มหัศจรรย์เลข 9 ...ชีวิต อำนาจ และความเชื่อ

09 ก.ย. 65 (07:06 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

ศาสตร์แห่งตัวเลขที่แฝงไปด้วยพลังความเชื่อยกให้เลข 9 เป็นเลขมงคล ด้วยสื่อถึงความเจริญก้าวหน้า ดั่งคำพ้องเสียงของ “เก้า” และ “ก้าว” ไม่เพียงคนไทยนิยมนำเลข 9 มากำหนดฤกษ์ยามหรือกำหนดจำนวน คนจีนยังเชื่อว่าเลข 9 คือเลขนำโชคสู่ความมั่งคั่ง แต่นอกเหนือจากความเชื่อพื้นฐานเหล่านี้ พลังอำนาจของเลข 9 ยังมีเรื่องราวที่วนเวียนอยู่ในชีวิตคนเราอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

กำเนิดชีวิตจากเลข “9”

มนุษย์เชื่อมโยงสัมพันธ์กับเลข 9 นับตั้งแต่กำเนิดชีวิต หลังการปฏิสนธิชีวิตมนุษย์เริ่มต้นขึ้นในครรภ์เป็นเวลา 9 เดือน ก่อนเป็นทารก จากนั้นใช้เวลาเติบโตอีก 9 เดือน จึงกลายเป็นเด็กน้อยที่สามารถ “ก้าวเดิน” ได้ด้วยตนเอง ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์นี้ถูกกำหนดเป็นพื้นฐานวิวัฒนาการของมนุษย์ทุกคนในโลกภายใต้ปัจจัยเดียวกัน ไม่นับรวมสรีระทางร่างกายจากวัยเด็กสู่วัยรุ่นที่เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเมื่อมีอายุถึง 9 ปี

หากชีวิตมนุษย์สัมพันธ์กับจักรวาล เลข 9 อาจเป็นสื่อที่นำสู่ความเชื่อมโยงดังปรากฏเป็นดาวเคราะห์ 9 ดวงที่มนุษย์ค้นพบในระบบสุริยะ ประกอบด้วย ดาวพุธ (Mercury) ดาวศุกร์ (Venus) โลก (Earth) ดาวอังคาร (Mars) ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ดาวเสาร์ (Saturn) ดาวยูเรนัส (Uranus) ดาวเนปจูน (Neptune) และ ดาวพลูโต (Pluto) ที่โคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์ แม้ภายหลังดาวพลูโตจะถูกปลดออกจากระบบสุริยะให้เป็นเพียง “ดาวเคราะห์แคระ” แต่ก็มีการค้นพบ แพลเนทไนน์ (Planet Nine) ดาวดวงใหม่ ที่นักดาราศาสตร์เชื่อว่า “ดาวเคราะห์ดวงที่ 9” ยังโคจรในระบบสุริยะ

จากจักรวาลอันไกลโพ้นและกว้างใหญ่เกินเปรียบปาน กลับเชื่อมโยงสัมพันธ์กับชีวิตมนุษย์ตัวเล็กบนดาวเคราะห์หนึ่งใบ

โหราศาสตร์ไทย ภายใต้เลข ๙

ขณะที่ดวงดาวโคจรเคลื่อนตำแหน่ง วิชาโหราศาสตร์ก็สามารถบ่งบอกถึงความเป็นไปของชะตาชีวิต ก่อนที่กล้องส่องทางไกลพัฒนากลไกจนดูเหมือนดาวอยู่ใกล้มากขึ้นทุกที ในวิชาโหราศาสตร์ ได้อาศัยตำแหน่งของดวงดาวในการพยากรณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ จากภูมิปัญญาที่ในการสังเกตแสงสว่างจากมวลหมู่ดาวและกำหนดเลขไทยแทนสัญลักษณ์ ก่อนบันทึกลงในแผนภูมิวงกลมดวงชะตาที่จำลองรูปแบบท้องฟ้าตามจักรราศี

ดาวที่ใช้ในทางโหราศาสตร์ เรียก “ดาวนพเคราะห์” หรือดาวพระเคราะห์ทั้ง ๙ ซึ่งใช้เลขไทยเป็นสัญลักษณ์ ได้แก่ ดาวพระอาทิตย์ (๑) ดาวพระจันทร์ (๒) อังคาร (๓) ดาวพระพุธ (๔) ดาวพระพฤหัสบดี (๕) ดาวพระศุกร์ (๖) ดาวพระเสาร์ (๗) ดาวพระราหู (๘) และดาวพระเกตุ (๙) ซึ่งตามตำนานเฉลิมไตรภพเล่าว่า พระเกตุ เกิดจากชีวิตพญานาค 9 ตน ภาพเทวดาประจำดาวพระเกตุ จึงมีพญานาคเป็นพาหนะ

ดาวพระเกตุ (๙) มีความหมายคล้ายกับดาวพระจันทร์ สื่อถึงความหวั่นไหว เปรียบดังเลข ๙ ที่มีรูปลักษณ์ที่ดุจดังน้ำหรือเปลวไฟที่มีอาการเคลื่อนไหว ดาวพระเกตุจึงอ่อนไหวได้ง่าย แต่เป็นขั้นที่สูงกว่า ละเอียดกว่า โหราจารย์ต่างยกให้ดาวพระเกตุแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งลี้ลับที่สัมผัสและรับรู้ได้ หากได้จรไปกุมกับดาวเคราะห์ใดๆ จะทำให้ดาวนั้นเพิ่มกำลังการตอบสนองจากการถูกกระทบหลังดาวโคจรมากขึ้น

การพยากรณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ยังบอกได้จากภพทั้ง ๑๒ ที่บอกได้จากตำแหน่งลัคนาในเวลาที่เจ้าชะตาเกิด แต่ละภพสามารถบอกเรื่องหลักที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต เช่น ภพที่ ๖ หมายถึง อริ บ่งบอกถึง ศัตรู อุปสรรค หนี้สิน ตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บ ภพที่ ๑๒ หมายถึง วินาสน์ บ่งบอกถึง ความวิบัติ ความเสื่อม

แต่หากเป็นภพที่ ๙ หมายถึง ศุภะ บ่งบอกถึง ความเจริญ และคุณธรรม

9 พลังยิ่งใหญ่ของเลขหลักหน่วย

ความหมายของเลข 9 นี้ ไม่เพียงแฝงด้วยความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์หรือโชคลางต่าง ๆ เฉพาะในไทยหรือแถบเอเชีย สำหรับชาวตะวันตกยังมองว่าเลข 9 คือ มิตรภาพ จิตวิญญาณ ความสามัคคี ความสามารถ เป็นเลขนำโชคที่เต็มไปด้วยพลังงาน และความกระตือรือร้น ที่ทำให้ตระหนักถึงการเติบโตในชีวิตและได้รับความสําเร็จ

เลข 9 ยังถูกเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ สื่อถึง ความรัก การเสียสละ ความโรแมนติก ผู้ศรัทธาที่มีเลขนำโชคนี้จะเต็มไปด้วยพลังในการใช้ชีวิตสร้างสรรค์และสนุกสนาน มีความงามเป็นของตัวเอง เด็กที่เกิดในวันที่ 9 จะเป็นคนรักอิสระ กล้าหาญ และมีความมั่นใจครบถ้วน

นอกจากนี้ในวิชาคณิตศาสตร์ เป็นที่รู้กันว่าเลข 9 คือเลขหลักหน่วยที่ใหญ่ที่สุด และไม่มีตัวเลขใดที่สร้างความประหลาดใจให้นักคำนวณได้เท่าเลข 9 เพราะทุกครั้งบวกตัวเลข 9 เข้าไป หรือคูณเลขหลักใดไปก็ตาม ผลลัพธ์สุดท้ายจะกลับมาเป็นเลข 9 เสมอ