ปาฏิหาริย์มีจริง! ธงธง มกจ๊ก เล่าประสบการณ์เหลือเชื่อเพราะแรงบุญ
ธงธง มกจ๊ก นักแสดงอารมณ์ดีที่อยู่คู่วงการบันเทิงไทยมาอย่างยาวนาน ร่วมพูดคุยถึงเรื่องราว ความคิด และประสบการณ์ชีวิต กับ อุ๋ย บุดด้าเบลส ผ่านรายการ “คุยกับอุ๋ย” ช่วงหนึ่งของรายการได้เล่าถึงความเชื่อเรื่องธรรมะ และเหตุการณ์ที่เกิดปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ ทั้งเรื่องที่แม่รอดชีวิตเพราะแรงอธิษฐานว่าจะบวช และการเดินทางข้ามมิติเวลาเพราะแรงบุญของ กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ เพื่อนรักนักแสดงที่ศรัทธาในเรื่องธรรมะอย่างแรงกล้า
ในรายการ คุยกับอุ๋ย EP.45 (ตอน "ธงธง มกจ๊ก" เปิดใจเห็นธรรมะเป็นเรื่องบันเทิง อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้) ธงธง เล่าถึงที่มาที่ไปของการเริ่มเป็นนักแสดงตลก ชีวิตที่เคยผ่านความยากลำบาก ความรับผิดชอบของลูกคนเล็กที่กลายเป็นหัวหน้าครอบครัว การทำงานเพื่อครอบครัวและญาติพี่น้อง ตลอดจนถึงที่มาของการเริ่มศึกษาธรรมะเพราะคำชักชวนของ กิ๊ก มยุริญ จนทำให้รู้ว่าสติมาปัญญาเกิดเป็นอย่างไร และสามารถนำมาใช้ปรับใจแม้วันที่ตนสูญเสียคนที่รักได้จริง ตลอดระยะการสัมภาษณ์เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
แม่รอดชีวิตจนหมองง หลังตั้งจิตขอบวชให้แม่
ช่วงหนึ่งธงธงเล่าถึงเหตุการณ์ที่คุณแม่ของตนป่วยด้วยอาการภาวะหายใจล้มเหลว ฟิล์มเอกซเรย์พบจุดขาวเต็มปอด และแพทย์ทุกโรงบาลก็แจ้งให้ทำใจว่าคุณแม่จะจากไปช่วงสี่ทุ่ม ตอนนั้นตนและครอบครัวได้ทำใจเตรียมการเพื่อวาระสุดท้ายของแม่แล้ว แต่ความเชื่อในเรื่องบุญกุศลของตนก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ขึ้น
“วันนั้นคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนบอกว่าคุณธงธงพาแม่สวดมนต์เลย เพราะคุณแม่จะอยู่อีกไม่นาน เราก็ว่าทำไมหมอพูดอย่างนี้ จึงย้ายมาที่โรงพยาบาลรัฐ หมอขึ้นมาตรวจบนรถบอกเลยว่าไม่เกินสี่ทุ่มคุณแม่ไป เพราะฟิล์มเอกซเรย์ขึ้นมาเลยว่าภาวะหายใจคุณแม่ล้มเหลว แล้วปอดเป็นจุดเป็นดวงขาวเต็มไปหมด
พี่ก็เลยตั้งจิต เพราะคิดว่าพี่น่ะทำบุญบ่อย ชอบทำบุญ แล้วอุทิศส่วนกุศลให้แม่หมดแล้ว ถ้าแม่จะตายเหลือบุญอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ อันนี้เป็นเรื่องจริงและพี่ก็ศรัทธาในบุญกุศลอย่างแรงกล้า พี่ตั้งจิตว่าพี่เกิดมาเป็นผู้ชายและพี่เกลียดเพศสภาพนี้มาก แต่การเกิดเป็นผู้ชายต้องให้อะไรพี่ อะไรที่ยังไม่ได้ทำ นึกได้ว่ายังไม่ได้บวชให้แม่ จึงตั้งจิตอธิษฐานว่าขอให้แม่มีชีวิตรอดและให้ได้เห็นผ้าเหลืองพี่ก่อน
ปรากฏว่าแม่ไม่ไป อยู่ยาวจนแข็งแรงจนออกโรงพยาบาล แล้วก็สามารถไปบวชกับเราได้ และพอบวชเสร็จเรียบร้อยฟิล์มเอกซเรย์ปอดแม่กลับมาสมบูรณ์ทั้งสองข้างจนหมองง
เรื่องนี้เป็นความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับพี่ พี่ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไรแต่พี่ได้รับความมหัศจรรย์ในธรรมะ มันผูกศรัทธาพี่มาก พี่เชื่อว่าสิ่งที่ทำ แม่ได้รับผลจริง แม่จึงมีชีวิตอยู่”
วาร์ปข้ามมิติภายใน 2 นาที ไม่เคยเชื่อแต่ต้องเชื่อ!
อีกช่วงหนึ่งเป็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เรื่องการเดินทางข้ามมิติเวลาจากที่ตนเคยฟังจากนักแสดงรุ่นพี่เคยเล่าให้ฟังเมื่อนานมาเเล้วแต่ไม่เคยเชื่อ กระทั่งมาเจอกับตัว ธงธงเล่าถึงเหตุการณ์ที่ต้องเร่งเดินทางไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือธรรมะเรื่อง “ดัดจริต”ของกิ๊ก มยุริญ ในวันนั้นตนและพุดเดิ้ล ปาจรีย์ ณ นคร ต้องเร่งเดินทางขณะที่พบอุปสรรคและคิดว่าไม่ทันเวลาแน่นอน ธงธงเล่าว่า
“เรื่องนี้เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับมยุริญ มยุริญเป็นคนที่มีบุญเยอะมาก และวันนั้นเป็นวันที่น้องกิ๊กต้องเปิดตัวหนังสือชื่อดัดจริตหนังสือธรรมะที่สยามพารากอน คือต้องเปิดงานตอนเที่ยงตรงบ่ายโมงเลิกเลย ทุกอย่างต้องจบและเคลียร์พื้นที่ภายใน 1 ชั่วโมงเป๊ะ วันนั้นตรงกับวันลอยกระทงและเป็นวันศุกร์รถติดมาก พี่ถ่ายละครอยู่กับพุดเดิ้ลแถวพระโขนงอ่อนนุช พุดเดิ้ลต้องไปเป็นพิธีกรและพี่ต้องไปเป็นแขกรับเชิญ กองถ่ายปล่อยพี่ 11 โมงครึ่งและพี่ก็นั่งรถมากับพุดเดิ้ลเพื่อที่จะไปหาที่พารากอนก็ต้องผ่านเส้นที่รถติดมาก ตอนนั้นก็ใจร้อนมากจนเราดูนาฬิกาไปดูเวลาไปดูถึงไหนถึงไหนตลอด
พอมาถึงเอ็มโพเรียมแถวบ้านพี่บอย เห็นเวลา 11.58 น พี่มีความรู้สึกว่าไม่ทันแล้ว ยังไงก็ไม่ทัน ก็เลยบอกพุดเดิ้ลให้จอดรถที่บ้านพี่บอยแล้วนั่งรถไฟฟ้าไป อย่างน้อยก็เลทนิดหน่อย พุดเดิ้ลก็ไม่ยอม ก็หงุดหงิดกันมาก จังหวะนั้นแม่เพื่อนก็โทรศัพท์มาพี่ก็ก้มรับโทรศัพท์แม่เพื่อนแล้วบอกแม่ๆ หนูขอโทษนะหนูยุ่ง หนูยุ่ง เดี๋ยวหนูโทรกลับ พอวางสายพอเงยหน้าขึ้นมา พุดเดิ้ลบอกพี่ว่า พี่ธงอันนี้ใช่พารากอนไหม พี่ก็ตีพุดเดิ้ลไปหนึ่งที ก็เมื่อกี้เพิ่งเอ็มโพเรียมถึงชวนให้จอดรถบ้านพี่บอย แล้วมันจะใช่ได้ยังไง..
แต่หันมาเนี่ยสยามพารากอน! อุ๋ยเชื่อไหมพี่กับพุดเดิ้ล รถทั้งคันติดมาก อีก 5-6 ไฟแดงพี่ทะลุเวลามาถึงงานมยุริญจริง อันนี้เล่าเลยไม่เคยไปเล่าที่ไหน พอจอดรถปั๊บวิ่งขึ้นลิฟท์เปิดลิฟท์ถึงงานเที่ยงตรงเป๊ะ ภายใน 2 นาที เชื่อไหมนี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นโดยมีหลักฐานคือพุดเดิ้ลพี่และรถ มยุริญยังงงว่าไหนบอกอยู่เอ็มโพเรียมมาได้ไง เหมือนหายตัวไป
คนดูต้องว่าเราเพ้อเจ้อแน่นอน แต่บอกเลยว่ามันเป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตัว มันอยู่ในเหตุการณ์กัน 3 คนก็รู้กันแค่ 3 คน แต่ขอบอกตรงนี้และยืนยันตรงนี้ว่าไม่ใช่คนโกหกมัน คือเรื่องจริง
พุดเดิ้ลก็เหวอมากทุกวันนี้เจอหน้ากันก็คุยกันแต่เรื่องนี้ ว่าวันนั้นเทวดามาช่วยจริงหรือเปล่า รถมันเหาะไหมวะ ไม่รู้เลย เพราะว่าเราก้มหน้าโทรศัพท์อยู่ พุดเดิ้ลก็ขับอยู่แต่บอกว่าทำไมดูงงๆ เขาเวียนหัวแล้วอยู่ดีๆ ก็ถึง แปลกมาก
พี่บอกเลยว่าธรรมะช่วยคุณ ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนดีตั้งมั่นที่จะทำความดี ธรรมะจะช่วยคุณ ใครจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็แล้วแต่แต่สำหรับเรามันเกิดขึ้นกับตัวเราจริงๆ ทั้งเรื่องแม่ ทั้งเรื่องฟิล์มเอกซเรย์หมอก็ยังงงจริง พี่จึงบอกว่าถ้าเราทำเราทำความดี วันหนึ่งถ้าเราตกทุกข์ได้ยากหรือเราจนตรอก จนมุม หลังพิงกำแพงถ้าอธิษฐานขอ จะได้! พี่เชื่อแบบนั้น”
“เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” ไม่ได้หมายความว่า “ไม่มีจริง”
ด้าน อุ๋ย บุดด้าเบลส ได้ฟังเรื่องราวก็ประหลาดใจ แต่สำหรับตนแล้วไม่ได้ “เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” และกล่าวต่อว่า
“ถ้าเป็นแต่ก่อนอุ๋ยจะมองว่าไม่เชื่อ เพ้อเจ้อแล้ว แต่ตั้งแต่ฟังหลวงปู่ชาที่ท่านพูดว่า อะไรที่เรายังไม่มีปัญญาพิสูจน์ได้ก็อย่าเพิ่งสรุปว่ามันไม่มี เพราะปัญญาเรามีอยู่แค่นั้น เหมือนเอามือล้วงลงไปในตุ่มแล้วเราไปหยิบจับอะไรไม่ได้ สุดแขนเราแล้ว แต่คนที่เขาแขนยาวกว่าเราแล้วเขาไปคลำเจอของก้นหลุมได้ เขาก็บอกว่าของมันมีไง แต่เรามีปัญญาไปแค่นั้น เราจะสรุปว่ามันไม่มีเหรอ
ผมฟังคำนี้แล้วก็อ๋อในใจ จึงเปิดกว้างมากขึ้นว่า..
อย่าเพิ่งรีบตัดสินว่ามีหรือไม่มีก็เรายังพิสูจน์ไม่ได้ มันเป็นประสบการณ์ของเขา มันเป็นความจริงของเขา แต่มันอาจจะเป็นแค่ความเห็นในมุมมองของเราก็เท่านั้น”
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ