ตุ๊กตาต้องสาป 3 แบบของญี่ปุ่น ที่หลอนจนแอนนาเบลยังต้องถอย
ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องตุ๊กตาต้องสาปกันมาบ้างใช่ไหมครับ ทั้งตุ๊กตาแบบที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้สาปแช่งคนอื่น และตุ๊กตาที่มีพลังงานอะไรบางอย่างมาสิงสู่และก่อให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดต่าง ๆ ขึ้นมา ว่ากันว่าตุ๊กตาต้องสาปที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นนั้นน่ากลัวที่สุดชนิดที่ตุ๊กตาแอนนาเบลในหนังฮอลลีวู้ดยังเทียบไม่ได้เลยละครับ ครั้งนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวของตุ๊กตาที่ถ่ายทอดคำสาปของญี่ปุ่นให้ทุกคนรู้จักกันครับ
สิ่งที่ถูกเรียกว่าตุ๊กตาต้องสาปนั้นมีอยู่มากมายในโลกนี้ ว่ากันว่า ยิ่งรักตุ๊กตาตัวนั้นมากเท่าไร ก็มีโอกาสที่ความรู้สึกนึกคิดจะถูกฝังลงไปในตุ๊กตามากเท่านั้น แค่การที่มันมีรูปร่างแบบมนุษย์ก็มีความหมายมากพอที่จะทำให้พลังงานบางอย่าง (คำสาป) เข้ามาสิงสู่ในตุ๊กตาที่มีรูปร่างแบบมนุษย์อยู่แล้วละครับ
เรื่องเล่าเกี่ยวกับตุ๊กตาต้องสาปมีมาทุกยุคทุกสมัย ในญี่ปุ่นก็จะมีตุ๊กตาต้องสาปที่ผมยาวได้ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ในต่างประเทศก็มีแอนนาเบลที่โด่งดังถึงขนาดฮอลลีวู้ดนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ในสมัยโบราณ ตุ๊กตาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการใช้สาปแช่งผู้อื่น และในขณะเดียวกันก็ใช้เพื่อเป็นตัวแทนในการรับเคราะห์ร้ายแบบเพทภัยต่าง ๆ แทนมนุษย์ด้วย เช่น ตุ๊กตาฟางของญี่ปุ่น ตุ๊กตาโคลนในลัทธิวูดู และตุ๊กตาลอยเคราะห์ “นากาชิบินะ” ซึ่งทำจากกระดาษญี่ปุ่น เป็นต้น
ตัวแทนตุ๊กตาต้องสาปของญี่ปุ่น
ตุ๊กตาโอคิคุนับเป็นมาตรฐานของเรื่องสยองขวัญญี่ปุ่นและเป็นตัวแทนของตุ๊กตาต้องสาปของญี่ปุ่นเลยละครับ เรื่องราวของตุ๊กตาโอคิคุเกิดขึ้นในปีไทโชที่ 7 เรื่องมีอยู่ว่า ซุซุกิ คิคุโกะ ได้ซื้อตุ๊กตาตัวหนึ่งมา แต่ในปีต่อมาคิคุโกะก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป คนในครอบครัวก็เก็บตุ๊กตาตัวนั้นเอาไว้ หลายปีผ่านไป เมื่อนำตุ๊กตาตัวนั้นออกมาอีกครั้งก็พบว่าผมของมันยาวขึ้น และกลายเป็นตุ๊กตาต้องสาปไป และในตอนนี้ตุ๊กตาตัวนั้นก็ถูกเก็บรักษาเอาไว้ที่วัดโยโรซุเน็นที่ฮอกไกโดครับ
ตุ๊กตาต้องสาปที่น่ากลัวทั้ง 3 แบบของญี่ปุ่น
ตุ๊กตาต้องสาปของญี่ปุ่นมีอยู่มากมาย แต่เดิมแล้วตุ๊กตาเป็นสิ่งสวยงาม แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมองแค่นิดเดียวก็จะกลายเป็นสิ่งน่ากลัวได้ จะขอแนะนำตุ๊กตาแปลก ๆ ที่ถูกเรียกว่าตุ๊กตาต้องสาปให้รู้จักกันนะครับ
ตุ๊กตาอิจิมัทสึ (ichimatsu ningyou)
ถ้าพูดถึงตุ๊กตาญี่ปุ่นที่ต้องสาปก็ต้องตุ๊กตาอิจิมัทสึละครับ ในยุคเอโดะ มันถูกใช้เป็นหนึ่งในเครื่องออกเรือนของเจ้าสาวเวลาที่ผู้หญิงในตระกูลซามูไรแต่งงาน และในขณะเดียวกันก็ยังมีธรรมเนียมในการใช้มันเป็นตัวตายตัวแทนเพื่อปัดเป่าเพทภัยด้วย แต่ถ้าพักเรื่องต้องสาปหรือไม่เอาไว้ก่อน สาเหตุที่ทำให้ตุ๊กตาญี่ปุ่นกลายเป็นของน่ากลัวไปก็คือการถูกนำไปทำเป็นหุ่นยนต์ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “uncanny valley phenomenon” หรือ ความกลัวสิ่งที่เหมือนมนุษย์แต่ไม่เหมือนมนุษย์นั่นเองครับ
ตุ๊กตาฟาง (Wara ningyou)
ตุ๊กตาฟางดูจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สาปแช่งมากกว่าจะเป็นตุ๊กตาต้องสาปนะครับ ตุ๊กตาฟางจะถูกใช้ในคำสาปญี่ปุ่นโบราณที่เรียกว่าอุชิโนะโคคุไมริ ซึ่งพิธีกรรมจะกระทำติดต่อกันหลายคืน และในคืนที่ 7 ก็จะสมบูรณ์แบบและผู้ที่เราสาปแช่งก็จะตายครับ แต่ถ้าหากมีใครมาพบเห็นตอนที่ทำพิธีอุชิโนะโคคุไมริมันก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ
อุชิโนะโคคุ เป็นคำโบราณที่ใช้เรียกเวลาตี 2 เชื่อกันว่าเป็นช่วงเวลาที่พืชพรรณหลับใหล และในช่วงเวลานี้โลกต่าง ๆ จะเชื่อมถึงกันครับ โดยจะใช้ตะปูตัวใหญ่ยาว 5 ซุน (15.15 ซม.) ตอกเข้าไปในตัวตุ๊กตาฟาง จึงทำให้ตุ๊กตาฟางกลายเป็นตุ๊กตาฟางกลายเป็นตุ๊กตาต้องสาปในอีกความหมายหนึ่งครับ
ตุ๊กตามีชีวิต (iki ningyou)
เป็นเรื่องสยองขวัญที่อินากาวะ จุนจิ นักแสดงชาวญี่ปุ่นนำประสบการณ์ที่ได้เผชิญกับตุ๊กตาต้องสาปจริง ๆ มาเขียนขึ้นครับ
เรื่องราวย่อ ๆ ก็คือ นักเชิดหุ่นที่มีชื่อเสียง มาเอโนะ ฮิโรชิ ได้รับคำเชิญว่า “จะใช้ตุ๊กตาตัวใหม่ที่เพิ่งได้มาแสดงละครเวที ช่วยไปเป็นหัวหน้าคณะให้หน่อยได้ไหม” แล้วก็เกิดเรื่องแปลก ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ช่างทำตุ๊กตาก็หายสาบสูญไป บ้านนักเขียนบทถูกไฟไหม้ ลูกพี่ลูกต้องของมาเอโนะก็เสียชีวิตกะทันหัน ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนี้ถูกนำเสนอในรายการทีวี กลายเป็นปรากฏการณ์น่ากลัวที่แม้แต่ผู้ชมยังรับรู้ได้ ซึ่งคนทรงได้กล่าวว่า “อินากาวะซัง เคยใช้ตุ๊กตาตัวนี้ทำอะไรคะ? ตุ๊กตาตัวนี้มีชีวิตนะคะ มันถูกความเคียดแค้นของผู้หญิงมากมายสิงสู่อยู่” จนเป็นที่ตื่นตะลึง
จริง ๆ แล้วตุ๊กตาที่เหมือนมนุษย์ซึ่งถูกเรียกว่าตุ๊กตามีชีวิต (iki ningyou) หรือ katsu ningyou เป็นหนึ่งในของประดับของญี่ปุ่นเท่านั้นเองครับ
วิธีสร้างตุ๊กตาสาปแช่ง
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จะขอแนะนำวิธีการสร้างตุ๊กตาสาปแช่งจากตุ๊กตายัดนุ่นไว้ด้วยเลยนะครับ แต่จะได้ผลหรือไม่อย่างไรก็ไปพิสูจน์กันเอาเองนะครับ
ตุ๊กตายัดนุ่นเป็นตุ๊กตาประเภทหนึ่ง ซึ่งในภาษาญี่ปุ่น คำว่า ตุ๊กตา ประกอบด้วยตัวอักษร “คน 人” และ “รูปร่าง 形” ซึ่งในสมัยโบราณมันคืออุปกรณ์ที่ถูกใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อใส่จิตวิญญาณของมนุษย์หรือใช้ประกอบคำสาป ส่วนวิธีทำตุ๊กตาสาปแช่งมีง่าย ๆ ดังนี้ครับ
1. เตรียมตุ๊กตายัดนุ่นไว้ ผ่าท้องออก แล้วใส่ของกินที่เน่าแล้วผสมกับดินเน่า ๆ เข้าไป จากนั้นก็ใส่กระดาษที่เขียนชื่อคนที่ต้องการสาปแช่งเข้าไป เย็บท้องปิดไว้ตามเดิม
2. ทิ้งตุ๊กตาสาปแช่งไว้ 30 วัน วิญญาณของคนที่เราอยากสาปแช่งจะเข้ามาอยู่ในตุ๊กตา จากนั้นก็ใช้คำสาปกับตุ๊กตาสาปแช่งได้ เช่น เอามีดแทง เอาไปให้รถทับ หรือตัดแขนตัดขา
3. สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นกับคนที่เราสาปแช่งซ้ำ ๆ ไปหลายวันหรือหลายเดือนครับ
ตุ๊กตาต้องสาปมีลักษณะเฉพาะคือ มีวิญญาณมาสิงสู่ได้ง่ายนะครับ ซึ่งหากคำสาปแช่งได้ผลแล้วต้องไม่ลืมที่จะเอาของที่อยู่ข้างในออกเพื่อเป็นการกำจัดวิญญาณเหล่านั้นด้วย…แต่ผมว่า มันไม่น่าจะได้ผลนะครับ ถ้าแค่เขียนชื่อใส่ลงไป คนที่ชื่อเหมือนกันจะไม่โดนกันหลายคนเลยเหรอครับเนี่ย
สรุปก็คือ…
ว่ากันว่าตุ๊กตาสาปแช่งที่ทำขึ้นในญี่ปุ่นน่ากลัวที่สุด
ว่ากันว่าตุ๊กตามีจิตวิญญาณสิงสู่อยู่ได้ ยิ่งถ้ามีตาจมูกปากครบยิ่งทำให้มีจิตวิญญาณสิ่งสู่อยู่ในตุ๊กตาได้ง่าย ตุ๊กตาจะกลายเป็นเจ้าของได้ และตุ๊กตาสาปแช่งจะเกิดจากความแค้นส่วนตัวที่มีต่อใครบางคน
แถมท้าย
ตุ๊กตาโอคิคุที่นับเป็นตัวแทนของตุ๊กตาต้องสาปนั้น ในแง่วิทยาศาสตร์แล้วได้อธิบายว่าผมของตุ๊กตานั้นไม่ได้มีชีวิตหรอกครับ แต่เกิดจากการสร้างตุ๊กตาญี่ปุ่นที่จะฝังเส้นผมในหนังศีรษะในลักษณะตัว U เมื่อเวลาผ่านไปมันจึงค่อย ๆ โผล่ออกมาครับ
และตุ๊กตาญี่ปุ่นนั้นแค่เปลี่ยนมุมมองสีหน้าก็จะเปลี่ยนไปโดยไม่เกี่ยวว่าต้องสาปหรือไม่หรอกครับ ไม่คิดว่าเป็น ความงามที่ลึกลับ บ้างเหรอครับ