เทรนด์มูเตลู ปี 2566 ที่สายมูต้องอัปเดต!
ยิ่งเวลาผ่านไประดับความ มูเตลู ของคนเจเนอเรชันใหม่ก็สูงขึ้นตาม และขยายวงกว้างจนขยับเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น อาจเพราะด้วยความกดดันและความไม่แน่นอนของโลก ทำให้คนเจนฯ ใหม่ ๆ เริ่มสนใจหันมาหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจทางความเชื่อ แม้จะพิสูจน์ผลลัพธ์ไม่ได้ 100% แต่เป็นเสมือนเครื่องช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เราในสิ่งมุ่งมั่นไปในทางที่ต้องการ เช่น ขอพรวัดดัง, บูชาเทพ, ดูหมอ, สวมใส่เครื่องรางนำโชค ซึ่งทั้งหมดเรียกรวม ๆ ได้ว่า “มูเตลู”
และในปี 2566 นี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการใช้ชีวิตของผู้คน จาก COVID-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านต่อเนื่องมาถึงปี 2566 เป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดความวิตกกังวลบนความไม่แน่นอนในชีวิต และต้องการที่พึ่งทางใจ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม “สายมู-สายตาม-สายแจม”
ความกังวลและความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่นี้ ทำให้คนไทยในทุกกลุ่มทุกเจน ต้องหาวิธีจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ ซึ่งพบว่าคนไทยหันหน้าพึ่งความเชื่อโชคลาง (Superstitious) โดยที่ 5 อันดับความเชื่อโชคลางที่มีผลต่อคนไทยมากที่สุด ดังนี้
1. พยากรณ์ โหราศาสตร์ ลายมือ ไพ่ยิปซี ซึ่งเป็นสิ่งที่สืบทอดมานานจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่คำทำนายของพระโคในวันพืชมงคล การดูดวงประเทศ กระทั่งการดูดวงของคนทั่วไปในหลากหลายรูปแบบ
2. พระเครื่องวัตถุมงคล กระแสแรงข้ามปีต้องยกให้ วัดเจดีย์ไอ้ไข่ ที่สามารถสร้างรายได้จำนวนมากให้ท้องถิ่น กลายเป็นสถานที่ห้ามพลาดของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีสายการบินเปิดเส้นทางตรง กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช โดยใช้ วัดเจดีย์ไอ้ไข่ เป็นสถานที่ดึงดูด
3. สีมงคล ที่สามารถนำมาสร้างธุรกิจได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีเสื้อมงคลประจำวันเกิด สีลิปสติกเสริมดวง กระเป๋าเงินเรียกทรัพย์ตามสีวันเกิด
4. ตัวเลขมงคล จากความเชื่อ “เลขนำโชค” ที่จะนำสิ่งดี ๆ มาให้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น บ้านเลขที่ ทะเบียนรถ หรือที่ฮิตสุด ๆ ก็เบอร์มือถือ เพราะเป็นเลขติดตัวสร้างความมั่นใจการใช้ชีวิตและการติดต่องาน กลายเป็นกระแสของค่ายมือถือที่นำเรื่องตัวเลขมาเล่นกับความเชื่อของคนไทย ขายเบอร์โทรเสริมดวง เรียกราคาเพิ่มขึ้นได้หลักพัน หลักหมื่นถึงแสนบาท
5. เรื่องเหนือธรรมชาติ เป็นสิ่งลี้ลับ จากความเชื่อของแต่ละคน แต่ละสถานที่ ทำให้เกิดรายการทีวี เรื่องลี้ลับจำนวนมากที่ได้รับความนิยมจากผู้ชม
โดยในปี 2566 คนก็ยังต้องพึ่งการไหว้พระ เสริมดวง เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่เช่นเดิม
พญานาค
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก อีกสิ่งหนึ่งก็คือ “องค์พญานาค” ที่มีความเชื่อในเรื่องของโชคลาภ เงินทอง และช่วยป้องกันสิ่งที่ไม่ดี
ท้าวเวสสุวรรณ
ผู้ที่มาสักการะรูปเคารพท้าวเวสสุวรรณ ส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าบารมีของท้าวเวสสุวรรณ จะช่วยคุ้มครองป้องกันให้พ้นจากภยันตรายทั้งปวงได้ การสักการบูชาท้าวเวสสุวรรณถือว่าเป็นมงคลแก่ตัวเอง และช่วยดลบันดาลให้ประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ
พระพิฆเนศ
เทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ทั้ง การงาน ความก้าวหน้าในงาน ความมั่นคง รวมถึงสิ่งที่คิดไว้จะสำเร็จสมดังใจที่ปรารถนา เพราะฉะนั้น องค์พระพิฆเนศจึงจะยังคงอยู่ในปี 2566 นี้
พญาครุฑ
คนยุคนี้นอกจากต้องการความมั่นคง อยากรวยแล้ว อะไรที่จะช่วยดลบันดาลให้สำเร็จรวดเร็ว นั่นก็คือ พญาครุฑ ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุลมและธาตุไฟ ถือเป็นเถ้าของพระอาทิตย์ ส่วนหนึ่งของพระอาทิตย์
คาถาพญาครุฑตอนหนึ่งว่า “พญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย” องค์พญาครุฑก็จะยังเป็นที่ต้องการในหมู่คนที่ต้องการการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนรวดเร็ว รวยทันที รวยทันใด รวยทันใจ รวยทันใช้ ต้อง “พญาครุฑ”
รวยแบบมั่นคงยั่งยืนต้อง “ท้าวเวสสุวรรณ” ประสบความสำเร็จต้อง “พระอุเชนทร์ พระพิฆเนศ” อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมั่งคั่งด้วยทรัพย์สินมหาศาลโภคทรัพย์มากมายและมีโชคลาภต้อง “พญานาค”
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ “ปีชง” ซึ่งเป็นความเชื่อตามตำราโหราศาสตร์จีนนั้น หมายถึง “ปีแห่งการปะทะ” ซึ่งคำว่า “ชง” ในภาษาจีนหมายถึง “การปะทะ” ดังนั้นคำว่า “ปีชง” คือ ปีที่อาจต้องมีการปะทะเกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงเข้ามามากขึ้น เราทั้งหลายจึงต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ และเตรียมการรับมือ เพิ่มความระมัดระวัง
การไหว้แก้ “ปีชง 2566” คือหนึ่งในกิจกรรมของคนไทยสายมูที่เชื่อกันว่าเปิดปีใหม่ทุกปีจะต้องมีปีชงที่ได้รับผลกระทบต่างๆ และต้องหาวิธีแก้ปีชงที่ถูกต้องเพื่อความสบายใจให้ชีวิตราบรื่นตลอดปี
นักษัตรไหนที่ชงบ้าง
ปีนักษัตรที่ชงในปีนี้ คือ “ปีระกา” ชงโดยตรง 100% “ปีเถาะ” เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนี้ชง 50% ส่วน “ปีชวด” ผลกระทบเรื่องเคราะห์กรรม และ “ปีมะเมีย” รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพซึ่งถือว่าเป็นปีชงร่วมและสัดส่วนชง 50%
โดยความเชื่อเรื่องปีชง จะเกี่ยวข้องกับ “องค์เทพไท้ส่วย” หรือ “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” แต่ “ปีชง” มีทั้งแบบดีและไม่ดี และในแต่ละปีจะมีปีนักษัตรที่ “ชงตรง” และ “ชงร่วม”
- ปีระกาหรือคนที่เกิดตรงกับปี พ.ศ. 2476, 2488, 2500, 2512, 2524, 2536, 2548, 2560
- ปีชงร่วม ประกอบด้วย ปีเถาะ, ปีชวด, ปีมะเมีย หรือคนที่เกิดปี พ.ศ. 2467, 2470, 2473, 2479, 2482, 2485, 2491, 2494, 2497, 2503, 2506, 2509, 2515, 2518, 2521, 2527, 2530, 2533, 2539, 2542, 2545, 2551, 2554, 2557, 2563
ดังนั้นในทุก ๆ ปีจึงมีการ “แก้ชง” ซึ่งเป็นการไหว้ขอพรให้เทพเจ้าช่วยปัดเป่าความทุกข์ และบรรเทาเคราะห์กรรม
วิธีแก้ปีชง
1. ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วย ช่วยบรรเทาเคราะห์กรรม นิยมไปที่วัดมังกรฯ (วัดเหล่งเน่ยยี่) พระนามว่า “ห่องัก ไต่เจียงกุง” เพื่อเป็นสิริมงคล การไปสักการะเพื่อให้เป็นสิริมงคลนั้นเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. แต่ไม่ควรเกินวันที่ 15 ก.พ. 2566
2. ทำบุญช่วยชีวิตสัตว์ต่าง ๆ เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ปล่อยนก ปล่อยปลา บริจาคโลหิต
3. ไหว้พระ 9 วัด เสริมสิริมงคลให้ชีวิต อาทิ
- วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกร เยาวราช
- วัดทิพยวารีวิหาร หรือวัดกัมโล่วยี่
- วัดโพธิ์แมนคุณาราม หรือวัดโพวมิ้งปออึงยี่
- ศาลเจ้าพ่อเสือเสาชิงช้า
- ศาลหลักเมืองประจำจังหวัด
4. เข้าวัดไหว้พระ-รดน้ำมนต์ ในวันที่ 9 ก.พ. 2566 เวลา 09.05-10.45 น. และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
5. หลีกเลี่ยง-ไม่ควรไปร่วมงานศพ หรืองานฝังศพตลอดปี 2566 นี้