ทำไมหลายคนถึงนิยมบูชากุมารทอง?

กุมารทอง เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของคนไทยเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณ และยังเป็นเครื่องรางของขลังที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ปัจจุบันได้มีการปรับและดัดแปลงให้มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น จะเห็นได้จากรูปปั้นกุมารทอง สร้อย จี้ กำไล เครื่องประดับ หรือแม้แต่เครื่องรางของขลังของมงคลต่าง ๆ ที่มีพุทธคุณของกุมารทองเป็นองค์ประกอบ ดังนั้นวันนี้โฮโรโซไซตี้ขอนำเสนอบทความเรื่องการบูชากุมารทองมาฝากแฟน ๆ กันค่ะ

  กุมารทองมีที่มาจากวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน โดยขุนแผนจับได้ว่าเมียของตนคิดวางยาพิษเพื่อที่จะฆ่าตน จึงได้ลงมือฆ่าเมียและผ่าท้องเอาบุตรชายในท้องออกมาทำเป็นกุมารทอง โดยทำพิธีย่างศพเด็กและปิดทองคำเปลว และใส่ผ้าห่อไว้ จนได้กลายมาเป็นผีกุมารทอง แต่ในปัจจุบันไม่สามารถกระทำเช่นนี้ได้ เนื่องจากทั้งผิดกฏหมายและผิดศีลธรรม ดังนั้นการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ จึงได้เปลี่ยนแปลงไป โดยอาจจะนำมวลสารอื่น ๆ ตามความเชื่อมาใช้แทน ไม่ว่าจะเป็น ดินจากเจ็ดป่าช้า ไม้รักซ้อน ไม้มะยม หรือไม้ที่ตายขณะยืนต้น (คนโบราณเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงอยู่) ไปจนถึงโลหะ และอื่น ๆ แล้วจึงนำมาปลุกเสกตั้งจิตอธิษฐานให้บังเกิดเป็นวิญญาณของเด็กแทน จากนั้นจึงนำวิญญาณนั้นมาเลี้ยง

          ปัจจุบันนิยมสร้างกุมารทองเป็นรูปเด็ก ลักษณะเป็นเด็กไว้จุก นุ่งโจงกระเบนแบบสมัยโบราณ และจะเชื่อกันว่ามีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปปั้นกุมารนั้นหลังจากผ่านการปลุกเสกหรือเข้าพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาแล้ว นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันว่ากุมารทองนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

1. กุมารทองสายพราย ที่ถูกปลุกเสกโดยใช้เถ้ากระดูกหรือวิญญาณผีตายโหง มีอิทธิฤทธิ์และมีความดุร้ายมาก มักใช้ไว้สังหาร ทำร้าย หรือทำเรื่องไม่ดีแก่ศัตรู โดยกุมารทองประเภทนี้มักจะอยู่ในแถบเขมร และถูกสร้างขึ้นโดยนักไสยเวทย์ที่เก่งกล้าทางด้านมนต์ดำ
2. กุมารทองสายเทพ จะเป็นด้านเมตตามหานิยม มักจะให้คุณประโยชน์ ใช้ไว้เฝ้าบ้าน เรียกลูกค้า เรียกทรัพย์ เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมาแก่ตัวผู้เลี้ยง

          อย่างไรก็ตามผู้บูชาที่เลี้ยงกุมารทองต้องเลี้ยงดูให้เหมือนเป็นลูกของตนเอง ต้องเลี้ยงให้ดี ให้ข้าวให้น้ำให้ขนม รวมถึงของเล่นต่าง ๆ เพราะหากเลี้ยงหรือดูแลกุมารทองไม่ดี ก็อาจจะส่งผลเสียโดยตรงกับตัวผู้เลี้ยง แต่ในทางตรงกันข้าม หากเลี้ยงและดูแลดี กุมารทองก็จะให้คุณประโยชน์กับตัวผู้เลี้ยงอย่างมากมายเลยล่ะค่ะ

การบูชากุมารทองช่วยด้านใดบ้าง?

• ช่วยในด้านการค้าขาย เรียกลูกค้าให้เข้าร้าน เงินทองไหลมาเทมา ยอดขายดี
• ช่วยทำให้มีโชคลาภ ลาภลอย
• ช่วยให้การเจรจาหรือการติดต่อธุรกิจการงานประสบความสำเร็จ ราบรื่น เป็นไปในทิศทางที่ดี หรือผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้โดยง่าย
• ช่วยปกป้องคุ้มครองทั้งตัวผู้เลี้ยงเองและครอบครัว  และช่วยดูแลเฝ้าบ้านเฝ้าเรือนให้

ของถวายกุมารทอง

• น้ำแดง / น้ำเปล่า / นม (ตามที่ตกลง จะให้เท่าไหร่ ให้วันไหน ให้จุดธูปบอกไปด้วย) แต่ปกติมักจะถวายทุกวันพระ เพื่อความสะดวกสำหรับผู้บูชา
• กล้วย ส้ม แอปเปิล หรือผลไม้ต่าง ๆ
• ขนมต่าง ๆ (ห้ามถวายของคาวและของดิบ)
• ของเล่น หรือของรางวัลพิเศษที่นอกเหนือจากของถวาย

การบูชากุมารทอง

          ก่อนจะนำกุมารทองเข้าบ้านควรจัดเตรียมสถานที่ตั้งบูชาให้เรียบร้อย โดยควรจัดแยกออกมาจากหิ้งพระหรือเทพองค์อื่น ๆ ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ไม่ควรวางไว้ทางทิศตะวันตก และไม่ควรวางไว้ที่ปลายเท้า

          นอกจากนี้ต้องขออนุญาตจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระภูมิเจ้าที่ในบ้านก่อนจะพากุมารทองเข้าบ้านด้วย จากนั้นจึงจุดธูปบอกกุมารทองให้มาอยู่ด้วยกัน โดยให้ใช้ธูป 5 ดอก ปักหน้าหิ้งกุมารทอง และแนะนำตัวกับกุมารทอง ดังนี้

“พ่อชื่อ,แม่ชื่อ…..…………….เป็นคนนำเจ้ามาเลี้ยงบูชา ต่อไปนี้เจ้าชื่อ………(ให้ตั้งชื่อกุมารทอง)
พ่อ แม่ นำเข้ามาบูชาเพื่อให้เจ้าช่วย หาเงินหาทอง เฝ้าบ้าน ให้โชคให้ลาภ ลูกกุมารทอง มาช่วยพ่อแม่ให้สมปรารถนาเถิดแล้ว พ่อ แม่ จะให้ของรางวัลลูกนะ เจ้าจงเชื่อฟังพ่อ แม่นะ ไปไหนก็ไปด้วยกัน กินอะไรก็กินด้วยกัน ไม่ต้องให้รอเรียก (นำ กุมารทองเข้า บ้านเข้าเรือน ให้แนะนำคนในบ้านให้กุมารทองรู้จักด้วย และบอกกุมารทองอย่าซน อย่าหนีเที่ยว อย่าอู้งาน จงทำงานให้พ่อ แม่ สมดังใจเถิด แล้วจะหาของรางวัลให้)

          อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าลืมไปทำบุญให้กุมารทองบ่อย ๆ และต้องรักษาสัญญาตามที่ได้ให้ไว้ เมื่อสมหวังได้รับสิ่งที่ขอสิ่งที่ปรารถนาเรียบร้อยแล้ว และก่อนนอนอย่าลืมท่องคาถา สวดคาถาบูชากุมารทองกันด้วยนะคะ เพื่อให้กุมารทองสงบและเชื่อฟังเรา ทั้งยังช่วยให้มีความศักดิ์สิทธิ์และมีอิทธิฤทธิ์มากขึ้นอีกด้วย