ความเป็นมาที่ทำให้คนญี่ปุ่นกลัว “ดอกฮิกันบานะ”

ความเป็นมาที่ทำให้คนญี่ปุ่นกลัว “ดอกฮิกันบานะ”

ความเป็นมาที่ทำให้คนญี่ปุ่นกลัว “ดอกฮิกันบานะ”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดอกไม้ชนิดหนึ่งมีสีแดงสดบานเด่นสวยงามในช่วงเดือนกันยายนคือ ดอกฮิกันบานะ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นจำนวนมากรู้สึกกลัวที่จะนำมาปลูกไว้ที่บ้าน มารู้ความเป็นมาที่ทำให้คนญี่ปุ่นรู้สึกกลัวดอกไม้ชนิดนี้กันค่ะ

รู้จักดอกฮิกันบานะ

ดอกฮิกันบานะ (Hikanbana, 彼岸花) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Red spider lily เป็นพืชในวงศ์ลิลลี่ ต้นไม้ชนิดนี้มีวงจรชีวิตที่ดอกไม้และใบไม่เคยพบปะกัน โดยมีวงจรชีวิตคือ ในช่วงประมาณกลางเดือนกันยายนก้านดอกไม้จะโผล่ขึ้นมาจากดินอย่างรวดเร็วและบานดอก เมื่อดอกร่วงโรยไป ใบไม้จึงแตกออกมาเป็นสีเขียวข้ามฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ครั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นฤดูร้อนใบจะเหี่ยวเฉาเหลือไว้แต่หัวใต้ดิน รอจนถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงบานดอกสีแดงสดใสอีกครั้ง

ความเป็นมาที่ทำให้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่กลัวดอกฮิกันบานะ

คนญี่ปุ่นจำนวนมากรู้สึกกลัวดอกไม้ชนิดนี้จนไม่กล้านำมาปลูกไว้ที่บ้าน ซึ่งมีสาเหตุดังนี้คือ

การบานในช่วงวันศารทวิษุวัต

วันศารทวิษุวัต (秋分の日, Autumn Equinox) เป็นวันที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าโลกปัจจุบันและอีกโลกหนึ่งอยู่ใกล้กันมากที่สุด ทำให้มีการสื่อสารระหว่างคนที่มีชีวิตอยู่กับบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้วได้ง่าย ในทางศาสนาพุทธช่วงเวลา 7 วันของวันศารทวิษุวัตเป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าวิญญาณของบรรพบุรุษจะเข้าสู่สภาวะแห่งการรู้แจ้งและสงบสุข เรียกว่า ฮิกัน (彼岸) ในช่วงเวลานี้พวกเขาจะไปสุสานเพื่อเคารพวิญาณบรรพบุรุษ และด้วยการบานของดอกไม้ในช่วงนี้ทำให้คนญี่ปุ่นเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า ฮิกันบานะ

คำขู่ของคนรุ่นก่อน

การบานในช่วงฮิกันกอปรดอกมีสีแดงสดคล้ายเลือด มีกลีบดอกเป็นริ้วแลดูน่าขยะแขยง อีกทั้งทุกส่วนของต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นดอก ใบ ก้านชูดอก และหัว ต่างก็มีพิษ คนญี่ปุ่นรุ่นก่อนป้องกันไม่ให้ลูกหลานตนเองนำต้นและดอกไม้ชนิดนี้เข้าบ้านด้วยคำพูดที่ขู่กลายๆ คือ การนำต้นฮิกันบานะมาปลูกในบ้านจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกในครอบครัว

การปลูกไว้ที่สุสาน

ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการเผาฌาปนกิจศพเหมือนในปัจจุบัน ร่างของคนตายจะถูกฝังไว้ที่สุสาน คนญี่ปุ่นในสมัยนั้นปลูกต้นฮิกันบานะไว้รอบๆ สุสานเพื่อป้องกันไม่ให้หนูหรือตัวตุ่นเข้าไปกัดแทะศพ สารพิษ Lycorine ในหัวของต้นไม้ชนิดนี้จะไล่ไม่ให้หนูหรือตัวตุ่นเข้าใกล้หลุมศพ  ด้วยความเป็นพิษที่สูงหากคนรับประทานหัวของต้นไม้ชนิดนี้เข้าไปก็จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หายใจลำบาก และอาจทำให้เสียชีวิตได้

มุมมองของคนญี่ปุ่นต่อดอกฮิกันบานะในปัจจุบัน

ด้วยวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ทำให้คนญี่ปุ่นมีความเข้าใจข้อเท็จจริงทางธรรมชาติมากขึ้น ชาวนาปลูกต้นฮิกันบานะไว้ตามคันนาเพื่อช่วยป้องกันหนูและสัตว์เล็กไม่ให้เข้าไปกินและทำลายต้นข้าว คนญี่ปุ่นจำนวนมากนำต้นฮิกันบานะมาปลูกไว้เป็นไม้ประดับที่บ้าน และปลูกไว้เป็นทุ่งตามสวนสาธารณะ เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงดงามของดอกไม้ชนิดนี้ในช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศสบายตัวเหมาะกับการออกไปสัมผัสธรรมชาติ

หากมาญี่ปุ่นในช่วยหลังจากวันที่ 15 กันยายนของทุกปี ก็สามารถไปชมทุ่งดอกไม้สีแดงฮิกันบานะได้ง่าย แม้ว่าดอกไม้จะสวยเพียงไร แต่ก็มีข้อควรระวังในการชมดอกไม้คือ ควรชมห่างๆ ไม่สัมผัสหรือเด็ดดอกไม้ด้วยมือเปล่าค่ะ

สรุปเนื้อหาจาก news.yahoo

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook