ถ้ำนาคา & ถ้ำนาคี กับจุดสำคัญที่สายพญานาคต้องไปสักการะ!

เจ้าเชื่อเรื่องพญานาคบ่? สวัสดีเหล่าเอฟซีสายมูทั้งหลาย วันนี้โฮโรโซไซตี้จะมาเอาใจเพื่อนๆ ที่เป็นสายพญานาคกันด้วยเรื่องของถ้ำนาคาและถ้ำนาคีจ้า ใครอยากรู้เรื่องตำนานของสถานที่นี้ รวมถึงจุดสำคัญที่ควรไปสักการะให้ได้สักครั้งหรือไม่ควรพลาดก็ตามมาดูกันได้เลย

 

หากพูดถึง “ถ้ำนาคา” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักที่นี่ เพราะถ้ำนาคา หรือที่บางคนอาจจะเรียกกันว่า “ถ้ำพญานาค” นั้นถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะลูกหลานสายพญานาคหรือคนที่บูชานับถือพญานาคต้องยิ่งห้ามพลาด นอกจากนี้ยังการันตีความปังได้จากการที่เหล่าดาราคนดังทั้งหลายต่างพากันไปสักการะในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วยค่ะ

             ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดัง เนื่องจากความสวยงามของธรรมชาติ โดยจะเห็นได้จากหินและผนังของถ้ำที่มีความคล้ายกับลักษณะของพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ โดยมีส่วนสำคัญ ๆ ทั้งส่วนหัว (ที่เรียกกันว่าหินหัวงู หรือเศียรพญานาค) ลำตัว และเกล็ดพญานาค รวมไปถึงศาลปู่อือลือ (ก่อนขึ้นถ้ำนาคา)

              สำหรับตำนานเรื่องเล่าของถ้ำนาคานั้นก็มีอยู่มากมายเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ตำนานพญานาคที่ถูกสาปเป็นหิน, ตำนานเมืองลับแล, ตำนานเมืองบังบด, ตำนานดินแดนเมืองพญานาค (เมืองบาดาล) และอื่น ๆ แต่ตำนานที่เราจะได้ยินกันบ่อยที่สุดก็คือตำนานพญานาคที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน โดยเป็นเรื่องราวที่ปู่อือลือพญานาคถูกสาปให้กลายเป็นหิน เฝ้าอยู่ในภูลังกา หรือบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ ซึ่งเรื่องราวเริ่มมาจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ จึงทำให้เกิดการล่มของเมืองพญานาคตามมานั่นเอง

             นอกจากนี้ยังมี “ถ้ำนาคี” ที่เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้ถ้ำนาคาเลยค่ะ โดยจะตั้งอยู่ฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นจุดที่อยู่ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสายใหม่ ภูลังกาเหนือ หรือเส้นทางสายธรรม-สายพญานาค จะมีลักษณะคล้ายกับถ้ำนาคา ซึ่งในเส้นทางนี้จะมีจุดสำคัญที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หินเพิงใหญ่ที่มีลวดลายของเกล็ดพญานาค น้ำตกตาดโพธิ์ ถ้ำนาคี วังนาคี ผานาคี เศียรพญานาค (ล่าสุดถูกพบเป็นเศียรที่ 9 แล้ว) ฯลฯ และยังมีจุดชมวิวผานาคี ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงได้อีกด้วยค่ะ ดังนั้นใครที่ชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ รวมถึงรักในความมูเตลู บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาด

           หากเรามองในแง่ของวิทยาศาสตร์นั้น บริเวณที่มีเกล็ดเป็นงู ในทางธรณีวิทยาเรียกกันว่า “ซันแครก” (Sun Crack) ซึ่งเกิดจากการแตกผิวหน้าของหิน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็ว จึงทำให้หินเกิดการขยายตัวและหดตัวสลับกันไปมาจนแตกเป็นลาย และต่อมาก็มีการผุพัง รวมถึงมีการกัดเซาะจากน้ำและอากาศในแนวดิ่ง จึงทำให้เกิดลักษณะเป็นชั้น ๆ ตามที่เราได้เห็นกันในปัจจุบัน

              อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะมองในมุมของตำนานเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือจะมองในมุมของวิทยาศาสตร์ ที่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องมาให้ได้สักครั้งนะคะ ว่ากันว่าคนที่มาขอพรที่นี่นั้นสมหวังกันมานักต่อนักแล้ว ทั้งงานปัง งานรุ่ง เงินเข้า และสำเร็จสมหวังในเรื่องต่าง ๆ ดังที่ขอไปด้วย 

              สำหรับใครที่ต้องการจะไปสักการะก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของคุณเลยค่ะ แม้ว่าระยะทางจะค่อนข้างไกล สูงชัน ต้องเข้าป่า ปีนเขา แต่หากเราตั้งใจจะไปแล้วก็อย่าบ่นว่าเหนื่อยหรือท้อเชียวนะ พยายามแต่งกายด้วยเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใส่สบายที่สุด และอย่าลืมโทรเช็กสอบถามกันดี ๆ นะคะ เพราะปัจจุบันที่นี่ก็ค่อนข้างแมส มีการจำกัดจำนวนคนที่จะเข้าไปด้วย เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ยังมีการระบาดอยู่ด้วย แต่อย่างไรหากเราทีความศรัทธาที่จะไปจริง ๆ ก็ลุยเลยค่ะ ขอให้กายพร้อม ใจพร้อม และเตรียมตัวรับความเฮง ความเป็นสิริมงคลกันได้เลย