ทำไมศาลเจ้าและวัดในญี่ปุ่นถึงมีบันไดหินสูงลิ่ว?

ทำไมศาลเจ้าและวัดในญี่ปุ่นถึงมีบันไดหินสูงลิ่ว?

ทำไมศาลเจ้าและวัดในญี่ปุ่นถึงมีบันไดหินสูงลิ่ว?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาญี่ปุ่นทั้งที เชื่อว่าหลายคนก็คงมีแวะสักการะศาลเจ้าและวัดกันแน่นอน แต่สำหรับใครที่เคยไปเยี่ยมศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่นมาหลาย ๆ ที่แล้ว น่าจะเริ่มสังเกตว่าหลายที่จะต้องมีบันไดสูงลิ่วให้เราต้องเดินขึ้นไป ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดหมายก็เล่นเอาหอบเหนื่อยอยู่เหมือนกัน หรือนี่จะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง? ในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า “ทำไมศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่นถึงมีบันไดหินสูงลิ่ว” พร้อมกับมาดูศาลเจ้า/วัดที่มีบันไดสูงอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นกัน!

 

ศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าในประเทศญี่ปุ่นคำว่า 神社 (Jinja) หรือ ศาลเจ้า หมายถึง ศาลเจ้าลัทธิชินโต และคำว่า お寺 (Otera) หรือ วัด หมายถึง วัดของทางศาสนาพุทธ แต่ถึงแม้จะเป็นสถานที่ของศาสนาความเชื่อที่ต่างกัน แต่เหตุผลที่ศาลเจ้าและวัดมีบันไดหินหลายขั้นนั้นก็มีเหตุผลเดียวกัน

 

เหตุผลที่ศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่นต้องสร้างบันไดหินสูง ๆ

เหตุผลที่ 1 เพื่อให้ผู้มาสักการะเดินก้มหัว

เหตุผลแรก คือเพื่อให้ผู้ที่มาสักการะแสดงความเคารพนับถือต่อเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยการก้มหัวในระหว่างที่ขึ้นบันได เพราะเวลาที่เราเดินขึ้นบันไดสูง ๆ อย่างในศาลเจ้าหรือวัด สายตาของเราจะจดจ่ออยู่กับขั้นบันได ทำให้เราต้องก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาไปโดยปริยาย อีกทั้งการก้มหัวยังถือเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปในตัว

 

เหตุผลที่ 2 เพราะเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องประดิษฐานอยู่บนที่สูง

ญี่ปุ่นมีขนบธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาแต่อดีตว่าต้องวางสิ่งของที่ผู้คนกราบไหว้นับถือให้อยู่ในที่สูงเสมอ ทำให้ศาลเจ้าและวัดจึงถูกสร้างไว้บนทำเลที่สูงโดยมักจะสร้างไว้บนภูเขา ด้วยทำเลที่ว่านี้จึงจำเป็นต้องสร้างบันไดให้สูงตามไปด้วยเพื่อให้ผู้คนเดินขึ้นไปสักการะได้

 

เหตุผลที่ 3 เพื่อชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์

ในความเชื่อของญี่ปุ่นนั้น มีแนวคิดที่ว่าในทุกก้าวเดินขึ้นบันไดของเราจะเป็นการขจัดกิเลสตัณหาและสิ่งที่ไม่ดีในร่างกายออกไป และเมื่อขึ้นไปถึงจุดสิ้นสุดของบันไดแล้วเราก็จะเหลือเพียงร่างกายและจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ นอกจากนี้ในทางศาสนาพุทธยังถือว่า “การเดินขึ้นบันไดหินถือเป็นการฝึกสมาธิไปในตัว” อีกด้วย

จำนวนขั้นบันไดหินมีความหมายหรือไม่?

ถ้าเพื่อน ๆ ลองค้นกูเกิลหาข้อมูลบันไดหินของศาลเจ้าหรือวัดญี่ปุ่น อาจจะเห็นว่าบางแห่งมีเลขจำนวนขั้นบันไดสวยเหมือนเลขหวยจนอดสงสัยไม่ได้ว่ามีการจงใจสร้างให้บันไดมีจำนวนขั้นเท่านี้หรือไม่? คำตอบคือจำนวนขั้นบันไดหินเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงใด ๆ เลย  อีกทั้งชนิดของหินและลักษณะการสร้างบันไดหินนั้นเป็นเพียงสถาปัตยกรรมทั่วไปที่ไม่ได้มีรูปแบบเจาะจงเป็นพิเศษ ผิดกับ “บันไดนาค” ของไทยที่มีความหมายแฝงมากมายซ่อนอยู่ในรูปแบบและหน้าตาของบันได

ถึงอย่างนั้น แนวคิดและบริบททางวัฒนธรรมที่อยู่เบื้องหลังการสร้างบันไดหินของศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่นก็ยังมีความน่าสนใจในตัวเองอยู่ทีเดียว

 

4 อันดับศาลเจ้าและวัดที่มีบันไดหินสูงที่สุดในญี่ปุ่น

หลังจากที่ดูเกร็ดน่าสนใจเกี่ยวกับบันไดหินก็นแล้ว เราลองมาดู 4 อันดับศาลเจ้าและวัดในญี่ปุ่นที่มีบันไดหินสูงที่สุดในญี่ปุ่นกัน!

อันดับที่ 4 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (บันได 1,276 ขั้น) 

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริของเกียวโตแห่งนี้มีจำนวนขั้นบันไดหินทั้งหมด 1,276 ขั้น รองลงมาจากอันดับ 3 (ศาลเจ้าโคโตฮิรากุ) เพียงไม่กี่ขั้น ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าของเทพอินาริซึ่งเป็นเทพแห่งกสิกรรม โดยตั้งอยู่ในเขตฟูชิมิของเกียวโต อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของญี่ปุ่นอีกด้วย!

อันดับที่ 3 ศาลเจ้าโคโตฮิรากุ (บันได 1,368 ขั้น) 

ศาลเจ้าโคโตฮิรากุ ตั้งอยู่บนภูเขาโซซูในจังหวัดคากาวะ และยังเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “คมปิระซัง” โดยศาลเจ้าแห่งนี้ถ้าขึ้นบันไดไปถึงขั้นที่ 785 ก็จะพบกับศาลเจ้าหลัก และถ้าขึ้นไปถึงขั้นที่ 1,368 ก็จะไปถึงตัวอาคารศาลเจ้าที่อยู่ด้านหลังสุด

ที่สำคัญ สำหรับใครที่กลัวว่าเดินขึ้นบันไดแล้วจะเหนื่อยหมดแรงไประหว่างทาง ไม่ต้องกังวลไป! เพราะว่าตามแนวบันไดมีร้านค้าตั้งอยู่มากมาย ดังนั้นเราสามารถแวะพักเอาแรงให้หายเหนื่อยระหว่างทางได้ชิว ๆ

อันดับที่ 2 ศาลเจ้าเดวะซันซัง (บันได 2,446 ขั้น) 

ศาลเจ้าเดวะซันซังเป็นศาลเจ้าในจังหวัดยามากาตะ และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไปขอพรกันอย่างมากมาย โดยชื่อเดวะซันซังเป็นชื่อเรียกรวม ๆ ของภูเขา 3 ลูก ได้แก่ ภูเขากัสซัง (月山) ภูเขาฮากุโระ (羽黒山) และภูเขายุโดะโนะ (湯殿山) ซึ่งภูเขาแต่ละที่ก็มีความหมายที่ไม่เหมือนกัน ภูเขากัสซังสื่อถึงอดีตชาติ ภูเขาฮากุโระสื่อถึงชาติปัจจุบัน และภูเขายุโดะโนะสื่อถึงชาติหน้า

สำหรับศาลเจ้าเดวะซันซังที่มีจำนวนขั้นบันได 2,446 ขั้นนั้นเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนเขาฮากุโระนั่นเอง บันไดหินที่นี่เคยครองตำแหน่งขั้นบันไดหินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมาแล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังครองอันดับศาลเจ้าที่มีขั้นบันไดสูงที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ โดยว่ากันว่าการเดินทางแสวงบุญที่เดวะซันซังแห่งนี้จะเป็นการเดินทางที่ทำให้เราได้ค้นพบกับตัวตนใหม่ของเรา และถ้าคุณเป็นคนรักบรรยากาศของภูเขา ป่าต้นสนซีดาร์เก่าแก่มีมนต์ขลังของที่นี่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์ได้แน่นอน

อันดับที่ 1 วัดชากะอิน (บันได 3,333 ขั้น)

วัดชากะอิน เป็นวัดของนิกายเทนไดในเมืองยัตสึชิโระ จังหวัดคุมาโมโตะ นอกจากเป็นวัดที่มีบันไดหินสูงอันดับ 1 ของญี่ปุ่นแล้ว วัดชากะอินยังเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติกว่า 1,200 ปี โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการฟื้นฟูบ้านเมืองอีกด้วย

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1980 และสร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1988 ซึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือบันไดหินที่สร้างด้วยหินจากทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงหินจากทั่วทุกมุมโลก เช่น จีน เกาหลีใต้ อินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา ทำให้นอกจากจะดูเป็นบันไดหินที่สูงที่สุดแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับความรู้เกี่ยวกับบันไดหินในศาลเจ้าและวัดของญี่ปุ่นที่นำมาฝากกัน คงไขข้อสงสัยของเพื่อน ๆ หลายคนกันแล้วใช่ไหมครับ หวังว่าเกร็ดสนุก ๆ นี้จะทำให้หลายคนเพลิดเพลินกับการไปเยี่ยมวัดและศาลเจ้าในญี่ปุ่นกันมากขึ้นนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook