เรื่องผี และสิ่งลี้ลับ การค้นหาร่างที่สูญหาย จากร่องรอยของวิญญาณ

ประมาณ 3 ทุ่มกว่า คืน 25 ธันวาคม 2562

ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์สายด่วนว่า “มีญาติขับรถตกลงไปในคลอง หรือทะเล อยากให้ช่วยตรวจดวงให้ด่วนว่า จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง”

ได้ยินเช่นนั้น ก็อดตกใจไปด้วยไม่ได้ เหตุเพราะว่าเจ้าชะตาผู้ขับรถดังกล่าว เคยเป็นผู้รับคำพยากรณ์ไปครั้งหนึ่ง ซึ่งมีรายละเอียดหลายอย่าง เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของเจ้าชะตา

และครั้งนั้น เคยได้พยากรณ์ไปว่า เจ้าชะตาจะมีช่วงดวงตกอย่างหนัก ซึ่งเคยมีคนช่วยรับเคราะห์ไปแทนแล้ว ขอให้ระมัดระวังตัวให้มาก

ก็จึงรับปากไปว่า จะรีบดูดวงให้ ขอเวลาเกิด วันเกิดอีกครั้ง ญาติแจ้งวันเกิดมาให้ แต่ไม่มีเวลาเกิด

จากการสอบถามเพิ่มเติม ตัวญาติเองก็ยังสับสนกันอยู่ เพราะข่าวมาช่วงก่อนหน้า บ้างว่าขับรถตกคลอง บ้างว่าขับรถตกทะเล ญาติกำลังรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนี้มีหน่วยกู้ภัยทำงานอยู่

เวลา 22.08 น.

ญาติแจ้งเข้ามาว่า ยังหาเวลาเกิดไม่ได้ แต่ตอนนี้ แน่ชัดแล้วว่า รถตกน้ำไปประมาณ 3 ชม. แล้ว ในเบื้องต้นโดยเร่งด่วน ญาติต้องการทราบว่า ดวงชะตาของเจ้าชะตา หนักเบาประการใด จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่ในครั้งนี้

เวลา 22.12 น.

ญาติแจ้งเข้ามาอีกครั้งว่า กำลังพยายามหาเวลาที่แน่นอนให้ แต่เท่าที่ทราบ เจ้าชะตาเกิดในเวลาเช้า

อันที่จริงแล้ว มีบันทึกของดวงนี้ แต่เมื่ออยู่นอกเวลาทำงาน ข้อมูลบางส่วนจึงอยู่ที่ออฟฟิศ และก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการค้นหาข้อมูลเดิม คาดว่าจะได้เข้าออฟฟิศอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

จึงตั้งดวงขึ้นมาก่อน แล้วเทียบลัคนาโดยคร่าวๆ เพื่อจะรีบค้นหาเวลาเกิด สำหรับการดูดวงแบบโหราศาสตร์ไทย-สากล นั้น เวลาเกิดมีความหมายมาก เพราะจะเป็นจุดตั้งต้นลัคนา กำหนดภพเรือนต่างๆ ของดวงชะตา

กรณีไม่มีเวลาเกิดแน่ชัดจริงๆ จึงจะใช้วิธีวางลัคนาตามเทคนิคเฉพาะต่างๆ เช่น วางดวงในตอนพระอาทิตย์ขึ้น เป็นต้น

ในเวลาอันสั้น จึงได้แจ้งกลับไปก่อนว่า

ดวงชะตานี้ ถ้าเกิด 06.37-08.40 น. จะเป็นลัคนาพฤษภ ถ้า 08.41 - 10.52 จะเป็นลัคนามิถุน

วันที่เจ้าชะตาเกิด เป็นวันศุกร์ วันนั้นพระอาทิตย์ขึ้นในเวลา 06.05 ถ้าเกิดก่อน 08.40 น. จะมีดาวบางดวงเข้าในจุดมรณะ แต่ถ้าเกิดหลัง 08.41 จะไม่หนักหนาเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าชะตาเกิดในช่วงค่ำ จะตกในอันตรายอยู่มาก แล้วจึงแจ้งญาติว่า ดูจากการวางลัคนาโดยใช้เพียงพระอาทิตย์ มีจุดอันตรายในช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 โมงกว่า สำหรับดวงชะตานี้

วันที่ 26 ธันวาคม 2563

เวลา 9.58 น.

ญาติแจ้งเข้ามาว่า ยังไม่มีการพบตัวเจ้าชะตา มีข่าวว่ากระจกรถแตก และหวังว่าเจ้าชะตาจะมีสติออกมาเอง ไม่ปลิวไปตามน้ำ จากการจะดูเพียงว่า เจ้าชะตามีดวงชะตาร้ายดีประการใด ตอนนี้ที่เพิ่มมาคือ ยังหาตัวเจ้าชะตาไม่พบ ญาติต้องการทราบว่า เจ้าชะตาปลอดภัยดีหรือไม่ และอยู่ที่ไหนในตอนนี้ ในฐานะผู้พยากรณ์ ยังคงพยายามหาเวลาเกิดของเจ้าชะตาผู้ประสบภัยอยู่ แต่ก็ยังไม่พบ ญาติเองก็ร้อนใจ และพยายามช่วยกันหาให้

เวลา 10.38 น.

ค้นเจอเวลาเกิดของเจ้าชะตาแล้ว จึงรีบตั้งดวงอีกครั้ง และได้ให้คำพยากรณ์ไปว่า “ลัคนาจรตอนนี้ อยู่ในเรือนที่ 4  หมายถึงที่เกิด หรือภูมิลำเนา ยังอยู่ในพื้นที่” และสอบถามกลับไปว่า ตัวสถานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้บ้านของเจ้าชะตาหรือไม่ เพราะมีจุดขึ้นว่า “จุดอันตรายของเจ้าชะตา หรือจุดเกิดเหตุ อยู่ในที่ๆ ทรุดโทรม ลึกลับ ที่มรดกเก่า หรือใกล้วัด หรือเขตวัด” ถามกลับไปอีกครั้งว่า แถวนั้น มีจุดรกร้างที่มีวัด  หรือที่ชำรุดทรุดโทรมหรือไม่ ญาติตอบมาว่า “ไม่ใกล้”

เวลา 10.54 น.

เริ่มออกคำทำนายส่งให้ญาติผู้สูญหาย

จากการดูเวลาในข่าวๆ หนึ่ง ระบุว่าเวลาเกิดเหตุ 19.16 น. จึงผูกดวงตามในเวลานั้น ใช้เป็นจุดวินิจฉัยของเจ้าชะตา ซึ่งลัคนาจรเข้าในเรือนมรณะ ตรียางค์มรณะ ญาติแจ้งว่า “ตอนนี้ยังหาไม่เจอ”

ได้เขียนข้อความสั้นๆ ส่งให้ญาติผู้ตายทางไลน์ก่อนว่า

“ตอนนี้ ลัคนาจรอยู่ในเรือนที่ 4 (พันธุ) ร่วมเนปจูน ยังอยู่ในน้ำ หรือใกล้แหล่งน้ำ ลัคนาจรเสวยฤกษ์ที่ 24 ศติภิษัช มีดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือน ราหูเป็นเจ้าฤกษ์ สถานที่คือที่มีของเก่าแก่ ค่อนข้างมืดครึ้ม มีของเก่า”

“ทั้งนี้ หลังเวลา 11.44 น. ควรจะมีข่าว”

เวลา 11.31 น.

แจ้งญาติผู้สูญหายไปเพิ่มเติมว่า  “จับยามนาฬิกา ก็ขึ้นเกี่ยวกับสถานที่เก่า มีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ หรือที่ชำรุดทรุดโทรม อาจจะมีเศษซากการเผาไหม้อะไรบางอย่าง เหมือนเป็นที่เผาของ จากลำน้ำแถวนั้นไป มีวัดอะไรอยู่ใกล้หรือไม่?

หมายเหตุ : ที่เกี่ยวกับซากเผาไหม้ เนื่องจากเห็นต้นไม้มีลักษณะหงิกงอ ดำคล้ำ ตามพื้นมีสีดำคล้ายๆ เศษเถ้าถ่าน แต่ไม่ชัดเจน จึงคิดว่า อาจเป็นที่ๆ มีการเผากิ่งไม้ หรือเผาของ ทำให้มีเศษซากเถ้าถ่าน ต้นไม้ไหม้ไฟอยู่ตามพื้น ก็ยังคิดว่า หรือจะเป็นเมรุเผาศพ? หรือที่เผาขยะ?”

ที่น่าสนใจก็คือ ผู้พยากรณ์พบอีกว่า มีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับวัด หรือประเพณีเก่า จึงได้แจ้งไปว่า

“มีจุดที่เกี่ยวกับวัด ให้ดูเส้นทางที่เกี่ยวกับวัด ประเพณีเก่า หรือว่าที่เก่าแก่, ให้ลองถามคนทางนั้นว่า จุดที่เรือตกไป มีทางไปหาวัดอะไรไหม ให้ไปหาแถวที่ใกล้ๆ วัด หรือที่เก่าแก่โบราณ ที่มีประเพณีดั้งเดิมของแถวนั้น จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้วย”

 เวลา 11.40 น.

ผู้พยากรณ์แจ้งญาติว่า “ดวงชะตาของเจ้าชะตาหนักมากจริงๆ ค่ะ ราหูเข้าในเรือนมรณะ และสำหรับดวงนี้ ราหูเป็นดาวฆาต

รายละเอียดคำทำนาย

ตอนนี้ ลัคนาจรอยู่ในเรือนที่ 4 (พันธุ) ยังอยู่ในพื้นที่กำเนิด ดาวจันทร์เสวยฤกษ์ที่ 19 ร่วมคู่มิตรดาวพุธ แต่พุธเป็นดาวมรณะของดวง ดวงนี้ ราหูเป็นกาลกิณี กำลังโคจรในเรือนที่ 8 (มรณะ) ของดวงชะตา ร่วมพระเกตุ 9  ดาวมฤตยูเล็งเนปจูน ในเรือนที่ 12 (วินาสน์) คืออุบัติเหตุ+ทางน้ำ ราหูเป็นดาวเจ้าเรือนที่ 4 (พันธุ) โคจรในเรือนมรณะ หมายถึงสถานที่ที่ลี้ลับ ชำรุดทรุดโทรม ที่ดินที่เป็นมรดกของคู่ครอง สถานที่ๆ มีความลับซุกซ่อนอยู่ ที่วัด **ราหูเป็นดาวฆาตของดวงนี้ เรียกว่า กีฏอสุรินโท คือ ราหูเป็นจุดตายของราศีพิจิก

จากข่าว เวลาเกิดเหตุเวลา 19.16 น.

ผูกดวงตามเวลานั้น เป็นจุดที่ลัคนาจรของเจ้าชะตา เข้าในเรือนมรณะ ตรียางค์มรณะ ในจุดเวลาดังกล่าว ราหู ดาวกาลกิณีของดวง โคจรในเรือนมรณะกำเนิด เป็นดาวอายุจร  เล็งกับดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ 180 องศา ในเรือนที่ 2 (กดุมภะ) และเล็งดาวพุธเจ้าเรือนมรณะ ที่เป็นดาวประด้วย

ตอนนี้ ลัคนาจรอยู่ในเรือนที่ 4 (พันธุ) ร่วมนเปจูน ยังอยู่ในน้ำ หรือใกล้แหล่งน้ำ ลัคนาจรเสวยฤกษ์ที่ 24 ศตภิษัช มีดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือน ราหูเป็นเจ้าฤกษ์ สถานที่คือที่มีของเก่าแก่ ค่อนข้างมึดครึ้ม มีของเก่า

พิจารณาทักษา ดาวพุธครองวัย พฤหัสแทรก *พุธเป็นดาวมรณะของดวงนี้ ราหูจร เป็นดาวกาลกิณีกำเนิด ดาวอายุจร สถิตภพมรณะ ตั้งแต่ 7 มีนา 62 - 23 กย 2563 เป็นดาวฆาต กีฏอสุรินโท พร้อมกันนี้ พิจารณาเลขทะเบียนรถของเจ้าชะตาที่ตกลงไป รหัสรวมคือ 4 ดาวพุธ เป็นเลขมรณะของเจ้าชะตา”

เวลา 11.52 น.

ญาติแจ้งว่า แถวนั้นมีวัดเก่า พระอาจารย์ปราบหนวดเครายาว มรณภาพแล้ว เรียกวัดปากปรน จึงบอกว่า ให้ญาติๆ ไปหาดูด้วยก็ดี แล้วก็ส่งคำทำนายละเอียดไปให้อีกครั้ง

เวลา 12.21 น. -12.42 น.

ญาติส่งข่าวภาพที่รถตกลงไป, จุดรถตก, ภาพของศาลจีนใต้ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำในละแวกนั้น ว่าจะใช่จุดที่เจ้าชะตาไปติดอยู่หรือไม่ นี่ตรวจดวงแล้วจึงแจ้งเพิ่มเติมว่า ดวงนี้ดาวอริกำลังทับลัคน์ และน่าเช็กว่า ตัวเจ้าชะตาอยู่ในรถแต่แรกหรือไม่ แต่ดวงก็ขึ้นเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำ

เวลา 16.10 น.

การค้นหายังดำเนินไป ญาติแจ้งว่า ยังไม่พบตัวเจ้าชะตา (สำหรับคนที่นั่งไปในรถด้วยกันนั้น ได้พบศพแล้ว)

ผูกดวง ณ เวลานั้นอีกครั้ง แล้วได้ความว่า “ดาวลัคนา กำลังอยู่ในฤกษ์ที่เป็นขอบเขตของดาวอังคารและดาวพฤหัส ก็ขึ้นคีย์เวิร์ดว่า ท่าเรือ ส่วนลัคนาจร เข้าฤกษ์ที่ 4 ก็มีที่เกี่ยวกับ “เรือและการเดินเรือ” และ “ที่เกี่ยวกับการเกษตร” จันทร์อยู่ในฤกษ์ที่ 19 เกี่ยวกับ “สถาบันทางศาสนา”

พร้อมกันนั้น ก็พบอะไรที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง ผู้พยากรณ์พบว่า มี “วัว” เข้ามาในดวงชะตาด้วย จึงได้สอบถามไปว่า

“เรือ วัด สวนเกษตร วัว มีคีย์เวิร์ดเหล่านี้ด้วย แถวนั้นมีที่เขาเลี้ยงวัวอะไรบ้างไหม ตอนนี้ เจ้าชะตาน่าจะอยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีเรือผ่าน ใกล้วัด มีต้นไม้หรือป่าหญ้า มีสัตว์เลี้ยงประเภทวัว หรือบรรยากาศแบบฟาร์ม-สวน”

เวลา 17.00 น.

มีการไลฟ์เกี่ยวกับการค้นหา และแจ้งว่า พบร่างของเจ้าชะตาแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางเข้าไป

เวลา 17.16 น.

เปิดดูไลฟ์ พร้อมกับคุยกับญาติของเจ้าชะตาไปด้วย ญาติกำลังจะไปที่เกิดเหตุกัน พบว่า สถานที่ๆ พบร่างไร้ชีวิตของเจ้าชะตา มีต้นไม้ใหญ่ เป็นที่ไกลจากจุดที่รถตกลงไปอยู่มาก ต้องเดินเท้าเข้าไป และที่พบเพราะมีการบินพารามอเตอร์สำรวจจากบนอากาศก่อน

พิจารณาภาพผ่านกล้องของทีมกู้ภัย จึงค่อยเห็นว่า มีต้นไม้ลักษณะรูปร่างหงิกงอ ดูดำคล้ำ เป็นต้นโกงกางในป่าชายเลนนั่นเอง และมองระยะไกล บนพื้นจะมีรากไม้แผ่อยู่ตามโคลน เป็นสีดำคล้ำ อาจเป็นสิ่งนี้เอง ที่ทำให้เข้าใจไปว่าเป็นลักษณะการถูกเผาไหม้

ญาติสอบถามว่า เจ้าชะตาน่าจะเสียชีวิตในวันที่ 25 ธันวาคมแล้วหรือไม่ ผู้พยากรณ์ตอบว่า คิดว่าเสียตั้งแต่ตอนตกลงไปแล้ว เพราะมีจุดมรณะตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม

พร้อมกันนั้น ก็แจ้งญาติว่า เมื่อได้พบร่างแล้ว ก็ถือว่าคงไม่ต้องออกคำพยากรณ์อะไรอีกต่อไป แต่หากเป็นไปได้ ขอให้ญาติเก็บภาพถ่าย หรือบรรยากาศสภาพแวดล้อมไว้ให้ด้วย จะได้นำมาเป็นบันทึกโหราศาสตร์ เพื่อการศึกษาต่อไป

เวลา 18.01 น.

ญาติแจ้งว่า เคลื่อนศพไปโรงพยาบาลแล้ว เพื่อเตรียมการชันสูตรในขั้นตอนต่อไป

เวลา 20.28 น.

ญาติแจ้งว่า พบเจ้าชะตาจากจุดที่รถตก ห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร เลขทะเบียนรถของเจ้าชะตา 1122 ผู้พยากรณ์ตรวจสอบข้อมูลจากข่าวอีกครั้ง คุยกับญาติว่า “ท่าเรือที่รถตก หมู่ที่ 1 จุดที่เจอร่าง หมู่ที่ 11, คนขับรถอายุ 22 ปี”

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้พยากรณ์รู้สึกสนใจรหัสตัวเลขที่เกี่ยวข้อง และนึกอยากจะค้นหาว่า หมู่ที่ 11 ที่พบร่างเจ้าชะตานั้นเป็นอย่างไร จึงค้นหาในกูเกิ้ลเกี่ยวกับหมู่ดังกล่าว

อีกอย่าง ต้องการจะทราบสภาพแวดล้อมแถวนั้น ว่าตรงกันมากน้อยแค่ไหน กับที่ได้ออกคำพยากรณ์ไป เพราะเท่าที่ปรากฏแล้ว เป็นส่วนของต้นไม้ใหญ่, สถานที่ลึกลับ (ไกล หายาก) และความดำหงิกงอของต้นไม้

และแล้ว จากการค้นหาตามลิงค์ไปเป็นทอดๆ ผู้พยากรณ์ก็ได้พบข่าวชิ้นหนึ่งว่า

“ลากเรือพระทางน้ำข้ามทะเล 1 ในโลกที่ตรัง”

เนื้อข่าวระบุว่า เป็นประเพณีที่จะจัดขึ้นในวันแรม 8 ค่ำ ของเดือน 11 ของทุกปี ณ ท่าเรือบ้านปากปรน อ.หาดสำราญ จ.ตรัง

ข่าวเขียนว่า

“ซึ่งในวันนี้ ชาวบ้านหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 11 พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ อ.หาดสำราญกว่า 1 พันคน ได้ร่วมกันลากเรือพระทางน้ำข้ามทะเล...

ขบวนลากเรือพระฯ ได้ออกจากท่าเทียบเรือประมงบ้านปากปรน หมู่ที่ 1 มุ่งหน้าไปออกทะเลเพื่อลากเรือพระไปยังเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หมู่เกาะลิบง...ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร” จุดที่รถของเจ้าชะตาตกลงไปคือ บริเวณท่าเรือบ้านปากปรน หมู่ที่ 1

จุดที่พบร่างเจ้าชะตา คือ “พื้นดินโคลนภายในป่าโกงกางริมทะเล บริเวณร่องน้ำปากอ่าวในทะเลทางไปเกาะลิบง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร พื้นที่หมู่ 11 บ้านปากปรน ต.หาดสำราญ” นี่เอง คือตัวเฉลยปริศนาของเส้นทางการพบร่าง

รหัสของหมู่ 1 ถึงหมู่ 11

เส้นทางลากพระ

ย้อนกลับไป ที่ผู้พยากรณ์ได้แจ้งไปว่า

“จุดอันตรายของเจ้าชะตา หรือจุดเกิดเหตุ อยู่ในที่ๆ ทรุดโทรม ลึกลับ ที่มรดกเก่า หรือใกล้วัด หรือเขตวัด”

และ

“ดาวลัคนา กำลังอยู่ในฤกษ์ที่เป็นขอบเขตของดาวอังคารและดาวพฤหัส ก็ขึ้นคีย์เวิร์ดว่า ท่าเรือ

ส่วนลัคนาจร เข้าฤกษ์ที่ 4 ก็มีที่เกี่ยวกับ “เรือและการเดินเรือ” และ “ที่เกี่ยวกับการเกษตร”

จันทร์อยู่ในฤกษ์ที่ 19 เกี่ยวกับ “สถาบันทางศาสนา”

ก็นับว่าตรงกับสถานการณ์อยู่ไม่น้อย

27 ธันวาคม 2562

เวลา 12.44 น.

ญาติของเจ้าชะตา แจ้งมาว่า

“ที่พบร่างนั้น มีสวนปาล์ม และญาติที่ไปรับร่าง ตอนไปถึง เจอวัวตัวหนึ่งยืนขวางทางอยู่”

(เรื่องนี้ เป็นบันทึกจากการเหตุการณ์จริง เกี่ยวกับการค้นหาร่างผู้สูญหาย โดยผ่านร่องรอยของดวงชะตาในปูมดวง และอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ได้บอกให้ใครทราบก่อนหน้านี้ก็คือ ร่องรอยจากดวงวิญญาณ

ถ้าย้อนกลับไปอ่าน ว่าด้วยจุดที่พบร่างของเจ้าชะตาผู้ตาย ที่นอนอยู่ใกล้ต้นไม้รูปทรงหงิกงอ สิ่งที่ผู้อื่นไม่เห็น แต่ได้มองเห็น คือตอนที่มองผ่านการไลฟ์เข้าไป ได้ทันเห็นวิญญาณที่ยืนนิ่งอยู่บนหาดทรายแบบงุนงง สงสัย และไม่เข้าใจตนเองว่า มาอยู่ตรงนั้นทำไม

และชั่วพริบตาที่ได้เห็น และก็พลันได้รู้ประจักษ์ชัดว่า เหตุใดจึงได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเจ้าชะตาผู้นี้ เพราะย้อนกลับไปเหมือนฉายภาพยนตร์ย้อนหลัง เคยได้ส่งวิญญาณของ “คุณแม่” ของเจ้าชะตาผู้ตายคนนี้มาก่อนแล้ว และเคยได้เตือนเขาว่า ให้ระวังตัวด้วย จะมีช่วงดวงตกอย่างสำคัญ”

ตอนหน้า จะเอาบันทึกการส่งวิญญาณ “คุณแม่” ท่านนั้นมาให้อ่านกันต่อค่ะ