"จูล ยลณกัณฑ์" ผู้ประกาศข่าว นักสะสมพระเครื่องกว่า 1,000 องค์
จากคนที่ไม่ได้สนใจพระเครื่อง แต่ในที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่สะสมพระเครื่อง และพระบูชากว่า 1,000 องค์ สำหรับผู้ประกาศข่าว จูล-ยลณกัณฑ์ กรณ์ณัฐวีร์ จากรายการ “คุยข่าวเย็นช่อง 8” ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่าเริ่มสะสมพระเครื่องได้ประมาณ 16 - 17 ปี ช่วงแรกจะสะสมพระผง กลางเก่า กลางใหม่ ข้อเสียของพระผง คือ เวลาท่านหล่น พระท่านจะแตก พอจะเปลี่ยนมือให้บูชาต่อราคาก็ไม่ได้ เพราะถือว่าพระชำรุด จากนั้นเลยมาชอบพระโลหะ เพราะพระโลหะหล่นไม่แตก เต็มที่ก็ถลอกเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
ชอบพระองค์ไหนเป็นพิเศษ
ถ้าเป็นพระชอบทั้งหมดเลย ตอนแรก ๆ จะชอบพระเครื่องก่อนเพราะสะดวกในการพกพา สวดคาถาแล้วก็คล้องท่านให้ท่านคุ้มครอง แต่พอช่วงหลังพอเราโตขึ้นเราก็เริ่มศึกษาทางนี้มากขึ้น เลยหันมาบูชาพระพุทธรูป ทุกครั้งก่อนเดินทางออกจากบ้าน ก็จะสวดตั้งคาถา ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ปาฎิหาริย์พระเครื่อง
ตอนนั้นก็ไปเดินชมร้านพระปกติ แล้วมีเซียนพระอยู่ร้านหนึ่งนำ พระพุทธรูป สมัยรัชกาลที่ 7 ยุครัตนโกสินทร์ ครั้งแรกที่เห็นก็รู้สึกชอบท่านมาก เหมือนกับผูกพันกับท่าน เราก็ได้สอบถามไปว่าจะให้บูชาหรือไม่ ทางเซียนพระก็บอกกลับมาว่าไม่ได้ให้บูชา ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปตื้อ แต่พอกลับมาที่บ้าน วันนั้นตรงกับวันพระพอดี ก็ได้นำพวงมาลัยกราบพระในห้องพระ แล้วตั้งจิตอธิษฐานกับหลวงพ่อและพระองค์อื่น ๆ ว่าถ้าบุญเราถึงกันก็ขอให้เซียนพระคนนั้นให้ผมบูชาพระพุทธรูปองค์นี้ ภายใน 1 เดือน ให้ติดต่อผมกลับมา พอผ่านไปประมาณ 7-8 วัน สิ่งที่เหลือเชื่อตามมาก็คือ เซียนพระคนนั้นก็โทรมาหาผม ถามว่ายังอยากได้พระพุทธรูปองค์นั้นอยู่หรือเปล่า
แล้วก็ให้ผมขับรถไปหาและได้บูชาท่านมา ผมก็เลยถามว่าทำไมถึงยอมให้ผมบูชา เซียนพระบอกว่าเขาฝันว่ามีคนมาบอกให้เขานำพระพุทธรูปองค์นั้นมาให้ผมบูชา เขาเป็นเนื้อนาบุญกันมา ซึ่งไม่ได้ฝันแค่ครั้งเดียว แต่ฝันติดกันถึง 2 ครั้ง แล้วผมก็เลยเล่าเรื่องที่อธิษฐานให้เซียนพระฟังว่าขอผมบูชาพระพุทธรูปองค์นี้เพราะเห็นแล้วรู้สึกผูกพันกันมา แล้วก็ได้ท่านมาประดิษฐานที่บ้าน ทุกครั้งที่เราจะออกจากบ้านก็ กราบไหว้ขอพร ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกที่เรื่องอะไรยาก ๆ ก็กลับง่ายไปหมด รู้สึกว่าผู้ใหญ่ให้ความเมตตา
ส่วนอีกครั้ง ตอนนั้นห้อย พระกริ่งประภามณฑล หลวงพ่อกึ๋น วัดดอนยานนาวา เหตุเกิดช่วงประมาณตี 1 ตี 2 ได้ เป็นช่วงเวลาเลิกงานผมทำงานเป็นดีเจอยู่ ปกติเวลาขับรถกลับบ้านเราจะต้องขึ้นทางด่วนตรงดินแดงทุกครั้ง แล้ววันนั้นจู่ๆนึกยังไงไม่รู้ไม่อยากขึ้นทางด่วนไปทางเส้นอนุสาวรีย์ พอผมเบี่ยงรถออกทางซ้ายไปครู่เดียว รถที่ขับตามหลังผมมา ขับพุ่งไปชนกับคันข้างหน้าก่อนจะถึงด่านจ่ายเงิน 3-4 คัน ชนกันหนักมาก พอเราเห็นแล้วตกใจมาก ในมือนี้กำพระแน่นเลย ผมไม่รู้ว่าเป็นความโชคดี หรือ พุทธานุภาพที่ท่านดลจิตดลใจให้ผมขับรถมาอีกทาง ไม่เช่นนั้นคงเป็น1 ใน 3 คัน ที่ถูกชนท้ายแน่นอน ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้เลยว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ทำหายไปแล้วครับ
องค์ที่ห้อยติดตัวตอนนี้
องค์ที่พกติดตัวตลอดเวลา ก็คือ สมเด็จโตวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์จะใส่ทุกวัน ก่อนจะออกจากบ้านจะต้องบอกกล่าวท่านตลอด เราก็จะมีความรู้สึกมั่นใจเพราะมีหลวงพ่อ มีครูบาอาจารย์คอยดูแลเราอยู่ใกล้ๆ ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจทางพระเครื่องพระบูชาเลย พอหันมาบูชา รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเรื่อย ๆ
พระเครื่องที่บูชามีพุทธคุณด้านใดบ้าง
จริง ๆ แล้วพระเครื่องพระบูชา ครอบจักรวาล ต้องบอกกล่าวท่านก่อนออกจากบ้าน พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ขอให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย มีมหานิยม มหาเสน่ห์ให้วาจาคำพูดให้ศักดิ์สิทธิ์ พูดสิ่งใดไปก็ขอให้มีแต่คนรักเมตตา ทุกอย่างอยู่ที่จิตเรา ขณะที่เราขอและบอกหลวงพ่อครับ
แนะนำสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยบูชาพระเครื่อง
ถ้ายึดหลักกว้าง ๆ ง่าย ๆ คือ เราเกิดวันอะไร ก็บูชาพระประจำวันเกิดของเรา แต่ถ้าจะให้ลึกจริง ๆ แต่ละวันจะมีคู่ธาตุคู่สนับสนุน เช่น ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ก็ต้องดูไปอีกว่าเหมาะที่จะบูชาพระอะไรครับ
มีวิธีการบูชาอย่างไรและเก็บรักษาอย่างไร
หลังจากที่ได้พระเครื่องมาต้องนำมาใส่ตลับก่อน หากนำท่านติดตัวคล้องคอ พอกลับมาถึงบ้านก่อนอาบน้ำก็ต้องถอดออกวางไว้บนโต๊ะหมู่บูชา ที่สำคัญคือ เมื่อเราใส่พระ ไม่ควรจะไปสถานที่อโคจร ไม่ดีต่างๆ แต่ถ้าเราจำเป็นต้องไปปาร์ตี้กับเพื่อน เราก็อาจจะถอดท่านไว้ในรถหรือ ในบ้าน คนที่สวมพระต้องไม่ไปรอดใต้สะพาน หรือ ลอดราวตกผ้า อะไรแบบนี้ที่มันต่ำ ๆ เพราะนั้นถือว่าเป็นการลบหลู่ครู อย่าไปทำครับ
สามารถติดตามผลงาน จูล-ยลณกัณฑ์ กรณ์ณัฐวีร์ ผู้ประกาศจากรายการ “คุยข่าวเย็นช่อง8” ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 15.30 น. ทาง สถานีโทรทัศน์ช่อง 8