เบญจเพสคืออะไร น่ากลัวจริงไหม?
คนเราเมื่อเวลาทำความผิดอะไรมาหรือมีเรื่องอะไรที่ไม่ดี ก็เป็นเรื่องปกติที่มักจะไม่ค่อยยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเองกันเท่าไร โดยบางคนอาจจะประมาทเลินเล่อ ไม่มีสติ ใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา หรืออะไรก็ตามแต่ จนทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายตามมา และมักจะโทษว่าเป็นปีเบญเพสของตัวเองบ้าง ปีนี้ปีชงบ้าง ดวงตกดวงซวยบ้าง โทษฟ้าดินคนรอบข้างบ้าง และอื่น ๆ วันนี้เราจะขอหยิบยกหนึ่งในความเชื่อที่มีมายาวนานของคนไทยมาอธิบายกัน นั่นคือเรื่องเบญจเพส จะได้รู้ว่าจริงไหม ควรระมัดระวังตัวอย่างไร พร้อมแล้วไปดูเลย!
เมื่อไหร่ก็ตามที่อายุครบ 25 ปี บริบูรณ์ หรือ 25 จะย่างเข้า 26 หรือแม้แต่ตอนที่ได้ยินคำว่า “เบญจเพส” ทีไร คนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกเป็นกังวล และคิดกันว่าเป็นช่วงปีที่ไม่ดีกันเสียมาก แต่จริง ๆ แล้วน้อยคนนักที่จะทราบถึงความหมายและที่มาของเบญจเพสจริง ๆ ค่ะ ว่ามีทั้งด้านที่ดีและด้านที่แย่
คำว่าเบญจเพส ประกอบไปด้วยคำว่า “เบญจ” ที่แปลว่าห้า และคำว่า “เพส” ที่แปลว่ายี่สิบ โดยมีความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่าช่วงอายุ 25 จะเป็นปีที่ยมบาลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคอยดูสิ่งที่เราได้ทำไว้ ประกอบกับหากเป็นช่วงที่ดวงตกหรือดวงอ่อนด้วยแล้วก็จะยิ่งทำให้มีเคราะห์หนัก เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรสามารถตามหาเราเจอ และจะยิ่งส่งผลร้ายมาให้ด้วย ดังนั้นในช่วงเบญจเพสนี้จึงไม่ควรทำสิ่งไม่ดีทั้งหลาย รวมถึงต้องระมัดระวัง มีสติรอบคอบ และไม่ประมาทในการใช้ชีวิตนั่นเอง
แม้ว่าเบญจเพสจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่อายุ 25 ปี นะคะ ที่จะเป็นปีเบญจเพส แต่ยังรวมถึงอายุที่ลงท้ายด้วยเลข 5 (เช่น 25 35 45) ที่จะทำให้ชีวิตของเราเจอพบเจอกับเรื่องราวสุดโต่ง ซึ่งก็จะมีทั้งเรื่องที่ดีมาก ๆ และแย่มาก ๆ นั่นเองค่ะ หากพูดถึงเรื่องแย่ ๆ ของปีเบญจเพส ก็จะมีตั้งแต่จิตใจเศร้าหมอง หดหู่ ทำอะไรก็แย่ไปเสียหมด อาจถึงขั้นตกงาน หรืออาจจะอกหัก ถูกแฟนทิ้ง มีปัญหาครอบครัว ยังไม่รวมถึงปัญหาสุขภาพทั้งหลาย อุบัติเหตุไม่คาดฝัน รถชน รถเสีย หรือการสูญเสียทั้งทรัพย์สินเงินทอง สูญเสียคนใกล้ชิด และร้ายแรงสุดอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตามจากที่เราได้บอกไปแล้วว่าเบญจเพสก็มีเรื่องที่ดีด้วย โดยหากพูดถึงเบญเพสในแง่ดี ก็จะมีตั้งแต่เรื่องงาน เงิน ความสำเร็จ โชคลาภ ตำแหน่ง หรือแม้แต่เรื่องความรัก ซึ่งก็อาจจะโดดเด่นและดีงามไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง หรือบางคนเมื่ออายุครบ 25 ย่าง 26 ปี ก็อาจมีเรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิตมากมายพร้อม ๆ กันหลายเรื่องเลยก็มีค่ะ เช่น อาจจะได้งานใหม่ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ได้แต่งงาน หรือแม้แต่มีโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิต ดังนั้นหากเป็นปีที่ดีของคุณ ก็ขอให้คุณรีบกอบโกยให้ได้มากที่สุด และอย่าลืมทำบุญหนัก ๆ กันด้วยนะคะ
นอกจากนี้ในมุมมองของทางโหราศาสตร์สมัยใหม่ได้มีการมองเบญจเพสเป็นแบบอนุกรม คือ อายุย่าง 13 25 27 49 61 โดยบวก 12 ไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีที่มาจากความเชื่อเรื่องธาตุประจำตัวตอนถือกำเนิด และดวงดาวต่าง ๆ ที่ส่งผลและมีอิทธิพลกับชีวิตของเรา ที่จะคอยส่งธาตุลงมาประจุให้เต็มกำลังตามตำแหน่งที่ดวงเดิมระบุ โดยกว่าจะครบบริบูรณ์นั้นจะต้องใช้เวลาถึง 60 ปี แต่ระหว่างที่ธาตุยังไม่เต็มกำลังนั้น เราจะได้รับกำลังจากพระธรณี นอกจากนี้ยังมีวงรอบธรรมชาติของธาตุที่เกิดจากดวงอาทิตย์และพฤหัสด้วย โดยที่ดวงอาทิตย์จะโคจรปีละ 12 ราศี และจะให้ธาตุลงมาป้อนดวงชะตาในหนึ่งปี เมื่อครบ 12 ปี แล้วจึงขึ้นรอบธาตุต่อไป ซึ่งก็คือ อายุ 13 ปี และระบบธาตุก็จะมีการจัดตัวใหม่เพื่อรับธาตุในรอบใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วเนอะ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยว่าจะเชื่อกันมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงปีเบญจเพส (ซึ่งเป็นวัยที่กำลังคึกคะนอง) ก็อย่าได้หวาดกลัวกันไปจนไม่เป็นอันทำอะไรนะคะ เพราะจริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนขึ้นอยู่กับตัวเราและการกระทำของเราเองทั้งนั้น หากเราทำดี หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะต้องปกป้องคุ้มครองเราแน่นอนค่ะ ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ขอให้ใช้ชีวิตกันด้วยความระมัดระวัง มีสติรอบคอบ และไม่ประมาทเป็นพอ