รู้ก่อนเชื่อ! ทำไมต้อง “สาธุ” "สาธุ99" เพราะเป็น “คำดี” อย่างนี้นี่เอง
ยุคนี้คำว่า “สาธุ” ไม่ใช่เพียงคำกล่าวจากปากพระสงฆ์หรือฆราวาส แต่ยังเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการแสดงความคิดเห็นผ่านคอมเมนต์ทางโซเชียล ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องทางศาสนา จนหลายคนมองว่าผู้ที่พิมพ์ “สาธุ สาธุ สาธุ” รวมถึง “สาธุ 99” คำที่มีเลขมงคลต่อท้าย เป็นกลุ่มคนที่มีความเชื่อเฉพาะ บ้างถูกชี้ถึงขั้นว่าเป็นผู้ที่ “งมงาย” แต่เมื่อขุดค้นรากศัพท์จะพบว่า คำกล่าว “สาธุ” นั้น มีความชัดเจนโดยเจตนา ด้วยมีความหมายและมีที่มาที่ไปซึ่งควรรู้ไว้ก่อนเชื่อหรือทำตามกัน
“สาธุ” หมายถึงอะไร
สาธุ เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาบาลีและสันสกฤต แปลว่า ดี ถูกต้อง ยอดเยี่ยม ประสบผลสำเร็จ ทั้งในภาษาบาลีและสันสกฤต ใช้คำว่า สาธุ เป็นคำแสดงว่า เห็นด้วยกับเรื่องที่พูดหรือสิ่งที่ทำ หรือใช้ในประโยคคำสั่งหรือขอร้องเพื่อแสดงความสุภาพ
ในบริบททางศาสนา คำว่าสาธุ กล่าวไว้ในคัมภีร์พระสูตรในหลายเหตุการณ์ กล่าวเฉพาะในสังคมไทยปัจจุบัน คำว่า สาธุ เป็นคำที่พระภิกษุสงฆ์ใช้เปล่งเพื่อแสดงว่า เห็นด้วย ยอมรับว่าเหมาะสมดีงาม ฆราวาสมักเปล่งคำนี้เมื่อฟังเทศนาจบ หรือเมื่อพระให้พร ส่วนพระสงฆ์จะเอ่ยคำ สาธุ ออกมาพร้อมกันเพื่อแสดงว่ารับรองมติของที่ประชุมสงฆ์หรือรับรองพิธีกรรมหรือสังฆกรรมที่เพิ่งทำเสร็จสิ้นไป
เช่น ในพิธีทอดกฐิน เมื่อเจ้าภาพกล่าวคำถวายผ้ากฐินแล้ว ภิกษุรูปหนึ่งจะถามว่าควรจะมอบผ้ากฐินแก่ภิกษุรูปใด ภิกษุอีกรูปหนึ่งจะเสนอชื่อภิกษุที่สมควรได้รับผ้ากฐิน เมื่อที่ประชุมสงฆ์มีมติเห็นชอบที่จะมอบให้แก่ผู้นั้นแล้ว จะกล่าวพร้อมกันว่า สาธุ. ในการถวายสังฆทาน เมื่อผู้ถวายกล่าวคำถวายสังฆทานแล้ว พระสงฆ์จะกล่าวว่า สาธุ.
ทำไมต้อง สาธุ
สาธุ ในสังคมไทยรับเอาความหมายเดียวกับบาลีและสันกฤต คือหมายถึง “ดีแล้ว” “ชอบแล้ว” หรือต้องการแสดงความเห็นว่าชอบแล้ว หรืออนุโมทนา จึงมักใช้เข้าคู่กับคำ โมทนา เป็น “โมทนาสาธุ” สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ระบุด้วยว่า สาธุมีลูกคำ คือ “สาธุการ” หมายถึง การเปล่งวาจาว่าชอบแล้วเมื่อเวลาเห็นควรหรือยกย่องสรรเสริญ เช่น แซ่ซ้องสาธุการ กล่าวสาธุการขึ้นพร้อม ๆ กัน อีกคำคือ “สาธุชน” หมายถึง คนดี คนที่มีคุณงามความดี
หากแปลตามความหมายจะเห็นชัดว่า “สาธุ” เป็นคำที่แสดงเจตนาเพื่อการยกย่องสรรเสิญ ในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ยังมีการแสดงให้เห็นว่าใช้เพื่อวอนขอ น้อมรับ และปลอบใจ เป็นต้นว่า สาธุ เม ภนฺเต ภควา สงฺขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตุ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมโดยย่อโปรดข้าพระองค์ด้วยเถิด
ส่วนในคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา ได้จำแนกการใช้คำว่าสาธุไว้ถึง 6 นัยยะ กล่าวคือ
- สุนทระ หมายถึง ดีงาม
- ทัฬหิกัมมะ เป็นการย้ำอีกครั้ง เพื่อให้การกระทำนั้นมั่นคงยิ่งขึ้น
- อายาจนะ เป็นคำอ้อนวอนหรือเรียกร้อง เมื่อเริ่มต้นจะพูดอย่างอื่นต่อไป
- สัมปฏิจฉนะ เป็นการรับคำหรือยอมรับคำพูดของผู้อื่น
- สัชชนะ หมายถึง คนดี
- สัมปหังสา เป็นคำแสดงความยินดีหรือพอใจ
“สาธุ” คือเสียงปรบมือ
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (พิจิตร ฐิตวณฺโณ) สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ได้แสดงธรรมเทศนาในเรื่องนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว ท่านอธิบายว่า สาธุ ในภาษาไทยมีความหมายอย่างน้อย 5 อย่าง
-
สาธุหมายถึง อนุโมทนา แสดงความยินดี ตกลง เห็นด้วย
ท่านยกตัวอย่างว่า “เวลาเราเห็นด้วยกับใครตกลง โอเค เราก็บอกสาธุ เห็นด้วย ๆ สมมุติว่าเราเลือกตั้งเห็นคะแนนเสียงเราก็บอกสาธุ ไม่ต้องปรบมือกราว ๆ เพราะปรบมือเป็นของฝรั่งเขา ของไทยคือสาธุเห็นด้วยเหมาะสมแล้ว หรืออาจารย์รู้ว่าลูกศิษย์กราบสวยอาจารย์ก็บอกสาธุดีแล้วอนุโมทนายินดีด้วย”
-
สาธุ หมายถึง ยังประโยชน์ให้สำเร็จ คือให้สำเร็จประโยชน์
ท่านยกตัวอย่างว่า “ได้ยินคำว่า มัตตัญยุตตา สทา สาธุ ความรู้จักประมาณให้สำเร็จประโยชน์เสมอ”
-
สาธุ หมายถึง ขอให้สมพรปากกับคำอวยพรที่ท่านให้
ท่านยกตัวอย่างว่า “อันนะภาระในครั้งสมัยพุทธการเป็นคนยากจนเข็ญใจทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้อธิฐานว่าคำว่าจนอย่าได้มีและจงได้รู้ธรรมอย่าง ท่านพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ให้พรว่า อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปาจันโท ปัณณะระโส ยะถา มะณิ โชติระโส ยะถา แปลว่า ขออิฏฐผลที่ท่านปรารถนาแล้วตั้งใจแล้วจงสำเร็จโดยฉับพลัน ขอความดำริทั้งปวงจงเต็มที่ เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เหมือนแก้วมณีอันสว่างไสวควรยินดี ฯ จึงรับว่าสาธุขอให้สมพรปากท่าน”
-
สาธุ เป็นสำนวนของพระ หมายถึง ขอโอกาส
ท่านยกตัวอย่างว่า “อย่างสมมุติว่าจะอาราธนาศีลก็จะขึ้นว่า สาธุ สาธุ มะยัง ภันเต เคยได้ยินบ้างไหม เหมือนกับว่าคนเป็นครูบาอาจารย์จะทำอะไรก็ขอโอกาส พระเถระเสียก่อนเช่น จะเปิดหน้าต่างก็ ขอโอกาสท่านอาจารย์ครับผมจะเปิดหน้าต่าง ทำอะไรต้องบอก ผู้ใหญ่เสียหน่อย ไม่ใช้ทำพรวด ๆ ไปขาดความเคารพ การทำขอโอกาสอย่างนี้ท่านเรียกว่าสาธุภาษาบาลี ภาษาไทยว่าขอโอกาส”
-
สาธุ หมายถึง แสดงความต้อนรับแสดงความยินดีไชโยโห่ร้องกราบไหว้
ท่านยกตัวอย่างว่า “เวลาสมเด็จสังฆราชหรือใครก็ตามเสด็จไปต่างประเทศ ต่างประเทศเช่นเนปาลเขานิยมเวลามาต้อนรับเขาจะร้องสาธุตลอดทาง ที่มาต้อนรับ สาธุตัวนี้ก็คือขอยินดีต้อนรับ”
“สาธุ” ด้วยเจตนาดี
ดังความหมายที่กล่าวมาแล้วนั้น เห็นได้ว่าในกลุ่มสาธุชนนิยมใช้คำว่า สาธุ ด้วยเจตนาเดียวดังสงฆ์ คือ เห็นชอบ เห็นว่าดีงาม เช่น เมื่อเห็นใครไหว้พระ ทำบุญ โพสลงโซเชี่ยล หากรู้สึกยินดีในการกระทำนั้นจึงมักแสดงความเห็นชอบด้วยคอมเมนต์ว่า “สาธุ” หรือ “ขออนุโมทนาสาธุด้วยคน” ส่วน “สาธุ 99” เป็นการแสดงการยอมรับเช่นกัน แต่ต่อท้ายด้วยเลขมงคลตามความเชื่อ ด้วยเลข 9 สื่อถึงความก้าวหน้ารุ่งเรือง
รวมไปถึงเมื่อได้รับคำอวยพร หรือแม้แต่การอ่านคำพยากรณ์ดวงชะตาที่ถูกทำนายทายทักว่าจะมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้น การตอบคอมเมนท์ว่า สาธุ จึงเป็นการแสดงการยอมรับว่าเหมาะสมดีงาม ขอให้สมพรปากหรือเป็นจริงดังคำนั้น ๆ นอกจากเป็นการตอบรับอย่างสุภาพ ในกลุ่มผู้มีความเชื่อด้านโหราศาสตร์ยังเชื่อด้วยว่า เป็นวิธีการหนึ่งที่แสดงถึงการเปิดใจ เปิดรับพลังงานที่ดีเข้ามาหาตนเอง หรืออาจเป็นกุศโลบายหนึ่งที่นำพาให้ตนเองมองเห็นเรื่องต่าง ๆ ในด้านบวกมากขึ้น
นอกจากนี้ “สาธุ” ยังเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อแสดงความเคารพ โดยกร่อนเสียง เป็น “ธุ” ดังที่เห็นผู้ปกครองรุ่นก่อนมักสอนเด็ก ๆ ให้ยกมือไหว้พระ หรือไหว้ผู้ใหญ่ โดยบอกว่า “ธุจ้า” เช่น “ธุจ้าย่าก่อนลูก” ซึ่งหมายถึงให้ลูกไหว้สวัสดีหรือขอบคุณคุณย่าก่อน
ดังนั้นการใช้คำว่า “สาธุ” ไม่ว่าด้วยการเปล่งวาจา การพิมพ์คอมเมนท์ หรือเพียงกล่าวหรือคิดในใจ ล้วนหมายถึงการแสดงถึงการยอมรับต่อเรื่องดี เป็นคำที่ใช้แสดงการยอมรับการกระทำของผู้อื่นด้วยความสุภาพ อันเป็นพื้นฐานของ “สาธุชน”
หากใช้ด้วยเจตนาเช่นนี้ ก็มิใช่เรื่องผิดแปลกหรือไร้ประโยชน์แต่อย่างใด