เดจาวู คืออะไร? เรียกฝันแม่นได้ไหม?

เดจาวู คืออะไร? เรียกฝันแม่นได้ไหม?

เดจาวู คืออะไร? เรียกฝันแม่นได้ไหม?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 “เอ๊ะ! ทำไมเหตุการณ์นี้คุ้นจัง เหมือนเคยเกิดขึ้นแล้ว” เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เคยพบกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ หรือแม้แต่ที่นี่ฉันว่าฉันเคยไปมาแล้ว หรือสิ่งนี้ฉันเคยทำมาก่อน ทั้งที่จริงแล้วเรายังไม่เคยไปหรือไม่เคยทำมาก่อนเลย ฟังแล้วอาจจะดูงง ๆ เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าปราฏการณ์เดจาวูคืออะไร และเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้หรือไม่ หรือที่จริงแล้วอาจเป็นเรื่องที่เรามองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้กันแน่

 

 คำว่า “เดจาวู” (Déjà Vu) เป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “เคยเห็นมาแล้ว” ส่วนสาเหตุของการเกิดเดจาวูนั้นยังค่อนข้างที่จะเป็นปริศนาอยู่ หรือยังไม่มีคำอธิบายอะไรที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากทดสอบและจับต้องได้ยาก แต่หลัก ๆ นั้นเชื่อว่าเกิดขึ้นจากความฝัน จากความทรงจำหรือประสบการณ์ที่คล้ายกันที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

          หากมองถึงหลักการทางพุทธหรือหากจะเรียกให้เข้าใจกันได้แบบง่าย ๆ ก็คือ “สายมู” นั่นเองค่ะ โดยหากมองจากมุมนี้คือเราเคยผูกจิตต่อกันในชาติที่แล้ว บางคนก็เชื่อว่าโลกเราไม่ได้มีเพียงใบเดียว แต่ยังมีอีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า “จักรวาลคู่ขนาน” หรือ “โลกคู่ขนาน” ซึ่งสัมผัสเชื่อมต่อถึงกันได้ เช่น ณ ขณะนี้ เรามีตัวตนอยู่บนโลกของเรา แต่เราก็อาจจะมีตัวตนอยู่ในอีกหลาย ๆ โลกก็ได้ ดังนั้นเมื่อเกิดเดจาวูขึ้น ก็อาจจะหมายถึงว่าตัวเราในอีกโลกหรือจักรวาลหนึ่งได้เคยทำสิ่ง ๆ นั้นมาแล้วนั่นเอง

          นอกจากนี้มีคนนำทฤษฎีเดจาวูกับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนานมาผูกเข้าด้วยกันและอธิบายไว้ว่า การที่เรารู้สึกหรือเห็นภาพที่คล้ายว่าเคยทำมาก่อนนั้นคือเราเคยทำจริง ๆ แต่เป็นเราในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งตัวเราเองในทุก ๆ โลกก็จะถูกผูกไว้ด้วยสายใยหรือความสัมพันธ์อะไรบางอย่างเข้าด้วยกัน จึงอาจทำให้ในบางครั้งเรารับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเราเองได้ทำในอีกโลกเมื่อจังหวะนั้นมาบรรจบกันนั่นเองค่ะ

          ยกตัวอย่างเช่น มีคนฝันเห็นพญานาคมาให้เลข แล้วตัวเองก็นับถือศรัทธาพญานาคอยู่แล้ว จึงได้นำเลขชุดนั้นไปซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกรางวัล เหตุการณ์นี้อาจจะหมายถึงว่าตัวเองในอีกโลกหนึ่งอาจจะมีความผูกพันอะไรบางอย่างกับพญานาค หรืออาจจะเป็นลูกหลานสายพญานาคกลับชาติมาเกิดก็ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถจับต้องหรือพิสูจน์อะไรได้เลย เนื่องจากเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และหากไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็เชื่อได้ยาก

          แต่ในขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเดจาวูเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมอง ไม่ใช่เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ และเดจาวูก็ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่ช่วยให้เราทำนายอนาคตได้ แม้ว่าเราจะรู้สึกเหมือนเคยเห็นสิ่งนั้นมาแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายถึงเดจาวูอีกว่า “เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสมองส่วนการตัดสินใจ ไม่ใช่ความทรงจำ” โดยสมองส่วนการตัดสินใจนั้นทำหน้าที่ตรวจสอบความทรงจำของเราเพื่อมองหาจุดไม่ชอบมาพากลเวลาเรารื้อฟื้นความทรงจำ และเมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง จึงทำให้เกิดอาการเดจาวู

          อย่างไรก็ตามปัจจุบันทฤษฎีเดจาวูหรือโลกคู่ขนานยังไม่สามารถถูกพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง และยังคงต้องใช้เวลาในการศึกษาวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบกันอีกมาก จึงทำให้บางคนที่เชื่อและอินอาจถูกมองว่างมงายไร้สาระ เมื่อมีคนที่เชื่อก็ย่อมมีคนที่ไม่เชื่อด้วยเนาะ แนะนำว่าอย่าไปยึดติดอะไรมากนะคะ แต่ละคนความคิดย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่หากว่าในอนาคตข้างหน้าเราสามารถไขปริศนานี้ได้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อโลกเราอย่างมหาศาลเลยค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook