อาทิตย์อัสดง x เล่าเรื่องผี GHOST STORIES EP. 10 ธุรกิจสีแดง

อาทิตย์อัสดง x เล่าเรื่องผี GHOST STORIES EP. 10 ธุรกิจสีแดง

อาทิตย์อัสดง x เล่าเรื่องผี GHOST STORIES EP. 10 ธุรกิจสีแดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พบกับ 4 เรื่องสยอง กับความมืดมนที่จะทำให้คุณกลัวคนมากกว่าผี “อาทิตย์อัสดง” ซีรีส์สยองขวัญเรื่องแรกจาก WeTV ทุกวันเสาร์ เวลา 20:00 น. ทาง #WeTVth เท่านั้น เรื่องเล่าสยองขวัญจากทางบ้าน
กดติดตามและกดรูปกระดิ่งเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

 

สวัสดีครับ ผมชื่อ กาย นะครับ ถ้าบอกว่าผมพึ่งจะพ้นโทษออกมา ทุกคนจะรังเกียจที่จะฟังเรื่องราวที่ผมเล่าไหมครับ จริง ๆ แล้ว มันอาจจะไม่ใช่เรื่องผีไปเสียทั้งหมด แต่ก็เป็นเรื่องที่ผมอยากจะเล่ามาเล่าให้กับทุก ๆ คนได้ฟัง

คงต้องเล่าเท้าความกันนิดนึงว่า จริง ๆ แล้วประเทศของเราเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่สูงมากนะครับ และความเท่าเทียมกันนั้น กว่าจะพัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ ผมเองก็คงต้องยอมรับว่าตัวเองเคยเป็นส่วนหนึ่งในการกระทำที่เหลื่อมล้ำ กดขี่ และไม่มีความเท่าเทียมนั้น จนสุดท้ายผมก็กลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 12 ปีก่อน ในตอนที่ผมยังหนุ่ม ๆ อยู่ หน้าตาของผมเองก็จัดอยู่ในระดับที่ดีพอใช้ได้ โดยเฉพาะกับสาว ๆ สูงวัย และสาวไม่แท้หลาย ๆ คน ผมทำงานเป็นเด็กนั่งดื่มที่ร้านเที่ยวกลางคืนแห่งหนึ่ง ก่อนจะพบช่องทางรวยที่ผิดกฎหมายและผมก็หันหน้าเข้าหามันเพียงแค่เพราะว่า มันให้เงินผมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ผมรู้จักพวกนักการเมืองท้องถิ่นหลายคน ที่มักจะมาหาน้อง ๆ สาว ๆ ไปบำเรอให้กับตัวเอง แอบเมีย หนีเมียมา เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้อะไรกับละครที่เราอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งมันก็ยังมีให้เห็นอยู่ เพียงแต่ มันอาจจะปิดมิดชิดมากกว่าเดิม ด้วยเพราะอะไร ๆ ต่าง ๆ ก็อำนวยความสะดวกมากขึ้นแล้ว ผมเองเป็นคนที่ไม่ได้โชคดีมากนะครับ แต่เพราะโชคช่วยมากกว่าเลยทำให้ผมไปได้ไกลกว่าที่ตัวเองคิด จะเรียกว่าเป็นนายหน้า โมเดลลิ่ง หรืออะไรก็ตาม แต่งานของผมก็คือการรับเงิน 50% จากราคาของน้อง ๆ สาว ๆ ที่ผมจัดไปให้แขกซึ่งกระเป๋าหนักและพร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขของตัวเอง โดยที่บางทีแม้แต่ผมเองก็ไม่รู้เลยครับว่า น้อง ๆ ที่ผมส่งไปจะมีความสุขไหมกับการหาเงินด้วยวิธีแบบนี้ ผมคิดว่า ถ้าเลือกที่จะมาทำแล้ว ก็ต้องยอมรับให้ได้ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม เพราะมันเป็นงานที่พวกเธอเลือกไม่ได้ //...ไอ้กาย อีกสองวันกูขอแจ่ม ๆ หน้าอกใหญ่ สองคน...// ... //...ครับ เฮียให้ไปที่ไหนครับ...// ... //...เดี๋ยวกูบอกอีกที...// ในตอนนั้นเฮียฮุน นายหน้าอีกคนที่ผมรู้จัก แต่ทำงานมานานกว่าผม บอกกับผมให้หาน้อง ๆ เตรียมไว้ เพราะจะมีแขกรายใหญ่เข้ามาใช้บริการ และเพราะว่าผมรู้อย่างนั้นก็เลยส่งโปรไฟล์น้อง ๆ ทั้งรูปและสัดส่วนไปให้เฮียฮุนเลือกเยอะเป็นพิเศษ เพราะหวังว่าจะทิปและยอดจากน้อง ๆ ที่มีเรทราคาสูง ๆ ไม่นานหลังจากที่ผมส่งไป เฮียฮุนก็ตอบกลับผมมาและเลือกน้องสองคนที่เรทราคาค่อนข้างสูงมาก ก็ทำให้ผมรู้สึกพอใจและดีใจ เพราะจะได้เงินก้อนในเวลาแค่ไม่กี่วัน เมื่อถึงกำหนดวันผมก็พาน้อง ๆ ทั้งสองคนไปส่งตามสถานที่ที่เฮียฮุนบอก //...มีอะไรโทรหาพี่นะ เสร็จแล้วถ้าจะให้มารับก็บอก...// ผมกำชับกับน้อง ๆ ทั้งสองคน เพราะบางครั้ง การช่วยเหลือในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ก็เป็นน้ำใจอีกแบบหนึ่ง ที่ทำให้น้อง ๆ อยู่กับผมนานมากขึ้น คืนนั้นทั้งคืน ผมรอสายจากน้อง ๆ ทั้งสองคนอยู่จนจะเกือบเช้า น้องอิ๋ม ก็โทรมาหาผม //...พี่กาย มารับที่เดิมหน่อยค่ะ...// ... //...โอเค ๆ แล้ว ผึ้งล่ะ...// ... //...ผึ้งอยู่ต่อค่ะ...// ผมรับคำเป็นอันรู้กันว่าน้องผึ้งอยู่ต่อ แล้วก็รีบออกจากห้องพักของตัวเองขับรถออกไปรับน้องอิ๋มในที่ที่ผมไปส่งทันที ผมขับรถไปถึงก็เห็นสภาพของน้องอิ๋มไม่ค่อยดีเท่าไรนัก มีรอยแดงตามตัวอยู่หลายรอย ผมเองก็เลยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะถ้าเกิดว่าลูกค้าทำอะไรจริง ๆ ผมก็ต้องเรียกค่าเสียหายเพื่อไม่ให้ธุรกิจหรืองานที่ตัวเองทำไม่ปลอดภัยสำหรับน้อง ๆ คนอื่น ถึงแม้งานพวกนี้จะไม่มีความปลอดภัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ตาม //...ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว...// ผมยอมรับนะครับว่าในตอนนั้น ที่ผมได้ยินที่น้องอิ๋มพูดมันก็แทงใจดำผมอยู่เหมือนกัน ผมเลยแวะที่ร้านยาที่เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมง แถว ๆ หอพักอิ๋มและซื้อทา ยาแก้ปวด ให้ ถือเป็นการแสดงความห่วงใยที่ผมควรจะทำ ถึงแม้ว่าน้อง ๆ หลายคนจะคิดว่าผมทำไปตามหน้าที่ก็เท่านั้นเอง พอเดินทางมาถึงหอพักของน้องอิ๋ม ผมก็จ่ายเงินให้ตามที่ตกลงกันไว้ //...งั้นของผึ้ง เดี๋ยวเจอกันตอนเช้าพี่ค่อยให้ล่ะกัน...// ... //...เอ่อ...เดี๋ยวอิ๋มเก็บไว้ให้ก็ได้...// ถึงแม้ผมจะผิดสังเกตอยู่บ้าง ที่ปกติแล้วจะไม่ค่อยรับเงินแทนกัน แต่เพราะผมเห็นว่าน้องทั้งสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ ก็เลยไม่คิดอะไร เลยเอาเงินส่วนที่เหลือให้กับน้องอิ๋มไปเลย

วันต่อมา เฮียฮุนก็โทรมาหาผมและบอกกับผมว่า เด็กที่อยู่ในความดูแลของเขาทั้งหมด เขาจะส่งต่อมาให้ผม //...จะดีเหรอเฮีย แล้วเฮียจะหาเงินจากไหน...// ... //...เออ มึงเอาไปเหอะ กูคงไม่ได้ทำอะไรแบบนี้แล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวกูส่งให้...//  ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ เฮียฮุนก็วางสายหนีผมไป ไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมง ผมก็ได้รับข้อมูลจากทางอีเมล ที่เป็นพวกรายละเอียดน้อง ๆ หลายคน ซึ่งมีแต่เรทราคาสูง ๆ ทั้งนั้น ผมยอมรับเลยครับว่าผมดีใจจนเนื้อเต้นเลย ที่ได้น้อง ๆ เบอร์แรงมาอยู่ในมือ แต่คืนเดียวกันนั้นผมก็รู้สึกถึงเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้น ในตอนที่ผมดื่มหนักจนเมา และผมเองก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองเจอเป็นอะไร ผมกลับมาถึงห้องก็ประมาณตีสามกว่า ๆ แล้วครับ คืนนั้นผมฉลองที่ตัวเองมีช่องทางหาเงินมากขึ้น เลี้ยงน้อง ๆ และเพื่อนฝูงหมดไปหลายบาท แต่สิ่งที่ได้เอาจริง ๆ มันก็แค่ความสนุกชั่วคราวก็เท่านั้น และถึงแม้ผมจะเป็นนายหน้าหาผู้หญิง แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะให้น้อง ๆ มาดูแลอะไรผมเลยนะครับ ผมรู้สึกว่าพวกเธอเองก็คงจะรังเกียจตัวเองเหมือนกันในบางครั้ง ผมเลยไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งในความรู้สึกพวกนั้น ผมเข้ามาในห้องแล้วก็รีบขึ้นเตียงนอนทันที เพราะรู้สึกเหนื่อย เมา และเวียนหัวไปหมด ผมจำได้คร่าว ๆ ว่าไม่นานตัวเองก็หลับไป และคิดว่าหลับลึกพอสมควรเลยครับ (เสียงผู้หญิงฮัมเพลง) แต่ผมก็รู้สึกตัวอีกรอบ เพราะได้ยินเสียงเหมือนใครมาอยู่ใกล้ ๆ และทำเสียงเหมือนฮัมเพลงอยู่ ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงปลายเตียงที่ผมนอน ถึงแม้จะเมาและมึน ๆ แต่ผมก็พยายามนึกว่าตัวเองพาใครกลับมาที่ห้องหรือเปล่า แต่สมองก็ให้คำตอบแบบเดิมอยู่ตลอดว่า ผมกลับมาคนเดียว ไม่มีใครกลับมากับผมด้วย //...ใครอะ...ใคร..เข้ามา...ตอนไหน...// (เสียงเมา ๆ) ผมเอ่ยปากถามออกไป ทั้ง ๆ ที่รู้ตัวเองว่าแทบจะไม่มีแรงเหลืออยู่แล้ว เพราะถ้าหากว่าเป็นโจรหรือใครที่ไม่หวังดี ผมเองก็คงจะไม่มีทางสู้อย่างแน่นอน (เสียงฮัมเพลงดังขึ้นเรื่อย ๆ) เสียงฮัมเพลงยังคงดังต่อเนื่อง และผมเริ่มแน่ใจแล้วว่า เธอที่นั่งอยู่ปลายเตียงนั้นเป็นคนทำ //...นี่ ได้ยินไหม ถามว่าใคร.....ออกไปจากห้องผมเลยนะ...// ผมพยายามจะพูดให้เสียงดังเข้าไว้ และพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อมองให้เห็นชัด ๆ ว่า เธอเป็นใคร เสียงฮัมเพลงที่เธอทำนั้นดังอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่ผมจะเห็นราง ๆ ว่าเธอหันมามองผม ใบหน้าของเธอดูคุ้น ๆ แต่ในตอนนั้นผมก็ยังจำไม่ได้ว่าเธอคือใคร ผมพยายามเพ่งมองดี ๆ อีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่าเธอคอหักพับลงจนเกือบจะหลุดจากบ่า //...กูไม่ไป ถ้ามึงไม่ไปกับกู!!...// (เสียงหลอน ๆ) ผมสะดุ้งตัวอย่างแรง ลุกขึ้นจากเตียงนอน ขยี้ตาและมองไปรอบ ๆ ท่ามกลางความมืดภายในห้องของตัวเองอีกครั้ง ขนลุกไปทั้งตัว หรือจะเรียกว่าผมเกือบจะฉี่ราดเลยก็ว่าได้ครับ ผมรีบเดินไปเปิดไฟในห้องนอน แต่ก็ไม่เห็นอะไรแล้ว และคิดว่าตัวเองน่าจะฝันไป คืนนั้นผมก็เลยสร่างเมาโดยที่ไม่ต้องหลับไปสักตื่น หรือดื่มน้ำชาให้หายแฮงเลยครับ 

ช่วงเช้าผมก็ตื่นเร็วกว่าปกติ ถึงแม้จะรู้สึกปวดหัว แต่ก็นอนต่อไม่ไหวแล้ว เพราะรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ได้เห็นเมื่อคืน ผมพยายามที่จะนึกว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นจะใช่ผีหรือเปล่า หรือเพราะผมเมาและพึ่งไปดูหนังหรือละครอะไรมา เลยเก็บมาคิดไปเอง แต่มันก็หลอนและดูน่ากลัวมาก ๆ จนขนาดที่ว่าเช้าแล้วและเป็นเวลากลางวัน เวลาที่ผมนึกถึงทีไรก็จะขนลุกทุกครั้ง (เสียงโทรศัพท์เข้า) //...ฮัลโหลอิ๋ม ว่าไง...// ... //...พี่กาย หนูไม่รับงานแล้วนะคะ จะกลับไปอยู่ที่บ้านกับแม่...// ... //...อ้าว ทำไมเป็นงั้นล่ะ ราคาเรากำลังอัพเลยนะอิ๋ม...// ... //...หนูอยากอยู่กับแม่อะพี่ แกไม่ค่อยสบายด้วย ไม่มีคนดู จะไปดูแลแก...// ... //...ทำงานอยู่นี่ก็ส่งไปตลอดไม่ใช่เหรอ...// ... //...ยังไงหนูก็ไม่รับแล้ว พี่กาย ขอโทษนะคะ...// น้องอิ๋มโทรมาหาผมในช่วงเที่ยงของวันต่อมา ผมพยายามติดต่อโทรกลับไปก็ไม่รับสาย ผมเลยตัดสินใจที่จะโทรน้องผึ้ง เพราะอยากรู้ว่าที่น้องอิ๋มบอกจะใช้เหตุผลเดียวกันหรือเปล่า (เสียงตอบรับโทรไม่ติด) แต่ผมก็โทรหาน้องผึ้งไม่ติดเหมือนกัน และพอได้เห็นรูปน้องผึ้งแล้ว ก็ทำให้ผมจำได้ว่า ที่ผมเห็นเมื่อคืนนั้นหน้าเหมือนกับน้องผึ้ง ผมเริ่มคิดย้อนกลับไป และคงต้องบอกว่าเพราะผมไม่คิดอะไรจริง ๆ มันเลยทำให้ผมไม่ได้เอะใจตั้งแต่แรก แต่พอมาคิดดี ๆ อีกครั้ง ผมก็ได้รู้ว่ามันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าทั้งเฮียฮุนที่เลิกทำงานนี้ไปแบบกะทันหัน และน้องอิ๋มที่ขอเลิกรับงานแบบไม่มีสัญญาณล่วงหน้าว่าจะมีปัญหาอะไร ผมตัดสินใจที่จะลองหาข้อมูลลูกค้าที่เฮียฮุนติดต่อมาให้ ก็พอได้รู้ว่ามาบ้างว่าเป็นลูกค้าคนไทยและเป็นคนที่ทำงานผิดกฎหมายซึ่งผมขอไม่ลงลึกไปมากกว่านี้นะครับ แต่ในระหว่างนั้น ผมต้องเจอกับเรื่องราวแบบนั้น คล้าย ๆ กับคืนก่อน อยู่หลายคืน มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรแน่ ๆ เพราะผมเองก็ยังติดต่อน้องผึ้งไม่ได้เลย //...พี่ชัย พี่พอจะรู้ไหมว่าบ้านอิ๋มอยู่ไหน...// ... //...อิ๋ม ? อ่อ...เด็กมึงที่เลิกรับงานไปน่ะเหรอ คนบ้านเดียวกับกูเลย ทำไมมันเชิดเงินมึงไปเหรอ ให้กูช่วยตามไหม...// .... //...ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับพี่ พอดีผมติดต่อน้องไม่ได้มีเรื่องอยากถาม พี่มีที่อยู่ไหม ผมขอหน่อย...// จะว่าเหตุบังเอิญก็คงจะใช่ ที่คนแรกที่ผมไปปรึกษาหลังจากที่หาทางเองอยู่นาน ก็ได้รู้เลยว่า น้องอิ๋มอยู่ทีไหน ผมเดินทางไปตามที่อยู่ที่พี่ชัยบอก ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานในทีแรกผมก็เดินทางถามตามบ้านไปเรื่อยว่า รู้จักน้องอิ๋มไหม แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ได้รู้ว่า ก่อนจะชื่อ อิ๋ม น้องเค้าชื่อ อิม มาก่อน แต่ผมจะขอเรียกน้องอิ๋มเหมือนเดิมละกันนะครับ

ทันทีที่น้องอิ๋มเห็นผม ก็แสดงอาการตกใจอย่างมาก และรีบวิ่งจะเข้าบ้านไป ผมก็รีบวิ่งตาม ในตอนนั้นแม่ของน้องเองก็อยู่ด้วย ผมเลยบอกว่าผมไม่ได้จะมาทำร้ายอะไร ผมแค่อยากรู้ว่ามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ผมรีบเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับน้องอิ๋มฟัง ทั้งเรื่องที่เฮียฮุนโอนเด็กมาให้ผม และเรื่องที่ผมเห็นน้องผึ้งมาทุกคืน และติดต่อน้องผึ้งไม่ได้เลย มันทำให้ผมคิดว่าน้องผึ้งน่าจะไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ น้องอิ๋มนิ่งเงียบ ไม่ยอมบอกอะไรผม จนผมต้องพยายามเค้น แม่ของน้องอิ๋มเองก็มาช่วยพูดอีกแรง //...อิม เอ็งไปทำอะไรมา มีเรื่องอะไร ทำไมเขาต้องมาตาม เพราะแบบนี้เอ็งถึงกลับมาอยู่บ้านเหรอ...// น้องอิ๋มหันไปมองแม่และหันกลับมามองที่ผม ก่อนจะบอกกับผมว่า จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังก็ได้ แต่ให้เป็นเวลากลางวันก่อน เพราะตอนที่ผมมาถึงก็เย็นใกล้จะค่ำมากแล้ว น้องอิ๋มไม่อยากพูดถึงน้องผึ้งในตอนกลางคืน เพราะกลัวว่าจะมาหา มันทำให้ผมเริ่มแน่ใจแล้วครับว่า น้องผึ้งไม่อยู่แล้ว ผมก็เลยได้ค้างที่บ้านของน้องอิ๋มหนึ่งคืน ซึ่งผมก็นอนไม่ค่อยจะหลับเท่าไร (เสียงผู้หญิงฮัมเพลง) ในตอนที่ผมหลับตาอยู่ แน่นอนว่าเสียงฮัมเพลงมันดังขึ้นเหมือนกับทุก ๆ คืน ที่ผมไม่ได้เจอน้องผึ้งเลย (เสียงฮัมเพลง) แต่ครั้งนี้เสียงฮัมเพลงมันใกล้กว่าทุกครั้ง ผมลืมตาขึ้น ตามสัญชาตญาณที่ปลุกให้ตัวเองตื่นตัว และอยากรู้อยากเห็น ผมนอนบนพื้นและไม่เห็นว่าใครอยู่ที่ปลายเท้าของตัวเองเหมือนกับคืนอื่น ๆ แต่พอลองฟังดี ๆ ชัด ๆ อีกครั้ง ผมก็รู้ว่าเสียงมันมาจากทางไหน ผมหันไปมองที่ทางซ้ายของตัวเอง ก็ตกใจ ขนลุกไปทั้งตัวเลยครับ เพราะครั้งนี้ผมเห็นชัดมาก มากกว่าทุกครั้ง //...กูจะไม่ไปไหน ถ้ามึงไม่ไปกับกู!!!...// หัวของน้องผึ้งที่กำลังจ้องมองและอยู่ใกล้ ๆ ผมนั่น มันหันมาสวนกับตัวของเธอที่หันไปอีกทาง ผมสะดุ้งตัวสุดแรง รีบลุกขึ้น วิ่งออกมาจากบ้านทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใส่รองเท้าอะไร ยืนอยู่หน้าบ้านท่ามกลางความมืดสงบและทุ่งนารอบ ๆ ในบ้านมีไฟสว่างขึ้น เพราะน้องอิ๋มและแม่ของน้องอิ๋มตื่น ผมรีบบอกว่าผมเห็นอะไรและเล่าให้ฟัง แม่น้องอิ๋มที่ได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็บอกให้น้องอิ๋มเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเลยทันที //...พี่กายสัญญานะ ว่าถ้าเล่าแล้ว หนูจะไม่ต้องรับผิดอะไร...// ผมลังเลใจที่จะรับปาก แต่เพราะว่าอยากรู้เรื่องเลยรับปากออกไปโดยที่ไม่ทันจะได้รู้อะไร น้องอิ๋มเล่าให้ผมฟังว่า

คืนนั้นที่ไป ลูกค้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ น้องอิ๋มจำได้ว่ามีมากกว่า 5 คน แต่หลัก ๆ คนที่เรียก พวกน้องอิ๋มกับน้องผึ้งไปดูแลจะมีแค่ไม่กี่คน และมีคนหนึ่งที่ถูกใจน้องผึ้งเป็นอย่างมาก เรียกน้องผึ้งเข้าไปในห้องแบบส่วนตัวนานอยู่เป็นชั่วโมง น้องผึ้งก็ไม่ออกมา แต่ผู้ชายคนนั้นออกมาคนเดียว ยิ่งดึก น้องอิ๋มก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงน้องผึ้ง แต่เพราะตัวเองเป็นผู้หญิงคนเดียวก็เลยไม่อยากจะอะไรมาก กลัวจะไม่ปลอดภัย เลยแกล้งทำเป็นขอไปเข้าห้องน้ำ และพอดีที่ว่าผู้ชายหนึ่งในกลุ่มนั้น เข้าห้องน้ำอยู่อีกห้องที่อยู่ข้างนอก น้องอิ๋มก็เลยต้องไปเข้าในห้องนอน น้องอิ๋มเดินเข้าไปในห้องนอนได้แค่แปปเดียว ก็เกือบจะเป็นลม เพราะเป็นน้องผึ้งนอนอยู่บนเตียง เปลือยไปทั้งตัว นอนตาเหลือกอยู่บนเตียง น้องอิ๋มกำลังจะเข้าไปหาน้องผึ้งว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ลูกค้าผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาในห้องเสียก่อน ลูกค้าผู้ชายคนนั้นบอกกับน้องอิ๋มว่า ไม่มีอะไร แค่ให้พีคหนักไป เดี๋ยวก็หาย และบอกให้น้องอิ๋มรีบเข้าห้องน้ำ น้องอิ๋มก็รีบเข้าห้องน้ำ และรีบโทรหาผมทันที น้องอิ๋มขอตัวกลับออกมา บอกว่าครบกำหนดชั่วโมงแล้ว ก็โดนยื้อไว้เหมือนกัน แต่น้องอิ๋มก็อ้างไปว่ามีคิวไปต่องานที่อื่นอีก คนพวกนั้นก็เลยยอมให้ออกมา หลังจากนั้นตอนที่นั่งรถกลับมา น้องอิ๋มก็นึกถึงตอนที่เห็นน้องผึ้งอีกครั้ง ว่าตอนที่เห็นน้องผึ้งนอนอยู่บนเตียง อยู่ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ไหม และพอนึกจริง ๆ ก็มั่นใจว่าร่างของน้องผึ้งนั้นไม่ปกติ และเป็นแบบในสภาพที่ผมเห็น เรื่องที่น้องอิ๋มเล่าทำให้ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และเสียใจในเวลาเดียวกัน เงินของน้องผึ้ง น้องอิ๋มก็รับมาใช้เอง และส่งมาให้แม่ แม่ของน้องอิ๋มก็ต่อว่าด่าน้องอิ๋มไม่ยอมหยุด ผมเองที่เครียดอยู่แล้วก็ต้องเข้าไปห้าม //...แต่พี่รับปากอิ๋มแล้วนะ ว่าหนูไม่ต้องรับผิดอะไร หนูรู้ว่าหนูเห็นแก่ตัว แต่เห็นแก่แม่หนูเถอะ ถ้าหนูโดนสมรู้ร่วมคิด หนูไม่รอดแน่ ๆ...// เพราะคำพูดของน้องอิ๋มในตอนนั้นเลยทำให้ผมแน่ใจแล้วว่า ผมไม่สามารถที่จะทำงานนี้ต่อไปได้ เพราะผมใจดีเกินไป เห็นใจ ใช้ความรู้สึกมากเกินไปและไม่เด็ดขาด สิ่งที่สำคัญเลยก็คือ ผมโลภมากเกินไป...แต่กว่าจะคิดได้ มันก็สายแล้วครับ เพราะไม่นานเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ เรื่องทุกอย่างมันก็ถูกเจอ และเพราะอิทธิพลของคนมีเงิน ก็ทำให้ทุกอย่างเงียบไป และผมก็โดนจับ โดนใส่ร้ายมากถึง 3 ข้อหา ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ทำให้น้องเขาตายเลย ผมขอไม่ลงลึกเรื่องรายละเอียดไปมากกว่านี้นะครับ 

ที่ผมอยากจะมาเล่า ก็เพราะอยากจะให้เห็นถึงความดำมืดของอาชีพผิดกฎหมาย และอิทธิพลของพวกคนมีเงินที่มันจริง ๆ เพียงแค่ดีดนิ้ว ทุกอย่างก็หายไปได้อย่างไร้ร่องรอยและไม่มีที่มาที่ไปอะไรเลย เหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น และผมอยากจะเตือนทุก ๆ คนนะครับ งานง่าย ๆ ได้เงินเร็ว ๆ มันก็มีครับ แต่บางครั้ง ถ้ามันต้องแลกมาด้วยกับอะไรหลาย ๆ อย่าง ก็อย่าลองเสี่ยงเลยครับ เพราะถ้าถลำลึกเกินไป คุณอาจจะออกมาได้ลำบาก หรือออกมาไม่ได้อีกเลยก็ได้นะครับ ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แกทุกท่านที่ได้รับฟังเรื่องราวนี้ ขอบคุณช่องเล่าเรื่องผีด้วย ถ้าได้นำเรื่องราวของผมไปเล่า ขอบคุณจริง ๆ ครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook