Unseen แหล่งไหว้พระขอพรต้อนรับปีใหม่ 2563

Unseen แหล่งไหว้พระขอพรต้อนรับปีใหม่ 2563

Unseen แหล่งไหว้พระขอพรต้อนรับปีใหม่ 2563
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปีใหม่แล้ว มาหาอะไรดี ๆ ทำให้เกิดสิริมงคลต่อตัวเรากันดีกว่าค่ะ โฮโรโซไซตี้ขอนำเสนอสถานที่ที่สุดแสนจะ Unseen และศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้แฟนๆ ได้ตามไปไหว้พระขอพรต้อนรับปีใหม่ 2563 กันดีกว่า เชื่อว่าบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของวัดที่เราเสนอไปเสียด้วยซ้ำ หรือบางคนก็อาจจะคุ้น ๆ หู ผ่านตากันมาบ้าง แต่ยังไม่เคยได้แวะเข้าไป แอดมินก็เช่นเดียวกัน แต่จะขอบอกว่าสถานที่เหล่านี้สงบ สวยงาม และสุดยอดเรื่องสิริมงคลทั้งนั้นเลย ดังนั้นอย่ารอช้า รีบจดลายแทงไว้ให้ไว พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

 1. วัดสิรินธรวราราม (ภูพร้าว) จ.อุบลราชธานี

          หรือที่นิยมเรียกกันว่า “วัดเรืองแสง” เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ จุดเด่นของวัดนี้คือ “ต้นไม้เรืองแสง” หรือภาพจิตรกรรมบนผนังด้านหลังของอุโบสถจะเรืองแสงให้เห็นเป็นสีเขียวในยามค่ำคืน โดยเวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมคือตั้งแต่ 18.00-20.00 น. และอีกไฮไลท์เด็ดของวัดก็คือ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมาก และหากว่าวันไหนโชคดีก็จะได้เห็นดวงดาวมากมายอยู่เต็มท้องฟ้ากันด้วยค่ะ

 

  2. วัดอโศกการาม จ.สมุทรปราการ

          วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญและเต็มไปด้วยความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรม และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มักจะมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาทำวิปัสสนากรรมฐานอยู่เสมอ โดยไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือมี “พระธุตังคเจดีย์” เป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ โดยทุกองค์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อระลึกถึงหรือมีความหมายถึงธุดงควัตร 13 ประการ นอกจากนี้ยังมีพระธาตุของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน และอนุสาวรีย์พระเจ้าอโศกมหาราชอีกด้วย

       3. วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส จ.ลำปาง

          เจดีย์ลอยฟ้าบนยอดเขาของวัดพระพุทธบาทสุทธาวาส จ.ลำปาง หรือที่เรียกกันว่าดอยพระบาทปู่ผาแดง มีลักษณะเป็นผาหินสูงชัน โดยไฮไลท์ของที่นี่คือความมหัศจรรย์ในการสร้างเจดีย์ตามยอดเขาสูง ที่ต้องใช้เวลาราว 40 นาที ในเดินเท้าขึ้นบันไดกว่า 300 ขั้น และนอกจากจะเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามแล้ว ยังได้รับการขนานนามจากบรรดานักท่องเที่ยวว่าเป็นจุด Unseen ของประเทศไทยที่ไม่ควรพลาดอย่างแรง

  4. โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ จ.ฉะเชิงเทรา

          พระอุโบสถสีทองหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมน้ำบางปะกง ฉาบทาด้วยสีทองทั้งหลัง เปรียบกับการจำลองภาพบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความงดงามตระการตาเป็นอย่างมากทั้งภายในและภายนอก ทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา โดยไฮไลท์เด็ดของที่นี่ที่ไม่ควรพลาดคือการลอดใต้ฐานพระประธาน เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ

5. พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีจันธ์

          เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ที่สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หรือรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสที่พระองค์ได้ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 โดยไฮไลท์ของที่นี่คือมีสถาปัตยกรรมที่มีความละเอียดบรรจงและสวยงามวิจิตรตระการตาทั้งภายในและภายนอก ตามแบบกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และไม่เหมือนกับที่อื่น

  6. อุทยานพระพุทธศาสนา อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

          หรือที่ผู้คนต่างขนานนามกันว่า “วัดนิรนาม” แห่งใหม่ในเมืองใต้ เนื่องจากยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยอุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำตาปี ภายในอุทยานจะมีประพุทธรูปประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่เรียงกันเป็นแถว จึงเป็นภาพที่ค่อนข้างดูแปลกตาและหาชมได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกดิน จะปรากฏให้เห็นเป็นแสงหลากสีอยู่หลังองค์พระพุทธรูป จึงยิ่งทำให้ที่แห่งนี้ดูมีมนต์ขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก

 7. วัดประยงค์กิตติวนาราม จ.กรุงเทพมหานคร

          เป็นวัดเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมืองหลวงของเรานี่เองค่ะ โดยไฮไลท์ของวัดนี้จะอยู่ที่ความยิ่งใหญ่และงดงามตระการตาของพญาครุฑ ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณด้านหน้าวัด นอกจากนี้ยังมีพระพุทธศรีอริยเมตตไตยทรงเครื่องใหญ่ และพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์องค์อื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับใครที่อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ห้ามพลาดวัดนี้เลยนะคะ

 8. วิหารแก้ววัดม่วง จ.อ่างทอง

          ไฮไลท์เด็ดของวัดม่วงคือ มี “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า สามารถเห็นได้มาแต่ไกล นอกจากนี้ยังมีพระวิหารแก้วรัตนพราหมณ์-สุวรรณปาล ที่ประดับด้วยกระจกแก้วทั้งภายในและภายนอก เมื่อต้องแสงจะระยิบระยับสวยงามมาก และยังได้มีการเทหล่อทองเหลือง สร้างรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศจำนวน 50 องค์ ประดิษฐานอยู่รอบในวิหารแก้วอีกด้วย

 9. วัดถ้ำผาแด่น จ.สกลนคร

          เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน มีไฮไลท์ที่สำคัญคือ ภาพแกะสลักหน้าผาหินบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนา และด้านบนประดิษฐานเจดีย์ก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เป็นสื่อแทนถึงยอดเขาพระสุเมรุ อีกทั้งยังมีรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางพื้นของทางวัดให้ประชาชนได้มาสักการะบูชากัน และอีกไฮไลท์หนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยของวัดนี้ก็คือ องค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ใต้เศียรพญานาค นอกจากจะมีความศักดิ์สิทธิ์และสวยงามแล้ว ยังมีคุณค่าทางจิตใจด้วยนะคะ

          มีแต่ที่เด็ด ๆ น่าสนใจทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ อย่างไรแอดมินก็ขอให้ทุกคนที่จะไปไหว้พระขอพรไม่ว่าที่ใดก็ตามประสบแต่ความสุข สมหวังและสำเร็จดังใจปรารถนาค่ะ สาธุ ๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook