9 วิธีสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อของคนไทย
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังดวงตก ดวงไม่ดี ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด หรือมีสัญญาณลางร้ายอะไรที่เป็นตัวบอกเหตุว่าดวงคุณกำลังจะถึงฆาต จะมีเคราะห์หนัก แอดมินมั่นใจว่าสิ่งที่คุณจะต้องนึกถึงกันเป็นอันดับแรกเลยก็คือการทำบุญสะเดาะเคราะห์ โดยการสะเดาะเคราะห์นี้เป็นการทำพิธีตามความเชื่อโบราณว่าจะสามารถช่วยแก้เคล็ด เสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น และต่ออายุขัยให้กับเราได้ ดังนั้นหากคุณมีความรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองดวงไม่ดี หรืออะไรก็ตามแต่ ลองนำ 9 วิธีที่เรากำลังจะเสนอต่อไปนี้ไปลองปฏิบัติตามกันดูนะคะ
1. รักษาศีล ถือศีล
การรักษาศีลสามารถปฏิบัติกันได้ไม่ยาก หากเรารักษาศีล 5 ได้เป็นประจำ และประพฤติปฏิบัติตั้งมั่นอยู่บนความดีงาม จะช่วยสร้างบุญสร้างกุศลและเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่ง และอานิสงส์เหล่านี้ก็จะช่วยลดกรรมและแก้เคราะห์สะเดาะเคราะห์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีศีล 8 ที่ค่อนข้างยากและซับซ้อนกว่าศีล 5 มาก ดังนั้นหากสามารถรักษาศีล 8 ได้ บุญกุศลและอานิสงส์ที่ได้รับก็จะมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
2. การบวช
การบวชเป็นเหมือนค่านิยมของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว นอกเหนือจากความเชื่อที่ว่าถ้าลูกชายได้บวชแล้ว พ่อแม่หรือบุพการีจะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ยังมีความเชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่ดวงชะตาสะดุด มีดวงถึงฆาต ชะตาขาด พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก การบวชจะช่วยสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาให้ได้
3. กินเจ
การกินเจ อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าต้องใช้ความอดทนอดกลั้นและความพยายามอย่าเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เจแตก แต่หากเรามีจุดประสงค์ในการกินเพื่อสร้างบุญสร้างกุศล ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และปฏิบัติด้วยความเต็มใจ ไม่ฝืนตัวเอง อานิสงส์ของการกินเจนี้ก็จะสร้างบุญสร้างกุศลให้กับเราได้อย่างแน่นอนค่ะ อย่างเดือนนึง อาจจะกินเจสัก 3-7 วัน ติดต่อกันก็จะดีค่ะ นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังช่วยล้างสารพิษและปรับสมดุลของระบบอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายของเราได้ด้วยค่ะ
4. ทำบุญใหญ่ในรูปแบบต่างๆ
ไปทำบุญถวายสังฆทาน ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค หรือจะถวายในรูปแบบของเงินทอง เช่น ทำบุญร่วมสร้างโบสถ์ วิหารต่างๆ ชำระหนี้สงฆ์ ไปบริจาคข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้กับเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา คนเจ็บ คนพิการ ให้ทานกับคนยากจน หรือจะทำบุญด้วยการใช้แรงงานต่างๆ ก็ได้ เช่น การล้างส้วมวัด กวาดลานวัด ด้วยอานิสงส์ของการทำบุญเหล่านี้จะช่วยหนุนดวง เสริมดวง แก้เคล็ด หรือผ่อนกรรมจากหนักให้เป็นเบาได้ค่ะ
5. หมั่นกรวดน้ำ ขอขมากรรมหรืออโหสิกรรมบ่อยๆ
หลังจากทำบุญแล้วต้องอย่าลืมกรวดน้ำ เพื่อขอขมากรรมหรือขออโหสิกรรม โดยให้ตั้งนะโม 3 จบ และอธิษฐานว่ากุศลผลบุญต่างๆ ที่ได้ทำไป ข้าพเจ้าขออุทิศให้กับญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว พระแม่ธรณี เทวดาประจำตัว รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ที่เราอาจเคยได้ไปล่วงเกิน เบียดเบียน ทำร้ายหรือทำอะไรไม่ดีให้เขาเหล่านั้นต้องเป็นทุกข์และเจ็บช้ำน้ำใจ โดยทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม จากนั้นให้แผ่เมตตา หากเราปฏิบัติได้เช่นนี้บ่อยๆ ก็จะช่วยลดหรือผ่อนแรงกรรมแรงอาฆาตจากเจ้ากรรมนายเวรที่อาจกำลังส่งผลอยู่ได้ค่ะ
6. สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ไหว้พระ 9 วัด
หมั่นเข้าวัด ฟังธรรม สวดมนต์ ทำสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน ปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจสงบ จิตใจสบาย สามารถปล่อยวางสิ่งต่างๆ ได้ และเข้าถึงสัจธรรมของโลก หรือจะใช้วิธีสะเดาะเคราะห์แก้เคล็ดเสริมดวงโดยการไปไหว้พระ 9 วัด ก็ได้ค่ะ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ผู้คนนิยมปฏิบัติกันบ่อยมากที่สุด เนื่องจากสามารถปฏิบัติตามได้ไม่ยากและใช้เวลาไม่นาน
7. ปล่อยชีวิตสัตว์เป็นทาน
ไปปล่อยชีวิตสัตว์เป็นทานบ่อยๆ เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ปล่อยนก ปล่อยเต่า หรือปล่อยปลาหน้าเขียงตามตลาดที่กำลังจะถูกฆ่า ด้วยอานิสงส์ผลบุญของการปล่อยชีวิตสัตว์ให้เป็นทานนี้จะทำให้คุณได้รับกุศลผลบุญที่ยิ่งใหญ่ และทำให้สิ่งต่างๆ ที่ติดขัดอยู่คล่องตัวมากขึ้นด้วย
8. นอนโลงศพ
มีความเชื่อว่าการนอนโลงศพ ทำบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย จะเป็นการช่วยต่ออายุและสามารถสะเดาะเคราะห์ได้ แต่หากใครไม่สะดวกหรือกลัวจริงๆ แนะนำว่าให้ไปบริจาคหรือทำบุญเกี่ยวกับโลงศพ ผ้าห่อศพ ช่วยเหลือศพไร้ญาติ ก็ได้ค่ะ ด้วยอานิสงส์ของการทำบุญเช่นนี้ จะช่วยผ่อนเคราะห์หนักให้เป็นเบาได้ รวมทั้งยังลดแรงกรรม ต่อดวงชะตาและอายุขัยได้อีกด้วย
9. ไปไหว้หรือบูชาขอพรเทพเจ้าต่างๆ
พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการไปไหว้บูชาขอพรจากเทพเจ้าต่างๆ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญๆ เช่น ศาลหลักเมือง พระแก้วมรกต และอื่นๆ หรืออาจจะใช้วิธีบนบานแลกเปลี่ยน เช่น กินเจ 7 วันติดกัน หรือถวายของไหว้บูชาต่างๆ และขอให้ท่านช่วยเหลือปกปักษ์รักษาคุ้มครองเรา ให้เราอยู่เย็นเป็นสุข ผ่านพ้นเรื่องร้ายหรือเคราะห์ร้ายต่างๆ ไปได้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ บางคนอาจจะมีวิธีการอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากนี้ก็ได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือควรเลือกทำตามความเหมาะสมและความสบายใจ โดยที่ตัวเองต้องไม่เดือดร้อนจึงจะดีที่สุดค่ะ และทั้งนี้จะดีหรือร้ายนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วย หากเราไม่ประมาท มุ่งมั่นทำแต่สิ่งดีๆ รักษาศีล เข้าวัดทำบุญทำทานบ้าง อานิสงส์ของผลบุญเหล่านี้จะเป็นเกราะปกป้องคุ้มครองเราได้แน่นอนค่ะ