อาทิตย์อัสดง x เล่าเรื่องผี GHOST STORIES EP. 1 แวววาว
“แวววาว” ชื่อของผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันทั่วในวงการค้าสาว ที่ทางช่องเล่าเรื่องผีอยากจะขอละไว้ในฐานที่เข้าใจเพื่อไม่ให้ลงลึกไปมากกว่านี้ และถึงแม้อาชีพนี้จะเป็นอาชีพที่ไม่ได้มีเกียรติหรือสร้างชื่อเสียงดี ๆ ให้ผู้หญิงหลาย ๆ คน แต่มันก็เป็นอาชีพที่ทำให้พวกเธอเหล่านั้น ใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่โหดร้ายต่อไปได้ ซึ่งเรื่องราวที่นำมาเล่าทางช่องเล่าเรื่องผีได้นำประสบการณ์ของคุณปริน ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงการนี้โดยไม่ได้ตั้งใจและหลงรัก แวววาว หรือ แวว ผู้หญิงที่พวกคนมีเงินต้องการที่จะใกล้ชิดและต้องการเรียกตัวไปปรนนิบัติมากที่สุด ซึ่งคุณปรินก็บอกกับทางทีมงานว่า เรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะสถานที่ ชื่อบุคคล คุณปรินอยากจะขอให้เราใช้นามสมมุติทั้งหมดนะครับ
ย้อนกลับเมื่อตอนที่คุณปรินยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่พึ่งเข้าวงการค้าขายระหว่างประเทศมาใหม่ ๆ ก็ได้มีโอกาสและช่องทางในการเติบโตในสายงานนี้เป็นอย่างมาก ทั้งความสามารถที่ตัวเองมีและเส้นสายที่รู้จักพวกรุ่นพี่และคนใหญ่คนโต ก็ทำให้คุณปรินกลายเป็นที่รู้จักและได้ชื่อว่าเป็นคนหนุ่มไฟแรงที่ใคร ๆ ก็อยากจะดึงตัวไปร่วมงานด้วย ถึงแม้จะเนื้อหอมในเรื่องงานมากแค่ไหน แต่เรื่องชีวิตความรักของคุณปรินกลับไม่เคยเนื้อหอมเลย เวลาที่ชอบใครหรือรู้สึกดีกับใครก็มักจะไม่สมหวัง บางครั้งก็รู้ตัวว่าโดนหลอกไปบ้างก็มี จึงทำให้คุณปรินไม่อยากที่จะสนใจเรื่องความรักสักเท่าไหร จนกระทั่งคุณปรินได้มีโอกาสเดินทางไปคุยธุรกิจร่วมกับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ที่มาจากประเทศแถบตะวันออกในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง คุณปรินก็ได้เจอกับผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกดีด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาแล้วไม่รู้กี่คนก็ตาม คุณปรินเล่าให้กับทางทีมงานฟังว่า เขาได้เจอกับ แวววาว หรือ แวว ในสถานบันเทิงแห่งนั้น เขารู้สึกชื่นชอบในท่าทางที่เย้ายวนและเสน่ห์ในดวงตาของแววเป็นอย่างมาก แถมเธอยังเป็นผู้หญิงที่พูดจาชัดเจน และยังสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาก จนเขาเองแทบไม่เชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างว่า เพราะหากได้เจอกับแววข้างนอก หลายคนก็คิดว่าเธออาจจะทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนดี ๆ สักแห่ง ยิ่งถ้าได้ยินเธอพูดภาษาอังกฤษ ก็อาจจะเข้าใจว่าเธอเป็นไฮโซสาวสวยเลยก็ได้ ความงามที่สะกดให้ทุกคนหลงใหลในตัวของแวววาวนั้น ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์แต่เพราะเธอเป็นคนเก่งและฉลาดอย่างมาก ทำให้การพูดคุยกับเธอนั้นไม่เหมือนกับสาว ๆ คนอื่น ๆ ที่อาจจะคุยเก่งแค่เรื่องอย่างว่า แต่แวววาวนั้นเธอคุยเก่งในทุก ๆ เรื่อง //...ผมขอเบอร์โทรติดต่อคุณได้ไหม...// คุณปรินตัดสินใจขอเบอร์โทรของแวววาวในตอนที่เธอกำลังแต่งตัว เตรียมจะกลับออกจากโรงแรมไป คุณปรินจำได้ดีว่าในตอนนั้น แม้แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่เธอหันมามองมันก็ทำให้เขาหลงใหลและอยากได้เธอมาครอบครองในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที เขาก็ขอให้เธออยู่ต่อและจ่ายเงินให้เธอมากเท่าที่เธอต้องการ แต่แววกลับปฎิเสธและบอกว่าเขาไม่ใช่แค่ลูกค้าเพียงคนเดียวที่ต้องการให้เธออยู่ต่อ เธอยังมีลูกค้าอีกหลายคนรออยู่ แต่คุณปรินก็ไม่ยอม เขาพยายามยื้อจนสุดท้ายเขาก็ต้องพูดความรู้สึกในใจที่เขามีถึงแม้จะพึ่งเจอกับเธอคืนแรกก็ตาม //...ผมอยากดูแลคุณ คุณเลิกทำงานนี้แล้วให้ผมดูแลคุณได้ไหม ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างระหว่างเรา ผมรู้สึกดีกับคุณมาก ๆ ....// ในตอนที่คุณปรินพูดออกมา แววก็หัวเราะออกมาเสียงดังและบอกว่าคุณปรินนั้นไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่คิดแบบนี้ในครั้งแรกที่เจอกัน เพียงแต่อาจจะติดใจในลีลารักของเธอเท่านั้น แต่คุณปรินก็ยืนยันเสียงแข็งว่าเขารู้สึกกับเธอแบบนั้นจริง ๆ แต่เธอก็ไม่เชื่อเขา และจากเขาไปในคืนนั้นซึ่งเป็นคืนที่ทำให้คุณปรินเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
หลังจากคืนนั้นมาคุณปรินก็เอาแต่คิดถึงแวววาวและคิดหาทางอยากจะเจอกับเธออีกสักครั้ง เขาเลยกลับไปที่สถานบันเทิงแห่งนั้นและก็ได้เจอกับแววจริง ๆ เขาทุ่มเงินหลักหมื่นเพื่อขอให้เธอไปกับเขา แต่คราวนี้ที่อยู่ในห้องกันสองคนคุณปรินกลับไม่ขอให้เธอทำอะไร และยังยืนยันคำเดิม จนแวววาวรู้สึกว่าเธอได้เจอกับคนที่เธอคิดว่าสนใจและแคร์ตัวเธอจริง ๆ ทั้งสองคนจึงตกลงคบกัน โดยมีข้อแม้ที่ว่า เธอยังขอรับงานเหมือนเดิม แต่เธอสัญญาว่าจะไม่ไปนอนกับใคร ถึงแม้คุณปรินจะพยายามไม่คิดอะไร แต่มันก็คงเป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะให้เธอเลิกทำงานแบบนี้ที่เลี้ยงเธอมาเกือบครึ่งชีวิตไปง่าย ๆ //...ถ้าผมขายโปรเจคต์นี้สำเร็จ คุณต้องเลิกทำงานนี้ถาวร ตามที่เราคุยกันได้ไหม...// ... //...คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอ ว่ารับฉันได้...// ... //...ผมแน่ใจ...// คุณปรินพูดกับแวววาว ตอนที่ส่งเธอไปทำงาน และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณปรินได้พูดกับแววผู้หญิงที่เขารักและคิดหวังว่าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่เฒ่า เพราะในช่วงสาย ๆ ของวันต่อมา เขาก็ไม่สามารถที่จะติดต่อกับแวววาวได้อีกเลย ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน ไม่มีอะไรที่บ่งบอกหรือเป็นสัญญาณว่าเธอจะทิ้งเขาไป คุณปรินเองก็ออกตามหาถึงขั้นแจ้งความคนหายแต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ มากนัก เพราะไม่มีเบาะแสหรือข้อมูลอะไร หลายคนก็คิดว่าแวววาวอาจจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นก็น้อยคนนักที่จะรู้ว่า แววเป็นใคร ครอบครัวของเธออยู่ที่ไหน แม้แต่คุณปรินเองที่คบกับเธอมาเกือบปีก็ยังได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเธอน้อยมาก
หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่แววหายตัวไป คุณปรินก็ยังคงเศร้าเสียใจอยู่และในคืนนั้นเองที่เขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ คุณปรินกลับจากไปคุยธุรกิจกับลูกค้า กว่าจะถึงบ้านก็ล่วงเวลาเข้าไปตีสามกว่า ๆ แล้ว เขากลับมาด้วยความเหนื่อยล้าและล้มตัวลงนอนบนโซฟาแทนที่จะเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ท่ามกลางความมืดนั้น ก็มีแสงของฟ้าแลบเข้ามาเป็นระยะ ๆ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่ไม่ได้ดังมาก แต่ฝนก็ไม่ได้ตกลงมา ไม่นานคุณปรินก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าบวกกับที่ดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย เลยทำให้เขาหลับอย่างรวดเร็ว (เสียงผู้หญิงร้องไห้ ค่อย ๆ ดังขึ้น) ในช่วงที่หลับไปสักพัก คุณปรินก็รู้สึกเหมือนตัวเองกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนกับตกอยู่ในภวังค์แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในโลกของความจริง เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของใครบางคนดังขึ้น และเมื่อพยายามลืมตามอง เขาก็เห็นว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเท้าของเขาที่นอนอยู่บนโซฟา เขารู้สึกขยับตัวไม่ได้ คล้ายกับร่างนั้นนั่งทับขาของเขาเอาไว้ และมันก็ทำให้เขาไม่สามารถที่จะขยับได้เลยทั้งตัว (เสียงร้องไห้หนักมากขึ้นเรื่อย ๆ) เสียงร้องไห้ยิ่งสะอื้นหนักขึ้น จนเขาเริ่มมั่นใจว่ามันเป็นเสียงของผู้หญิงและในใจของเขาก็คิดถึง แวววาว ผู้หญิงที่เขารัก //...แวว...แววเหรอ...แววเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม...// (เสียงสะอื้น) เสียงสะอื้นยังคงต่อเนื่องเรื่อย ๆ คุณปรินที่พยายามจะลืมตามอง ก็หลับตา ลืมตาได้เป็นครั้ง ๆ เขารู้สึกว่าเปลือกตามันหนักอึ้งเสียจนเขาเองก็ลืมไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามที่จะลืม ก่อนที่ครั้งสุดท้ายที่เขาลืมตามองได้อย่างชัดเจน จะเห็นว่าร่างของหญิงสาวที่นั่งทับขาของเขานั้น ค่อย ๆ ขยับตัวหันมามองที่เขาอย่างช้า ๆ จู่ ๆ คอของเธอก็หักลงผิดรูป (เสียงฟ้าร้องดัง) คุณปรินสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงฟ้าร้อง รู้สึกเหมือนตัวเองหายใจไม่ค่อยคล่องและหอบถี่มาก และคิดว่าตัวเองฝันร้าย แต่กลับรู้สึกเจ็บ ๆ ที่ขาของตัวเอง คุณปรินลุกขึ้นไปเปิดไฟ และถกกางเกงของตัวเองขึ้นก็เห็นรอยแดงที่ขาของตัวเอง คุณปรินเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร แต่เขาก็พยายามจะไม่คิดอะไรมาก เสียงฟ้าร้องยังคงดังต่อเนื่อง ก่อนจะมีฝนห่าใหญ่เทกระหน่ำลงมา เหมือนกับเสียงร้องไห้ของหญิงสาวที่สะอื้นไห้อย่างหนักที่เขาคิดว่าตัวเองได้เห็นในภวังค์
เช้าวันต่อมาคุณปรินจึงถือโอกาสตื่นเช้าและทำบุญใส่บาตร เพื่อให้จิตใจของตัวเองสงบลง แต่ในใจก็ยังคงคิดถึงแต่เรื่องราวเมื่อคืนและแวววาว //...โยม...ปล่อยเขาไปเถอะ อย่ายึดติดอะไรเลย ยังไงเขาก็ไปกับโยมไม่ได้...// หลวงพ่อพูดขึ้นหลังจากที่สวดให้พรคุณปรินเสร็จแล้ว คุณปรินเอ่ยถามหลวงพ่อออกไปว่าหลวงพ่อพูดกับใคร แต่หลวงพ่อก็ไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มตอบกลับคืนมาเท่านั้น ส่วนเด็กวัดที่เดินตามหลวงพ่อนั้น ก็มองมาที่คุณปรินแปลก ๆ และมีท่าทางกลัวอย่างเห็นได้ชัด คุณปรินเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตกดึกคืนนั้น คุณปรินยังคงนั่งทำงานอยู่ภายในบ้านของตัวเอง ไม่มีทีท่าหรืออาการง่วงเลยสักนิด กลับรู้สึกคึกกว่าทุกวัน (เสียงประตูเปิด) แต่ในขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่นั้น จู่ ๆ ประตูภายในห้องทำงานของคุณปรินก็เปิดออกเองอย่างช้า ๆ คุณปรินเงยหน้าขึ้นไปมอง และลุกขึ้นไปดูที่ประตู พยายามจะปิดประตูอยู่หลายครั้งแต่ปิดไปแล้ว ประตูก็เปิดออกเองอีก เขาเลยคิดว่าประตูน่าจะเสีย เลยตัดสินใจที่จะเข้านอน คุณปรินเก็บเอกสารและปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนออกมาที่ทางเดินในบ้าน ซึ่งจะตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง ด้วยความที่เป็นห่วงของมีค่าหลายอย่างที่อยู่ภายในห้องทำงาน ก็เลยเปลี่ยนใจที่จะนอนในห้องทำงานแทน พรุ่งนี้ที่ถึงจะเรียกช่างมาซ่อมได้ คุณปรินก็จัดการขนฟูกที่นอน หมอนและผ้าห่มเข้ามาจัดการปูที่พื้น ซึ่งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะทำงาน โดยเอาเก้าอี้อีกตัวดันเพื่อปิดประตูห้องทำงานเอาไว้ หลังจากเอาเก้าอี้ดันไว้แล้ว คุณปรินก็เดินไปนอน ... คืนนั้นเป็นคืนที่ฝนตกอีกเหมือนเดิม แต่ไม่มีฟ้าร้องเหมือนกับเมื่อคืนก่อน คุณปรินกำลังเคลิ้มจะหลับไป เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนเก้าอี้ที่เขาดันประตูเอาไว้มันค่อย ๆ เลื่อนออก (เสียงเก้าอี้เลื่อน+เสียงประตู) คุณปรินไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นไปมอง เขาหลับตาฟังเสียงนั้นและปล่อยให้มันเกิดขึ้นไป และเพราะคุณปรินนอนอยู่บนฟูกที่ไม่หนามากนัก เขาก็ได้ยินเสียงคนเดินอย่างชัดเจน ในใจของเขาคิดว่าอาจจะเป็นคนไม่ดี หวังเข้ามาขโมยของหรือทรัพย์สิน แต่ถ้าเขาทำเป็นไม่ตื่นให้มันออกจากห้องไปก่อนแล้วค่อยแจ้งตำรวจก็ยังคงพอจะจับได้ เสียงเดินนั้นเหมือนเดินวนไปที่โต๊ะอีกฝั่ง ก่อนที่ต่อมาคุณปรินจะได้ยินเสียงเหมือนค้นข้าวของอะไรบางอย่างบนโต๊ะ ทำให้เขาลืมตาขึ้นมอง คุณปรินหันมองลอดใต้โต๊ะที่เป็นช่องว่างออกไปก็เห็นว่ามีเท้าของใครบางคนยืนอยู่ แต่เพราะความมืดมันทำให้เขามองเห็นไม่ถนัดมากนัก แต่เท้านั้นก็เล็กเกินกว่าที่จะเป็นเท้าของผู้ชาย เท้านั้นขยับอย่างช้า ๆ ทำให้เขามองรอยสักที่เขาคุ้นเคยดี //...แวว...// คุณปรินเผลออุทานออกมา เสียงที่ขนของบนโต๊ะนั้นเงียบลง คุณปรินเองก็ทำตัวไม่ถูก เขากำลังจะลุกขึ้น แต่สายตาก็เหลือบไปมองเห็นใบหน้าของใครบางคนมองลอดช่องใต้โต๊ะมาเสียก่อน //...พี่ช่วยหนูด้วย...//(เสียงแบบหลอน ๆ น่ากลัว) คุณปรินรีบลุกขึ้นจากที่นอน เปิดโคมไฟที่โต๊ะทำงานและมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใคร คุณปรินรีบออกมาจากบ้านในคืนนั้นทันที และไปนั่งอยู่ตามร้านต่าง ๆ ที่เปิดในยามดึก ไปเรื่อย ๆ จนถึงเช้า เขาก็เดินทางกลับไปที่วัดใกล้ ๆ เพื่อคุยกับหลวงพ่อ ซึ่งก็ได้ความว่า มีวิญญาณหญิงสาวตามเขาอยู่จริง ๆ ในใจของคุณปรินนึกถึงแต่แวววาว เพราะเธอหายไป และไม่มีใครพบเธออีกเลย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่รู้จะไปตามหาเธออย่างไรอยู่ดี คุณปรินกลับมาที่บ้านและเข้าไปที่ห้องทำงานที่มีเรื่องราวน่ากลัว ๆ เกิดขึ้น เขามองไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะเจอว่ามีจดหมายบางอย่างที่อยู่บนนั้น คุณปรินเปิดออกและได้พบว่าเป็นจดหมายของแวววาวที่เล่าเรื่องทุกอย่างเอาไว้ในนั้น ทำให้คุณปรินเข้าใจ และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแววในที่สุด
จริง ๆ แล้วแวววาวนั้น เธอเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย และที่เธอทำมันก็อันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมาเจอกับคุณปรินเธอก็ตั้งใจจะเลิกทำงานนี้และอยากใช้ชีวิตแบบปกติ แต่งานที่เธอไปคืนนั้นก็เป็นงานสุดท้ายที่เธอทำ ก่อนจะตัดสินใจเลิกเป็นสาวบริการและใช้ชีวิตสร้างครอบครัวอย่างที่ตัวเองก็เคยหวังไว้ และที่คิดเขียนจดหมายนี้ขึ้นมาก็เพราะรู้ดีว่าที่เธอจะไปมันอันตราย ได้แต่หวังว่าคุณปรินจะไม่ต้องอ่านจดหมายฉบับนี้ ถ้าเธอกลับออกมาด้วยดี แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้กลับออกมา คุณปรินเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่ในจดหมายจริง ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามหาเบาะแสอยู่ตลอด แต่ก็ไม่พบ จนสุดท้ายสถานบันเทิงที่ที่คุณปรินได้พบกับแวววาวครั้งแรกก็เป็นที่สุดท้ายที่คุณปรินได้พบกับเธอเช่นกัน เมื่อสถานบันเทิงปิดลงเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดในครั้งนั้น ทำให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจนไปพบกับร่างของแวววาวถูกซ่อนอยู่ในห้องของผู้จัดการที่บนท่อแอร์ในสภาพคอหัก ซึ่งทำให้คุณปรินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าเขาน่าจะห้ามเธอให้จริงจังมากกว่านี้ สุดท้ายถึงแม้จะได้นำศพของแวววาวมาทำพิธีตามศาสนา แต่แววก็ไม่ได้ไปไหน เพราะมีเรื่องค้างคา และสิ่งที่แววเจอนั้น มันเป็นเรื่องที่คุณปรินบอกกับเราว่า เขาเองก็ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผู้หญิงตัวคนเดียวในเวลานั้นจะรู้สึกกลัว เสียใจ และทรมานมากแค่ไหน ถึงแม้จะไม่ใช่รายละเอียดทั้งหมดที่รู้ แต่คุณปรินก็บอกว่า แวววาวนั้นถูกพวกชาวต่างชาติรุมทำร้ายให้ทำนั่นนี่ และบังคับขืนใจ ก่อนจะใช้ความรุนแรงทำร้ายเธอจนเธอคอหักและเสียชีวิตในที่สุด ส่วนพวกกลุ่มชาวต่างชาตินั้นก็จ่ายเงินก้อนโตให้กับผู้จัดการร้าน ก่อนจะบินกลับประเทศของตัวเองไป ไม่สามารถทำอะไรได้
ทางทีมงานต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณปรินด้วยครับ ทางคุณปรินเองก็บอกว่าอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องอุทานสำหรับสาว ๆ ที่ใช้เรือนร่างของตัวเองทำมาหากินให้ระมัดระวังและดูแลตัวเองดี ๆ ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะเห็นว่าคุณเป็นมนุษย์เพศเดียวกับแม่ของพวกเขา ซึ่งมันก็มีเรื่องราวมากมายที่ได้เป็นข่าวออกมาเตือนสาว ๆ และผู้หญิงที่หวังจะรวยด้วยการใช้ร่างกายของตัวเองแลกมากับความสุขสบาย ทางช่องเล่าเรื่องผีขอให้ทุกท่านรับฟังเรื่องราวนี้กันอย่างมีสติด้วยนะครับ บางครั้งคนเราก็เลือกไม่ได้จริง ๆ ทุก ๆ คน ต่างดิ้นรนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในแบบของตัวเอง ให้เกียรติซึ่งกันและกันดีที่สุดนะครับ ขอบคุณเรื่องเล่าของคุณปรินเป็นอย่างมาก และขออโหสิกรรมคุณแววาวมา ณ ที่นี่ด้วยครับ ที่ได้นำเรื่องราวมาถ่ายทอดให้กับท่านผู้ฟังทุกท่าน ขอบคุณครับ