สาวแชร์ประสบการณ์ หมอดูจับคู่สมพงษ์ให้ จนสมหวังได้แต่งงานจริง

สาวแชร์ประสบการณ์ ดูดวงความรัก จนสมหวังได้แต่งงานจริง ผ่านเวบบอร์ด Sanook Horoscope ในกระทู้ หาคู่ หาแฟน ดูดวงความรัก สมหวังได้แต่งงาน เพราะหมอดูช่วยเหลือคู่ให้ค่ะ  โดย missyoumydear เรื่องราวเต็มไปด้วยความหวัง ความผิดหวัง ข้อคิด และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่สาวสายมูชอบดูดวงเป็นอย่างยิ่ง  เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านรายละเอียดได้เลย

 

เรื่องเล่าของลูกผู้หญิง ที่อยากจะมาบอกต่อ แชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ทั้งหลาย ได้ฟังได้อ่าน เผื่อจะได้ข้อคิดดีๆ กลับเอาไปใช้ได้คะ

ดิฉันก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนกับเพื่อนๆ หลายคน พอเติบโตขึ้นมาเป็นสาวและก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ พอเรียนจบ มีงานทำ ก็อยากจะสมหวังความรักกับเขาบ้าง อยากเจอผู้ชายดีๆ ขยันซื่อสัตย์  อดทน  จริงใจ  ไม่เจ้าชู้  มีฐานะมั่นคงก็พอ ... เอาจริงนะ (ถ้าได้หล่อและรวยด้วย ถือว่าโชคดีไป) แต่ขอพูดจากใจจริง ส่วนตัวเราเอง ขอคนขยันทำมาหากินและเป็นคนดีที่จริงใจและซื่อสัตย์กับเราคนเดียวก็เพียงพอ ส่วนเรื่องฐานะ ค่อยมาช่วยกันสร้างกันทีหลังก็ได้ แต่ที่ผ่านมาเจอแต่ผู้ชายอวดรวย เจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้ชอบคบซ้อน พอเราจับผิดได้ สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป

เราเองเคยมีแฟนมาแล้ว 2 คน ซึ่ง 2 คนที่ผ่านมา เราเป็นคนเลือกเอง เมื่อก่อนชอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า เราเก่ง  เราแน่ สวยเลือกได้กลัวอะไร ประเภทเชื่อมั่นในตนเองสูง ตอนเลือกคบแฟนคนแรก เป็นลูกเจ้าของโรงงานถือว่ารวยมีฐานะทีเดียว แต่ข้อเสียเขาเป็นคนชอบดื่ม  ชอบสูบบุหรี่จัด และโมโหร้าย ช่วงแรกเราว่าเราเองก็พอจะรับไหว แต่พอคบกันไป เขาเองก็มีนิสัยขี้เกียจ ทำตัวแบบลูกคุณหนูรักสบายมากเกินไป ถึงแม้ตอนนี้เขาจะมีเงินมากมาย แต่ถ้าอนาคตไม่รู้จักเก็บ ไม่ช้าก็หมดไม่เหลือ เคยมีญาติผู้ใหญ่ของเราเคยเตือนแล้ว แต่เราไม่ฟังเอง และแล้วไม่สามารถปรับตัวเข้าหากัน ก็ต้องเลิกค่ะ

เวลาผ่านไป 1-2 ปี ได้รู้จักแฟนคนที่สอง คนนี้รู้จักผ่าน Social เป็นผู้ชายหน้าตาดี เห็นแล้วถูกใจค่ะ เขาเองก็เพิ่งอกหักมา อยากหาคนมารักษาแผลใจ แฟนคนที่สองเป็นพูดเก่งคุยเก่ง นิสัยดี เพื่อนฝูงเยอะ เขาทำงานทำอาชีพเป็น Sale ฝ่ายขายให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยการที่เขาต้องพบปะผู้คนเยอะ จึงเป็นช่องทางที่เขาจะเจอผู้หญิงมากมาย ตอนคบกันเราอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจกันค่ะ ซึ่งแฟนไปไหนมาไหนเขาจะโทรมาบอกเสมอ ถือว่าเสมอต้นเสมอปลายดี คบกันมา 3 ปี เชื่อเอาเองว่าและคิดไปเองว่า ต้องได้ลงตัวกับแฟนคนนี้แน่ๆ แต่มีเพื่อนๆ ของเรา เคยเห็นเขาและเคยเจอแฟนเรา ไปควงสาวๆ คนอื่นๆ ซึ่งตอนนั้นเราไม่เชื่อ หัวรั้นค่ะ คิดว่าเพื่อนในกลุ่มคงอิจฉาเรา ที่เราได้แฟนหล่อ จึงอยากจะแกล้งให้เรากับแฟนทะเลาะกัน แต่เพื่อนในกลุ่มเราหลายคน บอกเคยเจอแฟนเราไปกับผู้หญิงคนอื่นหลายครั้ง หลายๆ เดือน ที่เพื่อนๆ พยายามเตือน แต่ตัวเราเองไม่ฟัง เพราะแฟนเราเขาก็ไม่ได้มีพิรุธ ยังไปรับไปส่งเราตามปกติ มีอะไรโทรหากันตลอด เคยขอดูโทรศัพท์เขา ก็ไม่มีเบอร์ผู้หญิงคนไหน มีแต่เบอร์ลูกค้าของเขา ดูใน LINE ของเขาก็ไม่เห็นมีอะไร มีแต่เรื่องงาน

จนวันหนึ่งเราไม่สบายท้องเสียในที่ทำงาน เราโทรบอกแฟนให้มารับหน่อย แต่เขาบอกว่าติดประชุมนัดสำคัญออกไปไหนไม่ได้ เราก็เลยวานเพื่อนๆ ให้พาเราไปหาหมอที่โรงพยาบาลที บังเอิญโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ ดันอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง และเพื่อนเราคนหนึ่งดันตาดี เห็นรถยนต์ที่แฟนเราขับเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูดนั้น เพราะจำสีรถ  ยี่ห้อรถ และเลขทะเบียนรถของแฟนเราได้ เพื่อนก็เลยหยิบมือถือถ่ายบันทึก VDO เก็บไว้ แต่เพื่อนคนนี้ยังไม่บอกกับเรา คงเพราะเห็นว่าเราป่วยอยู่ วันนั้นเราต้องแอดมิด ( Admit ) นอนโรงพยาบาล ฉีดยาและให้น้ำเกลือ คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นอะไรร้ายแรง แค่อาหารเป็นพิษ วันรุ่งขึ้นก็สามารถกลับบ้านได้

ซึ่งคืนนั้นแฟนเราก็มาเยี่ยม แต่เพื่อนๆ เรากลับบ้านกันหมดแล้ว พอวันรุ่งขึ้นอาการเรากับมาปกติ คุณหมอก็ให้กลับบ้านได้ เราเองก็รีบโทรให้แฟนมารับที่โรงพยาบาล แต่เขาก็บอกว่ากำลังติดประชุมอยู่ ให้เรียกรถ Taxi ขับไปส่งที่บ้านเอาเอง ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังออกจากโรงพยาบาล เพื่อนคนที่เคยถ่าย VDO เดินมาหาเราที่แผนก เพราะทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน บอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะบอกเรา ไม่อยากเห็นเราหน้ามืดตาบอด หลงเชื่อคารมของผู้ชายหลอกลวง ก็เลยเปิด Clip VDO ที่ถ่ายเก็บไว้ให้เราได้ดู พอเราดูคลิปจนจบ ถึงกับน้ำตาไหล และรบกวนให้เพื่อนส่ง Clip VDO ต่อมายังมือถือของเรา วันนั้นหลังเลิกงาน เราเองก็โทรไปหาแฟน เพื่อให้เขามารับจากที่ทำงานไปส่งที่บ้านเราเหมือนเดิมและเหมือนทุกๆ ครั้ง พอเขามารับเราและขับรถไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางเราเงียบไม่พูดอะไรเลย ซึ่งแฟนเราเขาก็แปลกใจ ว่าวันนี้เป็นอะไรดูเงียบผิดปกติ พอรถของแฟนจอดถึงหน้าบ้านของเรา เราเองก็เลยตัดสินใจเปิด Clip VDO ให้เขาดู พอเขาดูคลิปจบ เขาทำเป็นเงียบ ไม่โต้ตอบอะไร เราก็เลยถามออกไปตรงๆ ว่า เธอใช่ไหมที่ไปโรงแรมม่านรูด เขาพยักหน้า แล้วพูดว่าขอโทษ ก็แค่รักสนุกไม่มีอะไรผูกมัด ผู้หญิงคนนั้นเป็นฝ่ายชวนเขาก่อน เรารีบพูดตัดบท ถ้าเธอไม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน ก็จบกันพอแค่นี้ เธอจะไปรักสนุกกับใครก็เชิญ

เราบอกขอเลิก แต่แฟนไม่ยอกเลิก ช่วงๆ แรกแฟนก็ตามง้อ จนเราใจอ่อนให้โอกาสเขาแก้ตัว ผ่านไป 4-5 เดือนเหมือนจะดี แต่สันดานคนมันเปลี่ยนยากค่ะ เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สอง และเราก็จับผิดเขาได้อีกแล้ว คราวนี้ไม่ยอมค่ะ สุดท้ายก็เลิกจริงๆ ไม่หวนคืน พอนึกถึงคำพูด ที่เพื่อนๆ เคยเตือนเอาไว้ ว่าผู้ชายหน้าตาดีบางคนมันไม่รู้จักพอ ก็คงจริงเหมือนที่เพื่อนพูดค่ะ ทำให้ตัวเองตั้งกำแพงในใจ กลัวผิดหวังเรื่องความรักอีก ก็เลยครองตัวเป็นโสดประมาณ 5 ปี

ช่วงที่ครองตัวเป็นโสด ก็มีเพื่อนร่วมรุ่นทั้งสมัยเรียนมัธยมและสมัยมหาวิทยาลัย ทยอยแต่งงานพอไปงานแต่งงานเพื่อน ก็มักจะโดนแซวอยู่เสมอว่า เมื่อไหร่จะแต่งงานกับเขาสักที ในใจก็อยากจะตระโกนออกไปว่า ก็อยากแต่งงานเหมือนกัน แต่ยังไม่เจอคนที่ใช่เลย รวมทั้งคุณพ่อ+คุณแม่ และญาติๆ ก็จะถามเราอยู่เรื่อยๆ มีแฟนหรือยัง? คิดจะแต่งงานตอนไหนหรือเมื่อไหร่? เป็นอะไรที่กดดันอย่างบอกไม่ถูก

จนเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา มีเพื่อนที่แต่งงานไปแล้ว ได้ตั้งท้อง และได้ไปปรึกษาหมอดูซินแส เพื่อหาฤกษ์ผ่าคลอดให้กับลูก มาเล่าให้ฟัง ได้ไปดูฤกษ์ผ่าคลอดมาและได้ไปดูดวงกับอาจารย์หมอดูท่านนี้ ทุกคนที่ไปดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “แม่นมาก” ตั้งแต่ดูดวงกับหมอดูมาหลายๆ เจ้า พึ่งจะเจออาจารย์ท่านนี้แหละที่ทักแต่ละอย่าง แม่นที่สุดล่ะ เพราะเพื่อนเราทั้ง ๕ คนที่สนิทสนมกันตั้งแต่สมัยเรียน ทุกคนได้แต่งงานและได้หาฤกษ์แต่งงานกับอาจารย์ท่านนี้ และหลังแต่งงานพอตั้งท้องมีลูกขึ้นมา ก็กลับไปหาฤกษ์ผ่าคลอดกับอาจารย์อีก ทำให้เราสนใจอยากดูดวงกับอาจารย์ท่านนี้มาก เราก็เลยขอชื่อกับเบอร์โทรศัพท์กับเพื่อน อาจารย์แกชื่อว่า อาจารย์ อู๋ สมการ หรือ “ ซินแสอู๋ ” พอเราได้เบอร์โทรก็รีบโทรไปดูดวงกับอาจารย์ อู๋ แต่อาจารย์บอกว่าคิวยาวมากจะรอไหวมั้ย? เราก็เลยตอบอาจารย์ไปว่า นานแค่ไหนหนูก็จะรอค่ะ ยังไงหนูขอฝากชื่อและเบอร์โทรติดต่อของหนู เมื่อถึงคิวของหนูอาจารย์โทรมาแจ้งหนูได้เลยนะคะ แต่เพื่อนที่เคยดูดวงกับอาจารย์บอกเอาไว้แล้วว่าคิวอาจารย์นานหน่อย เราเองก็เผื่อใจไว้แล้วว่าต้องรอ เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน นานพอสมควร อาจารย์ อู๋ โทรมาหาว่ามีคิวแล้ว เรารีบตอบตกลง และนัดหมายวัน-เวลาในการดูดวง ซึ่งอาจารย์ อู๋ สมการ แกรับดูดวงผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น แกขอข้อมูลวัน/เดือน/ปีเกิด/เวลาเกิดของเรา

อาจารย์ อู๋ บอกว่าใช้วิชาดวงจีนคำนวณดวงชะตาให้เรา อาจารย์แกทายทักเกี่ยวกับพื้นฐานดวงให้เราฟังก่อน ซึ่งก็ตรง โดยเฉพาะเรื่องงานแม่นมาก ดวงเหมาะเป็นประชาสัมพันธ์หรือเลขานุการ มีเจ้านายเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งก็ใช่และตรงมาก ทุกวันนี้ทำงานเป็นเลขานุการให้เจ้านายฝรั่งอยู่ค่ะ อาจารย์ อู๋ ทายทักต่ออีกว่าคุณพึ่งได้เจ้านายคนใหม่และกำลังมีปัญหาอยู่ด้วย อันนี้เรารีบตอบอาจารย์ไปค่ะว่า จริงค่ะเป๊ะมาก เจ้านายฝรั่งคนเดิมบินกลับไปรับตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่ที่ต่างประเทศ และส่งเจ้านายฝรั่งคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งคนนี้จุกจิกขี้บ่นมากจริงๆ ก็เลยถามอาจารย์ อู๋ ไปว่า ต้องทำยังไง อาจารย์แกตอบง่ายๆ ต้องอดทนไปก่อน เดี๋ยวประมาณ 3-4 เดือนทุกอย่างจะคลี่คลายแล้วดีขึ้นเอง ซึ่งตัวคุณกับเจ้านายก็จะปรับตัวเข้าใจกันในไม่ช้า ยังมีอีกหลายอย่างที่อาจารย์แกทายถูก ทำเราอึ้งไปเลย

พอถึงเรื่องความรัก อาจารย์ อู๋ แกถอนหายใจ บอกว่าดวงเราน่าสงสารมีกรรมเรื่องคู่ ที่ผ่านมาในอดีตมีแฟนก็ไม่ซื่อสัตย์ไม่จริงใจ อยากบอกอาจารย์ว่าถูกอีกแล้วค่ะ เราก็เลยถามอาจารย์ไปว่า ชีวิตนี้หนูจะได้แต่งงานหรือมีครอบครัวเหมือนกับคนอื่นบ้างไหม? อาจารย์แกตอบว่าก็มีลุ้น แต่ดวงคุณจะเจอคู่แบบสายฟ้าแล่บ และถ้าคุณเลือกเองก็จะผิดหวังเช่นเดิม ดวงคุณต้องมีคนกลางเป็นคนเลือกคู่หรือเลือกแฟนให้จึงจะดี และอาจารย์ อู๋ แกก็เอ่ยขึ้นว่า เอายังงี้มั้ย!!! เดี๋ยวผมจะทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่ชักให้ก็แล้วกัน ถ้าผมเจอดวงชะตาผู้ชายคนไหนที่ถูกโฉลก+สมพงศ์กับวาสนาคุณ และดวงอุปถัมภ์ส่งเสริมเกื้อหนุนกัน ผมจะแนะนำให้รู้จักกัน

ตอนที่เราฟังอาจารย์ ก็คิดในใจ มันจะเป็นไปได้เหรอ แต่ปากก็ตอบอาจารย์ไปว่า ดีค่ะ หนูฝากรบกวนอาจารย์ด้วยแล้วกันนะคะ เพราะตัวเราเองมานั่งคิดทบทวน ที่ผ่านมาเลือกคบหาดูใจกับใคร เลือกเองไม่ปรึกษาใคร ถ้าชอบคนไหน ต่อให้พ่อ+แม่+ญาติ+พี่น้องหรือเพื่อนเตือนว่า คนนั้นคนนี้นิสัยไม่ดีไม่น่าจะไปกันรอด เราก็มักจะดื้อไม่ฟัง สุดท้ายเลือกเองทีไร ผิดหวังเองทุกที เมื่อก่อน Spec ผู้ชายในฝันที่เคยอยู่ในหัว ต้องเป็นผู้ชายหน้าตาดีมีฐานะ ตอนนี้หายออกไปจากหัวหมดแล้ว อยากเจอคนดีที่จริงใจมากที่สุดค่ะ ก็เลยคิดว่าลองให้คนอื่นเลือกให้ น่าจะ O.K. ดีกว่า....ไม่น่าเชื่อค่ะ ว่าอาจารย์ อู๋ โทรหาเรา ทั้งที่เราพึ่งดูดวงกับอาจารย์ อู๋ ไปเมื่อปลายเดือน มกราคม 2565 ผ่านไปประมาณ 2 เดือน ต้นเดือนเมษายน  อาจารย์ อู๋ โทรมาบอกว่า คุณยังจำได้ไหม ที่คุณฝากดวงชะตากับผมไว้เรื่องเนื้อคู่ ตอนนี้ผมมีผู้ชายคนหนึ่ง ที่ดวงชะตาถูกโฉลก+สมพงศ์กับคุณ อยากรู้จักกันมั้ย ... ตอนที่อาจารย์ อู๋ เล่าให้ฟัง เราอึ้งไปพักนึง เราถามว่า จริงเหรอค่ะ อาจารย์ตอบว่าจริงสิครับ และอาจารย์ อู๋ แกก็ให้ชื่อและเบอร์โทรผู้ชายคนนั้นกับเรา พร้อมกับอาจารย์ อู๋ แกช่วยเป็นธุระ และช่วยเป็นคนนัดหมาย บอกว่าฝ่ายชายจะโทรหาคุณ ในวันที่ 6 เม.ย. 2565 ประมาณหนึ่งทุ่ม วันนั้นเป็นวันจักรี เราจำได้แม่นเลย เพราะมันเป็นวันหยุด และแล้วผู้ชายคนนั้นก็โทรมาหาเราจริงๆ ตามเวลาที่นัดหมาย เขาแนะนำตัวและบอกว่าอาจารย์ อู๋ ท่านแนะนำมา

พอได้คุยกันก็รู้สึกดี ฟังน้ำเสียงเป็นคนใจเย็นและดูสุภาพ คุยกันได้ไม่นาน เพราะต่างคนต่างเขิน ก่อนจะวางสาย ก็ได้แลก LINE กันค่ะ หลังจากนั้นก็พูดคุยผ่าน VDO Call ได้เห็นหน้ากัน ก็รู้สึกถูกชะตาอยู่เหมือนกัน อยากบอกว่าวิธีคิด ทัศนคติหลายอย่างของเราทั้งคู่ตรงกัน แม้กระทั่งความชอบเรื่องอาหารการกิน หรือการแต่งตัว เรื่องเที่ยว ฯลฯ หลายอย่างชอบเหมือนกัน และก็ไม่ชอบเหมือนกันอีก ตอนออกเดทครั้งแรก ถามเราว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน เราก็เลยลองใจ ตอบไปว่าอยากไปหาอะไรอร่อยๆ กินแถวเยาวราช อย่างรู้เหมือนกันว่า เขาจะเป็นคนติดดินบ้านๆ ธรรมดาๆ เหมือนเรามั้ย หรือชอบกินหรูอยู่สบาย ชอบเดินห้าง ห้องแอร์เย็นๆ กันแน่ ...

ตกลงนัดเจอกันช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ ต่างคนต่างนั่งรถไฟฟ้า ไปเจอกันที่สถานีวัดมังกร พอเจอตัวจริงเราเห็นเขาก็รู้สึกชอบอยู่นะ เรากับเขาก็พากันเดินตระเวนหาของอร่อยๆ ทาน ตามที่บรรดา Youtuber เขา Review กันเอาไว้ พอเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยเจ้าดังก็แวะทาน คนรอกันเยอะเพียบเลย และที่เราแปลกใจสุดๆ คือ พอถึงคิวมีโต๊ะว่าง ก็สั่งก๋วยเตี๋ยวคนละชาม และพูดออกไปพร้อมกันว่า ไม่ใส่กระเทียมเจียว ต่างคนต่างมองหน้ากัน...อ้าว! ไม่ชอบทานกระเทียมเจียวเหมือนกันอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น ทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็แวะเดินชิลๆ ไปเรื่อย แวะตรงนั้นแวะตรงนี้ ซึ่งช่วงเที่ยงช่วงบ่ายอากาศร้อนมาก แต่เขาก็ไม่บ่นกับเราสักคำ ไม่แสดงอาการหงุดหงิดอะไร สำหรับตัวเราถ้าเรื่องกินหรือเรื่อง Shopping ต่อให้เดินไกลแค่ไหนก็สู้ไหวค่ะ ไม่เคยบ่น เราก็เลยลองถามไปว่า เคยมาเดินเยาวราชบ่อยไหม เขาตอบกลับมาว่ามาบ่อยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงเด็ก คุณพ่อ+คุณแม่ของเขาชอบมาเที่ยวมาซื้อของที่เยาวราชอยู่เป็นประจำ เราก็เลยถามต่อไปมาเยาวราชจะชอบไปร้านไหน เขาก็ตอบมาอีกว่า ชอบไปร้านลอดช่องสิงคโปร์ ตรงแยกหมอมี เราแอบอึ้งและคิดในใจ เป็นร้านโปรดของเราเลย ก็เลยตัดสินใจพากันไปนั่งกินเล่นที่ร้านลอดช่องสิงคโปร์ วันนั้นไปตั้งแต่เที่ยงวัน เดินเที่ยวจนถึง 5 โมงเย็น แวะซื้อขนมและของฝาก พอหิวก็แวะกินไปเรื่อย จนเราบอกว่า อยากกลับบ้านล่ะ และเขาก็ตามใจเรา เรียกรถ Taxi นั่งไปส่งเราถึงที่บ้าน แวะมาสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ของเราด้วย แต่เขาขอตัวกลับก่อนเพราะคุณแม่ของเขาโทรมาตาม นับเป็นการออกเดทที่ประทับใจที่สุด ตั้งแต่เคยไปเยาวราชมานะ

หลังจากนั้นไม่นานเราสองคนก็ตัดสินใจลองคบกันดูในฐานะแฟนคะ ตลอดระยะเวลาหลายเดือน เรากับแฟนไม่เคยทะเลาะกันเลยคะ เขาเป็นผู้ชายที่ดูเรียบร้อย และเอาอกเอาใจเก่ง มีเวลาให้เราเสมอ ว่างเมื่อไหร่ก็จะมารับมาส่งพาเราไปเที่ยว ซึ่งแฟนของเราเขาทำอาชีพเป็นวิศวกรที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และครอบครัวของเขามีธุรกิจหอพัก ตอนนี้แฟนเขาเหลือแต่คุณแม่ อีกทั้งเขาเป็นลูกชายคนเดียวด้วยค่ะ และแฟนเคยบอกกับเราว่า จะลาออกจากงานประจำ จะมาดูแลธุรกิจหอพักแบบเต็มตัวแทนคุณแม่ที่อายุมากแล้ว ซึ่งคุณแม่แฟนเป็นคนใจดีมากค่ะ เรารู้สึกว่าท่านเมตตาเรา และเข้ากันคะ คุณแม่แฟนเป็นคนชอบทำกับข้าวชอบเข้าครัว ส่วนเราก็ชอบเป็นลูกมือให้ท่าน ขณะเดียวกันแฟนเราก็เข้ากับครอบครัวเราได้อย่างไม่ติดขัด โดยเฉพาะคุณพ่อกับแฟนชอบปลูกต้นไม้เหมือนกัน คุณแม่และน้องสาวเราก็ชอบในตัวแฟนเราด้วยเช่นกัน เขามีนิสัยใจเย็น แม้ทำอะไรดูช้าดูเฉื่อย แต่รอบคอบ ผิดกับเราแม้เราเองจะเป็นผู้หญิง แต่กลับใจร้อนมากกว่า บ่อยครั้งที่เราใจร้อนหรือหงุดหงิดมาจากที่ทำงาน ก็ได้แฟนนี่แหละคะที่ทำให้ใจเย็นและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ

เวลาผ่านมาจนถึงเดือนตุลาคม 2565 ในวันที่ 26 ซึ่งเป็นวันเกิดของแฟน ก็ได้จัดงานวันเกิดที่บ้าน เราก็ซื้อของขวัญวันเกิดให้เขา แต่แฟนพูดกับเราว่า ของขวัญวันเกิดปีนี้ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม เราก็ถามว่าอยากได้อะไรล่ะ เขาก็บอกว่า “แต่งงานกันนะ” และเขาก็หยิบแหวนวงนึงยื่นให้เราอ่ะ .... วินาทีนั้น มันบอกไม่ถูก แต่ก็พูดกับเขาไปว่า แต่งก็ได้ค่ะ แฟนเราหน้าแดงเชียว เราเองก็เขินเหมือนกัน วันรุ่งขึ้นแฟนเราพาคุณแม่ของเขา มาที่บ้านของเรา เพื่อพบกับคุณพ่อ+คุณแม่ฝั่งเรา ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันอย่างเป็นกันเอง และก็คุยเรื่องแต่งงานของเราทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินสอด เรื่องพิธีการต่างๆ ดูลงตัวไปหมด และคุณแม่แฟนก็พูดขึ้นว่า ยังไงเดี๋ยวจะไปปรึกษาเรื่องฤกษ์แต่งงานกับอาจารย์ อู๋ สมการ ซะก่อน เรากับแฟนนั่งฟังอยู่ ก็พยักหน้าพร้อมกัน และเห็นด้วยว่าต้องไปปรึกษาอาจารย์ ฃอู๋ก่อน เพราะท่านทำให้เราทั้งคู่มาเจอกันมาลงเอยกัน ถือว่ามีบุญคุณต่อครอบครัวเราทั้งสองฝ่าย ช่วงวันหยุดได้โทรนัดหมายล่วงหน้า เพื่อเดินทางไปพบอาจารย์ อู๋ ถึงที่เลยค่ะ พอเจอตัวท่านอาจารย์ เรากับแฟนก็เล่าเรื่องราวเส้นทางความรักทั้งคู่ให้อาจารย์ฟัง...

อาจารย์ อู๋ สมการ ท่านใจดีมากค่ะ ท่านเมตตาคำนวณวันดีวันมงคล+ฤกษ์แต่งงานมงคลสมรสให้ค่ะ เร็วมากค่ะคือ 15 มกราคม 2566 และอาจารย์ อู๋ ยังบอกเงื่อนไขและวิธีแก้เคล็ดเรื่องคู่ของเราทั้งสองอีกด้วยว่า ห้ามจัดงานใหญ่โต ให้อยู่ในวงจำกัดแค่คนสนิท+คนสำคัญในครอบครัวเท่านั้น  และต้องไปปรับเสริมพลังความรักc]tปรับฮวงจุ้ยที่เรือนหอก่อนเข้าพิธีวิวาห์ เราทั้งคู่พอได้ฤกษ์แต่งงานและเงื่อนไขเคล็ดลับที่อาจารย์ อู๋ บอกมา เราก็ทำตามที่อาจารย์บอกทุกประการ คือจัดงานแต่งงานเล็กๆ ที่บ้าน และเชิญอาจารย์ อู๋ สมการมาปรับฮวงจุ้ยเรือนหอที่บ้านฝ่ายชาย ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี บรรยากาศมีแต่เสียงหัวเราะ ความสุข ความอบอุ่น อบอวลอยู่ในบ้านของเราค่ะ

ไม่คิดไม่ฝันค่ะ ว่าจะมีวันนี้ ... อยากจะตระโกนออกไปว่า สละโสดและลงจากคานแล้วจ้า!!! ใครจะไปเชื่อว่า ถ้าคนเราดวงสมพงศ์กันถูกโฉลกกัน อะไรๆ ก็ลงตัวไปเสียหมด ยอมรับว่าตอนนี้เชื่อล่ะ พอถึงวันแต่งงานที่ผ่านมา ช่างเป็นอะไรที่ดูเรียบง่าย แต่ลงตัวเหมาะเจาะไปเสียทุกอย่าง อยากบอกเพื่อนๆ ทุกคนว่า ชีวิตคู่วันนี้ที่มีได้ เพราะอาจารย์ อู๋ สมการจริงๆ พูดได้เต็มปากเต็มคำ ไม่ได้อวยคะ ต้องขอบพระคุณท่านอาจารย์ อู๋ สมการ ที่ช่วยมาเป็นกามเทพ ทำให้เรากับแฟนได้มาเจอกัน มาเป็นสามีภรรยาอย่างสมบูรณ์ จึงขอใช้บทความนี้เป็นกระบอกเสียงบอกต่อถึงเรื่องราวความรักดีๆ พร้อมรีวิวให้อาจารย์ อู๋ สมการเป็นการตอบแทนพระคุณที่ท่านเมตตาเราทั้งคู่ ท้ายที่สุดนี้อยากจะเป็นกำลังใจให้เพื่อนสาวๆ ทุกคนที่กำลังตามหารักแท้ และศรัทธาว่าความรักดีๆ ยังคงมีอยู่ เชื่อว่าสักวันจะต้องได้เจอ หวังว่าเพื่อนๆ คงได้เจอกามเทพที่ดีเหมือนที่เราและแฟนได้เจอกับ อาจารย์ อู๋ สมการนะคะ

นับจากวันแต่งงานก็ผ่านมาประมาณ 1 เดือน จนมาถึงวันวาเลนไทน์ และ (Valentine) ปีนี้ 2566 เป็นวันที่มีความสุข Happy สุดๆ เพราะคุณแฟน...ไม่ใช่สิ ต้องเรียกคุณสามีแล้วแหละ มอบของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยได้รับมา เซอร์ไพรส์ (Surprise) เอามากๆ ค่ะ ก็คือถอยรถใหม่ป้ายแดงมาให้ อย่างที่เห็น อึ้งไปเลยไม่รู้จะบรรยายเป็นคำพูดยังไง ได้แต่ขอบคุณและบอกรักคุณสามีค่ะ ส่วนคุณสามีบอกว่าถือเป็นทั้งของขวัญวาเลนไทน์และของขวัญวันเกิดไปในตัว เพราะเราเองเกิดตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ คุณสามีก็เลยถือโอกาสจัดฉลองวันวาเลนไทน์พร้อมกับจัดงานวันเกิดไปในคราวเดียว คุณสามีพูดกับเราว่า แทนความรักที่ผมมอบให้ ช่างเป็นผู้ชายที่โรแมนติกและทุ่มเทและให้ความสำคัญกับเรามากเพียงนี้ มันเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ ไปเลยค่ะ จนน้องสาวเราแบบอิจฉาเชียว และน้องสาวมากระซิบและอวยพรวันเกิดให้เรา พร้อมกับพูดขึ้นว่า วันหนึ่งหนูจะต้องสมหวังความรักเหมือนกับพี่บ้าง เพราะหนูแอบไปฝากดวงชะตากับ อาจารย์ อู๋ สมการแล้ว เผื่อจะได้ผู้ชายที่ดีดวงสมพงศ์เหมือนอย่างพี่สาวบ้าง เราก็เลยอวยพรน้องสาวกลับไป ขอให้สมหวังเหมือนกับพี่เช่นกันนะจ๊ะ !!!

เพื่อน ๆ ท่านใดที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับดวงและความเชื่อ เล่าสู่กันอ่านได้ที่ เว็บบอร์ด Sanook Horoscope  ยังมีเพื่อน ๆ รอติดตามกันอยู่นะ