความสงบ ให้มีศีลธรรมไว้ประจำใจทุก ๆ คน โลกจะได้อยู่ชุ่มกินเย็น
10. พระไม่ได้อยู่กับคนชั่วแต่อยู่กับคนดี ให้นึกว่าพระมากับเราจะทำชั่วไม่ได้ อย่าทำตัวผิดศีลธรรม ผิดจารีตประเพณี โดยเฉพาะการทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท