ทายนิสัยจากกรุ๊ปเลือด “คนนี้ใครอ่ะ?”

ทุกคนเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ไหมคะ จู่ ๆ ก็มีใครบางคนเข้ามาคุยด้วยอย่างสนิทสนม แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร แม้จะเคยเจอกันมาก่อน แต่ทำยังไง้ยังไงก็นึกไม่ออกจริง ๆ จะถามตรง ๆ ก็กลัวเสียมารยาท แต่ถ้าไม่ถามก็คงไม่รู้ว่าเป็นใคร ทุกคนจะทำยังไงคะ ? ลองไปดูกันค่ะว่าแต่ละกรุ๊ปมีวิธีจัดการอย่างไร จะตรงกับของเราหรือเปล่านะ

 

กรุ๊ป A พยายามเค้นจากความทรงจำ

กรุ๊ป A คิดว่าการถามอีกฝ่ายตรง ๆ เป็นเรื่องเสียมารยาท และยิ่งไปกว่านั้น หากอีกฝ่ายรู้ว่าเราจำเขาไม่ได้ เขาจะต้องเสียใจแน่นอน กรุ๊ป A ก็จะเค้นความทรงจำและพยายามจะนึกให้ออกให้ได้ แม้ว่าจะกำลังสนทนากันอยู่แต่ในหัวก็กำลังพยายามนึกให้ออกไปด้วยจนบางทีก็ดูเลื่อนลอยเหมือนไม่ได้ฟังที่อีกฝ่ายพูด อุตส่าตั้งใจจะนึกให้ออก จะได้ไม่เสียมารยาท แต่การที่มัวแต่นึกจนคุยกันไม่รู้เรื่องก็เป็นการเสียมารยาทอีกทางหนึ่งเช่นกัน แต่ถ้าเกิดนึกออกขึ้นมา ก็จะคุยกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว

กรุ๊ป B ถามออกไปตรง ๆ

กรุ๊ป B ผู้เกลียดสถานการณ์ที่คลุมเครือ ถ้าหากจำไม่ได้ว่าเป็นใครก็จะถามออกไปตรง ๆ ทันที แน่นอนว่ามันดูจะเสียมารยาทแต่ถ้าหากจำได้ขึ้นมาท่าทีก็จะเปลี่ยนไปทันทีจากตอนแรก โดยอาจจะบอกอีกฝ่ายว่าตอนแรกดูผิดก็เลยจำไม่ได้ ทำให้สามารถผ่านเหตุการณ์แบบนี้ไปได้อย่างลื่นไหล ถามว่าทำไมคนกรุ๊ป B ถึงสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ดี ก็เพราะว่ามันเกิดขึ้นบ่อยมากกับคนกรุ๊ป B น่ะสิ

กรุ๊ป O นึกไม่ออกแต่ก็คุยได้สบาย

คนที่มีความสามารถในการสื่อสารโดดเด่นเหนือกว่าเพื่อนอย่างคนกรุ๊ป O ถึงแม้ว่าจะจำอีกฝ่ายไม่ได้เลยก็ไม่มีปัญหา เพราะจะใช้สกิลทั้งการสนทนาในเรื่องต่าง ๆ จังหวะในการพยักหน้าตอบรับ หรือวิธีการเปลี่ยนเรื่องคุย สิ่งเหล่านี้กรุ๊ป O สามารถจัดการได้อย่างเป็นธรรมชาติแถมอีกฝ่ายก็ไม่รู้ด้วยว่าเราจำเขาไม่ได้ ด้วยสกิลเหล่านี้ กรุ๊ป O ก็ยังสามารถดำเนินการสนทนาต่อไปได้เรื่อย ๆ โดยที่คิดในใจว่าเดี๋ยวคุยไปเรื่อย ๆ ก็จำได้เองแหละ

กรุ๊ป AB พยายามดึงข้อมูลโดยไม่ให้โดนจับได้

คนที่ไม่อยากถูกคนรอบข้างเกลียดอย่างกรุ๊ป AB ก็จะดำเนินบทสนทนาต่อไปและพยายามดึงข้อมูลจากอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด และใช้สกิลการวิเคราะห์ที่ติดตัวอยู่แล้ว มาวิเคราะห์ว่าอีกฝ่ายคือใคร เรียกว่าก็พยายามจะนึกให้ออกนั่นแหละ แต่ความสามารถในการสนทนาก็ยังสู้กรุ๊ป O ไม่ได้ทำให้บางครั้งก็เกิดการพูดคุยอะไรแปลก ๆ ขึ้นมา หากดึงข้อมูลจากอีกฝ่ายมากพอจนตัวเองนึกออกแล้ว ก็อาจจะโดนอีกฝ่ายตีตราไปแล้วเช่นกันว่าคนนี้มันเป็นคนแปลก ๆ จริง ๆ