เปิดที่มา "2 องค์เทพศักดิ์สิทธิ์" หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์

เซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางแยกราชประสงค์ แต่เดิมทีพื้นที่ของศูนย์การค้าเป็นที่ตั้งของ พระราชวังปทุมวัน และ วังเพ็ชรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราไชย พระราชโอรสองค์ที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงประทับอยู่กับ ม.จ.หญิงบุญจิราธร พระชายา และเมื่อทั้งสองสิ้นพระชนม์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา ก็เป็นผู้ครอบครองต่อ และในปัจจุบันที่ดินผืนนี้ก็เป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 

โดยบริเวณมุมทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของสี่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยศูนย์การค้า โรงแรม และอาคารสำนักงาน โดยในส่วนของศูนย์การค้านั้น เป็นศูนย์การค้าครบวงจรที่มีพื้นที่รวมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  และยังเป็นแยกที่รวมศูนย์การค้าไว้มากที่สุด

 

และพื้นที่แห่งนี้เคยมีประวัติความสูญเสียครั้งใหญ่มาหลายต่อหลายครั้ง จึงมีการนำพราหณ์มาทำพิธีต่าง ๆ เพื่อแก้เคล็ด โดยในส่วนของด้านหน้า ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ นั้นจึงมี 2 องค์เทพศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่เพื่อเป็นการแก้เคล็ด โดยการสร้าง พระตรีมูรติ และ พระพิฆเนศ เพื่อดูดซับพลัง จนเป็นที่เคารพสักการะของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาถึงปัจจุบัน 

องค์เทพทั้ง 2 องค์ มีดังนี้

พระตรีมูรติพระตรีมูรติ

พระตรีมูรติ

พระตรีมูรติเป็นรูปเคารพหนึ่งที่รวมเทพทั้ง 3 ไว้ในรูปเดียวกัน อันได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้ปกป้อง) และพระศิวะ (ทำลาย) ด้วยการรวมตัวกันของ “พลังทั้งสาม” ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดไว้ในรูปเดียวหรือร่างเดียวกันนี้ทำให้พระตรีมูรติเป็นดั่งการแสดงออกของปรมาตมันพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าในสรรพสิ่ง เป็นดั่งหนึ่งในองค์เทพเจ้าที่มีอำนาจสูงสุด จะมีความหมายที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งในชีวิต ความรัก และการงาน พระตรีมูรติเป็นที่นิยมบูชาในหมู่หนุ่มสาวในฐานะ “เทพแห่งความรัก” ว่ากันว่าศาลตรีมูรติที่ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์นี้เป็นเทพารักษ์ประจำวังเพ็ชรบูรณ์ (เซ็นทรัลเวิลด์ในปัจจุบัน) มีเสียงร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์มากมาย อย่างเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงที่กรุงเทพฯ โดนทิ้งระเบิด หากแต่เมื่อมีระเบิดตกลงมายังบริเวณดังกล่าว ลูกระเบิดกลับด้านไม่ทำความเสียหายให้กับวังแต่อย่างใด

สิ่งที่ใช้สักการะพระตรีมูรติ : ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง ดอกกุหลาบแดง และ ผลไม้ แต่ก็มีข้อห้ามอยู่ว่าไม่ให้ถวายอาหารคาวทั้งหลาย จะเว้นก็แต่มะพร้าว น้ำอ้อย นมสด หรือของหวาน

สถานที่ตั้ง : หน้าห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

พระตรีมูรติ

บทสวดขอพรต่อพระตรีมูรติ

สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติที่ยิ่งใหญ่ข้าพเจ้า นาย,นาง....(บอกชื่อ นามสกุล และที่อยู่) กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย ผู้ปฎิบัติดี ผู้ปฎิบัติชอบทั้งหลาย บัดนี้ข้าพเจ้ามากราบเบื้องบาทแด่พระองค์ท่านแล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้ (กล่าวขอพร....)

เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงมาบังเกิดแด่ข้าพเจ้า ตุมหากัง และจงบังเกิดแด่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้า ฑีฆายุกา มหาเดชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ปัญจวีสติ ภยันจะ ทวัตติงสะ ฉันนะวุฒิติโรคัญจะ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ อันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พระวิสตีติ (พระตรีมูรติ)

พระพิฆเนศวรพระพิฆเนศวร 

พระพิฆเนศวร

เทพแห่งความสำเร็จ พระองค์ทรงเป็นที่นับถือในฐานะเทพแห่งศิลปวิทยาการ เทพแห่งขจัดอุปสรรคความขัดข้อง ดังนั้นหากผู้ใดเป็นผู้รู้และประสบความสำเร็จต่อกิจการก็มักจะบูชาพระพิฆเนศ อีกทั้งทรงเป็นดั่งเทพผู้ทรงบันดาลความสำเร็จและพระผู้ปกป้องคุ้มครองจากภยันตรายและเป็นยอดกตัญญู แม้พระพิฆเนศวรจะเป็นเทพที่มีความเก่งกาจสามารถยิ่ง แต่ก็เป็นเทพที่สงบนิ่งไม่เย่อหยิ่งทรนง อันเป็นคุณสมบัติอันประเสริฐอีกประการหนึ่งของผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง จึงกล่าวได้ว่า พระพิฆเนศวรเป็นมหาเทพที่ดีพร้อมครบถ้วนด้วยความดีงามสมควรแก่การยกย่องบูชาเป็นนิจ เป็นที่เคารพของคนไทยเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วงการศึกษา เรื่อยไปจนถึงวงการศิลปินดารา ผู้คนที่มาไหว้ส่วนใหญ่ก็มักจะขอเรื่องเกี่ยวกับการงาน หรือขอให้สิ่งที่หวังและตั้งใจนั้นสำเร็จลงด้วยดี

สิ่งที่ใช้สักการะพระพิฆเนศวร :  จำนวนธูปที่ใช้จุดบูชาโดยปกติ จะใช้ ธูป หรือ กำยาน (อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง) พวงมาลัยดอกดาวเรือง กล้วย อ้อยหรือน้ำอ้อย มะม่วงสุก เมล็ดงา มะขวิด ทับทิม นมสดและนมเปรี้ยว ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว งดเว้นอาหารคาว 

สถานที่ตั้ง : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 คาถาบูชา พระพิฆเนศวรคาถาบูชา พระพิฆเนศวร

บทสวดขอพรต่อพระพิฆเนศวร

โอม นโม ภัควเต คชานนายะ นะมะหะ (3 จบ)
โอม ศรี คะเณศายะ นะมะหะ (3 จบ)

คาถาบูชาพระพิฆเนศ 

โอม ศรีคะเนศายะนะมะ
ชะยะคะเณศะ ชะยะคะเณศะ ชายะคะเณศะ
เทวา มาตา ชากี ปะระ วะตี ปิตามะหา เทวา ละฑุวัน
กา โกคะ ละเค สันตะ กะเร เสวา เอก ทันตะ
ทะยาวันดะ จาระ ภุชา ธารี มาเถ สินทูระ เสเห
มูเส กี อะสะวารี อันธะนะ โก อางขะ เทตะ
โก กายา พามณะนะ โก กุตรร เทตะ
โกทินะ นิระทะนะ มายาฯ

เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้ว ก็ขอพรตามประสงค์  จากนั้นให้กล่าวคำว่า "โอม ศานติ...โอม ศานติ...โอม ศานติ" เพื่อขอความสันติให้บังเกิด เป็นอันเสร็จสิ้น