ดวงวิญญาณไม่เคยได้รับบุญที่ทำไปให้ ต้องแก้ไขอย่างไร โดย อ.นิติกฤตย์

ดวงวิญญาณไม่เคยได้รับบุญที่ทำไปให้ ต้องแก้ไขอย่างไร โดย อ.นิติกฤตย์

ดวงวิญญาณไม่เคยได้รับบุญที่ทำไปให้ ต้องแก้ไขอย่างไร โดย อ.นิติกฤตย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกครั้งที่เราทำบุญก็มักจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ญาติสนิทมิตรสหายที่เสียชีวิตไปแล้ว เจ้ากรรมนายเวรของตนเอง เพราะเชื่อว่าอานิสงส์เหล่านี้จะไปถึงยังทุกรูปทุกนามที่เราได้เอ่ยขณะกรวดน้ำ แต่รู้หรือไม่ว่า กุศลผลและบุญดังกล่าวในบางครั้งก็ไม่สามารถไปถึงยังดวงวิญญาณบางตนได้

 

เพราะอะไร ทำไมดวงวิญญาณถึงไม่ได้บุญ เราทำบุญไม่ถูกวิธีหรือเปล่า และจะมีวิธีการอย่างไร เพื่อให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้รับบุญกุศล ไม่มีชีวิตในโลกวิญญาณที่อดอยาก

             เรื่องนี้ผมเคยเขียนเล่าไว้ใน “หนังสือสวดมนต์อย่างไร ให้เจ้ากรรมนายเวรได้ยิน” มีบางส่วนที่เป็นข้อมูลมาจาก “พราหมณ์พี่ใหญ่” ซึ่งเป็นพราหมณ์ที่ทำพิธีบวงสรวงมาให้ผมตลอด ครั้งหนึ่งในชีวิตพราหมณ์พี่ใหญ่ได้ไปท่องนรก เหตุการณ์ครั้งนั้นได้เปลี่ยนชีวิตพราหมณ์พี่ใหญ่ไปตลอดกาล พราหมณ์พี่ใหญ่ได้ไปเจออะไรมาบ้าง ยมทูตสั่งไว้อย่างไร วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟัง

            พราหมณ์พี่ใหญ่ เป็นพราหมณ์สายวัดอินทร์ บางขุนพรม ได้รับการประสิทธิประสาทวิชามาจากพราหณ์ท่านหนึ่งในสายวัดอินทร์ ท่านเมตตาให้เป็นพราหมณ์คู่กันมา หลังจากที่ได้สอนท่านก็เสียชีวิตลง เหมือนท่านจะรู้ว่าเสียชีวิตก็เลยได้สืบทอดวิชา ทำหน้าที่มาตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ ปัจจุบันทำพิธีพราหมณ์มาเกือบ 30 ปี

            เมื่อ 20 ปีก่อนพราหมณ์พี่ใหญ่ประสบอุบัติเหตุและสลบไปวันที่ 15 พ.ย. และไปฟื้นวันที่ 17 พ.ย. อยู่โรงพยาบาลจุฬา คุณหมอบอกว่า ถ้าคนที่หลับไปนานขนาดนี้เปอร์เซ็นต์ที่จะฟื้นยากเพราะสมองขาดออกซิเจน ตอนที่หลับไปรู้ตัวว่า จิตวิญญาณกำลังเดินทางไปในความมืด มีเสียงดวงจิตดวงหนึ่งบอกให้เดินไปเรื่อยๆ ในความมืด

            พราหมณ์พี่ใหญ่รู้สึกว่ากำลังเดินเข้าไปในถ้ำที่มีกลิ่นสาปมีความชื้น ในขณะนั้นสัมผัสได้กับดวงจิตดวงวิญญาณซึ่งเป็นญาติที่เสียชีวิตมาหลายปีแล้ว ดวงจิตวิญญาณดวงนั้นมาจับขาแล้วก็ร้องไห้ ในดวงจิตของพราหมณ์ก็ร้องไห้เช่นกัน เขาบอกว่า บุญที่ทุกคนทำมาเขาไม่เคยที่จะได้รับเลย

            ซึ่งดวงจิตผู้ที่นำไปยังปรโลกได้บอกกับพราหมณ์พี่ใหญ่ว่า ถ้าจะให้ดวงวิญญาณนั้นได้บุญจะต้องให้พระมาลัย ซึ่งท่านเป็นพระที่ลงไปโปรดในนรก หรือให้พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมช่วย เวลาที่กรวดน้ำให้นึกถึงพระมาลัยและพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ให้ท่านนำเอาบุญนี้ไปให้กับดวงวิญญาณดวงนั้น ให้เอ่ยชื่อดวงวิญญาณ และดวงวิญญาณนั้นจะได้รับ

            หลายๆ ท่านอาจจะงงว่า ทำไมทำบุญแล้วดวงวิญญาณไม่ได้รับ ทำไม่ถูกวิธีหรือเปล่า ในส่วนของโลกวิญญาณมีหลายแบบ บางดวงวิญญาณกรรมหนักอยู่ในนรกขั้นลึก ไม่มีกำลังแม้กระทั่งจะรับบุญ ทำให้เราทำบุญไปให้เท่าไหร่เขาก็ไม่เคยได้รับ ได้แต่นั่งมองด้วยความทรมาน ต้องอาศัยบุญบารมีพระมาลัยและพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมซึ่งโปรดสัตว์อยู่ในนรกช่วยนำส่งกระแสบุญดังกล่าว

อันนี้เป็นเคล็ดลับที่ได้มาจากปรโลก ใครที่ได้ยินได้ฟังตรงนี้แล้ว ในการทำบุญกรวดน้ำครั้งต่อไป ก็ขอให้เอ่ยนามพระมาลัยและพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม บุญนี้จักถึงยังดวงวิญญาณทุกรูปทุกนามไม่ว่าจะอยู่ในนรกขุมไหนก็ตาม

            พราหมณ์ก็ได้ให้สัญญาณกับดวงวิญญาณที่เป็นญาติว่า เมื่อกลับไปเมืองมนุษย์แล้วจะส่งบุญกุศลไปให้ นอกจากนั้นแล้วดวงวิญญาณนั้นก็ยังขออีกหนึ่งอย่างคือ เขาบอกว่าในถ้ำมืดมาก ขอให้ทำบุญเทียนให้เขาด้วย ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสขอให้ทุกท่านอย่าได้ลืมมอบแสงสว่างในการทำบุญด้วย

            จากนั้นก็เหมือนเดินก้าวขึ้นไปบนเขา แต่เป็นการก้าวแบบเหมือนลอยขึ้นไปเรื่อย สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าคือเป็น 2 มิติ มิติแรกเป็นพื้นดินเห็นคนถูกฝังอยู่บนดินมีแต่คอโผล่ขึ้นมาสุดลูกหูลูกตา มิติที่ 2 คือข้างล่างจากลำคอลงไปคนเหล่านั้นอยู่บนน้ำที่เดือดมีน้ำเลือดน้ำหนองถูกทรมาน น้ำที่เดือดนั่นเหมือนอยู่ในกระทะ แต่มันเป็นผืนน้ำที่กว้างใหญ่

            ตรงใต้ขาจะเป็นบ่อน้ำร้อน คนพวกนี้จะโดนไอความร้อนรน ทำให้พุพองมีน้ำเลือดน้ำร้อนเต็มตัว สิ่งที่ได้เห็นเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณที่ได้สร้างกรรมเมื่อมีชีวิตอยู่ เมื่อตายไปก็ไปเสวยทุกข์ วิญญาณเหล่านั้นน่าเวทนามาก

            จากนั้นดวงจิตที่นำทางก็บอกว่า ให้ตามเขามา พรามหณ์พี่ใหญ่ก็ก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ คราวนี้ก็มองเห็นพื้นเป็นสีเขียวหมด พราหมณ์พี่ใหญ่ก็ถามว่า พื้นสีเขียวๆ นี้เรียกว่าอะไร ดวงจิตดวงนั้นก็บอกว่า พื้นนี้คือพื้นมรกต แต่พอเดินไปได้ซักพักหนึ่งเริ่มเห็นวิมานลอย มีวิมานทองคำและมีเทวดาอยู่ในนั้น มีวิมานเพชร วิมานแก้ว ลอยผ่านเราไปมา วิมานนี้ไม่ใหญ่มีขนาดพอตัว และทุกคนก็แต่งตัวสวยงามหมดเลย

เชื่อว่านี่คือสวรรค์ จิตก็นึกคิดว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่คนเหล่านี้คงสร้างวัดสร้างวิหารไว้ จึงได้มาเสวยสุขในวิมานนี้

            พอผ่านๆ ไปเรื่อยๆ ก็ถึงจุดๆ หนึ่งที่เป็นที่ว่างเปล่า ดวงจิตที่นำพาไปก็บอกให้นั่งท่าเบญจางคประดิษฐ์ แล้วกราบลงไป 3 ครั้ง พราหมณ์พี่ใหญ่ก็งงยังถามกลับไปว่า จะให้ไปกราบใครในที่เปล่าๆ ดวงจิตนั้นก็ตอบว่า นั่งไปเถอะแล้วกราบ พราหมณ์พี่ใหญ่ก็กราบตามคำสั่ง

            กราบครั้งที่ 1 ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น....

กราบครั้งที่ 2 ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น....

แต่พอกราบไปครั้งที่ 3 แล้วก็แหงนหน้ามองเพราะอยากรู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าคืออะไร พอมองอย่างเต็มตาคือ องค์ท่านสูงเสียดฟ้าเป็น 100 ชั้น หัวแม่โป้งอยู่เบื้องหน้า ตัวพราหมณ์พี่ใหญ่เล็กกว่าหัวแม่โป้งเท้ามาก ท่านนั่งห้อยขาข้างเดียวลงมา นึกในใจได้ทันทีว่า ท่านต้องเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีบุญญาธิการอยู่บนสวรรค์แต่เราไม่รู้ว่าใคร

            จากนั้นก็ได้ยินเสียงพระองค์ท่านรับสั่งมาว่าให้กลับไปนะ แล้วจงไปสร้างความดี พอสิ้นเสียง....ก็ฟื้นขึ้นอยู่โรงพยาบาลจุฬา น่าอัศจรรย์ที่ร่างกายของพราหมณ์พี่ใหญ่ไม่เป็นอะไร มีแผลที่หัวนิดหน่อย แต่ร่างกายอย่างอื่นปกติหมด หมอก็เช็คร่างกายและให้กลับบ้านได้

            ตั้งแต่นั้นมาพราหมณ์พี่ใหญ่ก็ขัดเกลาจิตใจ พยายามทำในสิ่งที่ดี ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ดี พยายามเป็นผู้ให้ตามกำลังที่เรามี ละชั่วกลัวบาป ละอายต่อบาป สิ่งที่ไปเห็นทำให้รู้ว่า นรกสวรรค์มีจริง ไม่ใช่ละคร

            วันนี้เรายังมีลมหายใจอยู่ ยังมีโอกาสในการแก้ตัว ปรับตัว เมื่อรู้แล้วว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง ขออย่าประมาทในความตาย หมั่นสร้างความดี เพื่อถึงวันหนึ่งในวันที่ต้องเดินทางเปลี่ยนภพภูมิ จะได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook