ทำนายทายทัก : ของขวัญปีฉลู หินสี สินแร่จากธรรมชาติ-พลังแห่งชีวิต
พนิดา สงวนเสรีวานิช - เรื่อง พัทรยุทธ ฟักผล -ภาพ ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว ห้วงเวลานี้นอกจากจะเป็นห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ห้วงเวลาแห่งการรื่นเริง ยังเป็นห้วงเวลาของการมอบของขวัญให้แก่กัน แต่จะเลือกอะไรดีล่ะ โดยเฉพาะกับปีนี้ที่ใครๆ ก็ย้ำนักย้ำหนาว่า เผาจริง เดินเลือกหาอยู่นานก็มาพบกับ "ตัวเลือก" หนึ่งที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยม นั่นคือ "หิน" ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะบอกว่า ให้หินแทนความหนักแน่น แต่มาถึงยุคนี้ หิน มีความหมายมากกว่านั้น "หิน" เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล เป็นเสมือนขุมพลังของผู้สวมใส่ ที่วันใดเมื่อเจ้าตัวมีพลังเหลือเฟือจะส่งไปกักเก็บอยู่ภายในหิน ต่อเมื่อถึงคราวที่อ่อนเปรี้ย เพลียแรง หรือเครียดๆ พลังจากหินจะส่งกลับมาให้กับผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า พลังจากหินสามารถช่วยบำบัดรักษาโรคได้อีก บางคนอาจจะมองว่าเพราะคนยุคนี้ขาดที่พึ่งทางใจ จึงเพียรหาอะไรที่สามารถเป็นที่พักพิงให้กับจิตใจที่กำลังอ่อนแอ สับสนวุ่นวาย หรืออย่างน้อยก็ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับตน ถ้าว่ากันตามหลักการ เรื่องนี้ก็มีเหตุผลรองรับอยู่ อย่างในศาสตร์ของจีนโบราณ มีการใช้หินเพื่อการบำบัดโรคมานานแล้ว หรือในอียิปต์โบราณ กรีก และประเทศในเอเชียตะวันออกหลายแห่ง มีหลักฐานแสดงถึงการนำหิน มาใช้ในการรักษา หลักฐานเก่าแก่ที่กล่าวอ้างถึงการรักษาสุขภาพ ปรากฏอยู่บนกระดาษปาปิรุสของอียิปต์ อายุราว 1,500 ปีก่อนคริสตกาล เขียนถึงการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ หนึ่งในนั้นมีวิธีการใช้หินและรัตนชาติเพื่อการบำบัดอยู่ด้วย รวมทั้งการใช้หินเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องสำอาง
เช่น พระนางคลีโอพัตราที่นิยมนำหินสีเขียวมาบดละเอียดทำเครื่องสำอางทาเปลือกตา หิน จึงเป็นคำตอบ แต่การจะเลือกซื้อหินชนิดไหน อย่างไร ก็มีหลักการอยู่เช่นกัน ขึ้นกับชนิดและสีของหินด้วย อาทิ "สีเขียว" เชื่อว่านอกจากจะทำให้จิตใจสงบ นอนหลับสบาย ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล "สีน้ำเงิน" ให้ความสดชื่น ร่าเริง "สีขาว" ลดความวิตกกังวล ช่วยให้การทำงานของไตมีความสมดุล "สีแดง" กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต "สีเหลือง" เสริมภูมิคุ้มกัน "สีดำ" ลดอาการเจ็บปวด ฯลฯ ดร.พิมพ์อุไร ลิมปพัทธ์ แห่ง "เดอะ บีด คลับ" (The Bead Club) ผู้ที่หลงใหลเสน่ห์ของหินและลูกปัด เล่าให้ฟังว่า หินนั้นถือเป็นสิ่งมีค่ามาแต่สมัยโบราณ และใช้เป็นเครื่องบรรณาการมาแต่อดีต "เวลาที่ฝรั่งพูดถึง "หิน" จะหมายรวมไปถึงเพชรด้วย แต่คนไทยจะแบ่งลักษณะความมีค่าเป็นหินรัตนชาติ และความนิยม ความนิยมของหินจะขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละประเทศ เช่น ประเทศเปรูจะนิยมหินสีดำที่ได้จากพื้นดินที่ดำสนิทเท่านั้น ถือว่าหมายถึงความมั่นคงของประเทศของเขา ลักษณะของหินที่ว่าจะคล้ายกับหินภูเขาไฟ ยิ่งมีรูพรุน มีการกัดเซาะของน้ำ-ลม ยิ่งสื่อถึงความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมของเขา ส่วนใหญ่จะใช้ในการรักษาโรค รวมทั้งเป็นเครื่องประดับ หรืออย่างในมลรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมองว่าเทอร์คอยซ์เป็นผืนฟ้าของเขา จึงนับถือเป็นที่สุด"
ดร.พิมพ์อุไร บอกอีกว่า แต่โบราณกาลหินเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานภาพของผู้สวมใส่ว่าอยู่ในระดับใด อย่าง ที่ประเทศทิเบตจะมีหินอยู่ 3 อย่างที่ใครมีไว้ในครอบครอง หมายถึงการเป็นผู้ที่มีสถานภาพทางสังคมที่สูง อย่างน้อยอยู่ในระดับเสนาบดี หินทั้ง 3 ชนิดนั้นก็คือ เทอคอยซ์ อำพัน และปะการัง ในวันที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จมาเยือนประเทศไทย จะเห็นว่าแม้แต่เจ้าหญิงของภูฏานก็จะสวมหินทั้งสามชนิดนี้ 1.ไทเกอร์ อายส์ 2.โกเมน 3.อำพัน 4.แจ๊สเปอร์ 5.โรส ควอทซ์ 6.อาเกต 7.โรโดโครไซด์ ในประเทศไทยเอง เมื่อก่อนก็นิยมเครื่องประดับอัญมณีที่เรียกว่า "นพเก้า" ประกอบด้วย เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ มาทำเป็นหัวแหวน จี้สร้อยคอ และต่างหู สวมใส่กันเป็นชุดใหญ่ สำหรับการใช้หินเพื่อการบำบัดเพิ่งจะแพร่หลายกันมาไม่นาน แต่ความเชื่อในด้านโชคลาง สวมใส่เป็นเครื่องประดับแล้วจะส่งเสริมสิริมงคล เสริมอำนาจบารมี หรือปกป้องคุ้มครองนั้นมีมานานแล้ว เลือกหินสีสำหรับปีเกิด สำหรับเคล็ดลับการเลือกหินสำหรับเป็นของขวัญของฝาก
ในปีฉลู ดร.พิมพ์อุไร บอกว่า ปีหน้าเนื่องจากเป็นปีฉลู ฉะนั้นหินที่ถูกโฉลกจึงเป็น "โอปอล" เชื่อว่าโอปอลจะนำแสงสว่างมาให้กับชีวิต ทำให้ชีวิตสดใส และช่วยเสริมเสน่ห์ "โดยเฉพาะ "คนที่เกิดปีฉลู" และ "ราศีตุลย์" ปีหน้าเลือกใช้ "โอปอล" เหมาะที่สุด ถือว่าได้ 2 เด้ง" ผู้เชี่ยวชาญด้านหินและลูกปัดผู้นี้ บอกอีกว่า โอปอลที่สวยเป็นมาจากประเทศเม็กซิโก มีหลายสีเหมือนสีรุ้ง หายากมาก ถ้าเป็นสีน้ำตาลจะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า
"โอปอล โครอยต์" โดยมากที่นิยมกันจะเป็นโอปอลจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีสีฟ้าใสและสีน้ำนม บางแห่งจะนำโอปอลมาบด และนำผลึกมาทำเป็นหัวแหวน ส่วนปีราศีอื่นๆ ก็เหมาะกับหินแตกต่างกันออกไป เช่น "ปีชวด" ในปีหน้าถูกโฉลกกับ "โกเมน" "ปีขาล" ถูกโฉลกกับ "อะความารีน" "ปีเถาะ" ถูกโฉลกกับ "มรกต" "ปีมะโรง" ถูกโฉลกกับ "ทับทิม" "ปีมะเส็ง" ถูกโฉลกกับ "ควอทซ์" "ปีมะเมีย" ถูกโฉลกกับ "ซัลไฟร์" "ปีมะแม" ถูกโฉลกกับ "มุกดาหาร" "ปีวอก" ถูกโฉลกกับ "ทับทิม หรือ ซิทริน" "ปีระกา" ถูกโฉลกกับ "โกเมน" "ปีจอ" ถูกโฉลกกับ "มรกต" "ปีกุน" ถูกโฉลกกับ "ทับทิม" กรณีที่ไม่ทราบปีเกิดของบุคคลผู้ที่เป็นเป้าหมาย ดร.พิมพ์อุไร แนะว่า ในบรรดาหินทั้งหลายมีหินหลายชนิดที่มีคุณสมบัติที่เป็นกลาง หมายความว่าเหมาะกับชายก็ได้ หญิงก็ดี
ตัวอย่างเช่น ไทเกอร์ อายส์, อาเกต, คาเนเลี่ยน, ลาพีส ลาซูลี่, มาลาไคท์, เทอร์คอยซ์, อำพัน ฯลฯ "ถ้าเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่ที่นิยมซื้อหาเป็นของขวัญของฝากจะเป็น "ไทเกอร์ อายส์" เป็นหินที่มีคุณสมบัติในการปกป้อง มีความแกร่งของผู้ชาย โดยเฉพาะคนที่เดินทางบ่อยๆ จะนิยมสวมใส่ไทเกอร์ อายส์ ซึ่งช่วยปกป้องสิ่งเลวร้ายทุกชนิดให้พ้นจากตัว" อีกชนิดคือ "อาเกต" ที่ ดร.พิมพ์อุไร บอกว่า อาเกตเป็นหินที่นิยมนำไปทำเป็นหินทิเบต มีตั้งแต่สีดำเข้ม น้ำตาล ไปจนถึงสีใส เสน่ห์ของอาเกตก็คือ ลักษณะลวดลายที่เป็นชั้นๆ ในเนื้อหิน "อาเกต ป้องกันภัยดีมาก ใช้กันผี กันมนต์ดำโดยตรง" ส่วน "คาร์เนเลี่ยน" มีคุณสมบัติที่ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีมาก เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตและโรคหัวใจ หินอีกชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นกลาง เหมาะทั้งหญิงและชาย คือ "ลาพีส ลาซูลี" "ลาพีส ลาซูลี" เป็นหินเจ้าพลัง สมัยโบราณเป็นหินที่พระนางคลีโอพัตราใช้บดและนำมาทาเปลือกตา นอกจากนี้ ลาพีส ลาซูลี ยังมีคุณสมบัติในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับช่องคอ รักษาเส้นเสียง คอเจ็บ--เจ็บหน้าอก ก็ใช้ได้ ฉะนั้นคนที่เป็นหวัดเป็นโรคประจำตัว เชื่อว่าใส่ลาพีส ลาซูลี แล้วอาการจะดีขึ้น
1.ทูมารีน
2.ลาพีส ลาซูลี
3.เทอร์คอยซ์
4.คาร์เนเลี่ยน
5.มาลาไคต์
"มาลาไคต์" ก็เป็นหินที่มีความเป็นกลางอีกชนิด มีคุณสมบัติแห่งการปกป้อง อาจกล่าวได้ว่า "มาลาไคต์" เป็นหินต้องห้ามของดินแดนไอยคุปต์ ที่พระนางคลีโอพัตราสามารถใช้ได้เพียงพระองค์เดียว โดยใช้บดเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง สำหรับทาเปลือกตา สำหรับผู้หญิง หินที่มีความเป็นกลาง ถ้าไม่นับเพชร จะเป็น "โรส ควอทซ์" หินแห่งความรัก ที่แสดงความเป็นอิสตรีอย่างแท้จริง ในยุคกลางของยุโรป นิยมใช้ "โรส ควอทซ์" เป็นสัญลักษณ์แสดงการเชิดชูเกียรติ โดยนำมาจัดทำเป็นของขวัญ เช่น นาฬิกาแขวนประดับ ชุดประกอบบนโต๊ะอาหารที่หรูหรา และของมีค่าแทนความรัก เนื่องจากสีสันที่เหมือนดอกกุหลาบ เฉดสีชมพูใส สีแดงอมชมพู "โรโดโครไซด์" เป็นหินที่แสดงความเป็นครอบครัวที่แข็งแกร่ง หมายถึงความสามัคคี ความมีสัมพันธภาพที่ดี "อำพัน" เป็นหินอีกชนิดที่เหมาะกับสตรี เชื่อกันว่าเป็นแสงสว่างที่ส่องนำทางชีวิต มีสีตั้งแต่สีเหลืองใส เหลืองทอง ไปจนถึงสีน้ำตาล เป็นหินที่มีคุณสมบัติในการปกป้องคุ้มครองสูงมากอีกชนิดหนึ่ง ใช้เป็นเครื่องรางของขลังได้ คนญี่ปุ่นเชื่อว่าอำพัน สามารถกระตุ้นให้จิตใจเกิดความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ทั้งนี้ เรื่องชนิดของหินและสีของหินที่ต้องโฉลกกับแต่ละราศีนั้นถ้าจะว่าไปเป็นเรื่องของ "ความเชื่อ" เหนืออื่นใดคือ ความมั่นใจของผู้ที่สวมใส่หินเหล่านั้น อย่างที่ ดร.พิมพ์อุไร บอกว่า โดยส่วนตัวแล้วชอบหินทุกชนิดทุกสี การที่ได้สวมใส่หินที่รักที่ชอบทำให้รู้สึกมีสุข และมีความมั่นใจแบบสุดๆ "ตอนนี้สถานการณ์บ้านเราและโลกทั้งโลกอึมครึมไม่สดใส ถ้าให้แนะนำ อยากจะแนะให้สวมใส่หินชนิดใดก็ได้ที่มีสีสันสดใส เพราะจะให้ความรู้สึกที่สดชื่นต่อจิตใจ ไม่อยากให้ "สี" กลายเป็นสิ่งที่แบ่งแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย...อย่าทำร้ายสีเลย เพราะหินในธรรมชาติทุกชนิดมีสีที่สวยงามของตนเองอยู่" ไม่ว่าเหลือง แดง เขียว ขาว เอาเป็นว่า...เรื่องอย่างนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล!
หินจักรราศี มงคลแห่งชีวิต "หิน" นอกจากผู้สวมใส่จะนิยมใส่ตามปีเกิดแล้วยังนิยมสวมใส่ตามจักรราศีด้วย ดังนี้
@ ราศีกุมภ์ (21 มกราคม-18 กุมภาพันธ์) ว่ากันว่าคนราศีนี้รักอิสระ รักพวกพ้อง ชอบคิดและทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน แต่มีเพื่อนเยอะ ฉะนั้น จึงเหมาะกับ อาเมทีสต์(Amethyst) หรือ พลอยสีม่วง เพราะบ่งบอกถึงหัวใจที่เป็นอิสระ ความจริงใจและความซื่อสัตย์ หรือหากจะใช้ไพลิน หรือ โกเมน ก็สามารถใช้ได้ไม่ว่ากัน
@ ราศีมีน(19 กุมภาพันธ์-20 มีนาคม) อัญมณีที่เหมาะกับราศีนี้ คือ อความารีน (Aquamarine) พลอยที่มีตั้งแต่สีเขียวน้ำทะลจนถึงสีฟ้าเข้ม เป็นอัญมณีที่นำความสมบูรณ์และยิ่งใหญ่มาให้ ช่วยให้จิตใจสงบ อ่อนโยน ถือเป็นอัญมณีนำโชคของชาวเรือและชาวทะเล ช่วยบรรเทาอาการเมาคลื่นและอุบัติภัยได้ นอกจากนี้ยังมี อาซูไรต์(Azurite) หินสีน้ำเงินเข้ม เป็นแร่โคบอลต์ มักใช้ในการนั่งสมาธิ ช่วยปลุกพลังแห่งจิตวิญญาณ การรับรู้และสัมผัสพิเศษ บลัดสโตน(Bloodstone) และอาเมทิสต์ (Amethyst) ที่มีสีม่วง
@ ราศีเมษ (21 มีนาคม-20 เมษายน) อัญมณีสำหรับชาวราศีเมษ คือ เพชร สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความสำเร็จและกระตุ้นให้เกิดความกล้าหาญ ซึ่งดูแล้วเหมาะกับนักริเริ่ม นักบุกเบิกที่แข็งแกร่งอย่างชาวเมษ นอกจากนี้อาจใช้ไทเกอร์ อายส์, เพทาย พลอยสีใส และพวกควอทซ์ใสทุกชนิด หรือ อาเกตขาวก็ได้
@ ราศีพฤษก(21 เมษายน-20 พฤษภาคม) คนราศีพฤษภ เหมาะกับพลอยสีเขียว เช่น มรกต สัญลักษณ์ของความมั่นคง ความยั่งยืนเป็นอมตะ หยก ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน ค้าขายรุ่งเรือง และ โมราสีเขียว สัญลักษณ์ของทรัพย์สิน ความมั่งคั่งร่ำรวย
@ ราศีมิถุน(21 พฤษภาคม-20 มิถุนายน) เพราะชาวราศีมิถุนเป็นผู้แคล่วคล่องว่องไว ชอบเจรจา จึงเหมาะกับไข่มุกและมุกดาหาร เชื่อว่าสามารถกระตุ้นพลังงานและเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้สวมใส่ นอกจากนี้อัญมณีสีขาวซีด หรือขาวขุ่น ก็เป็นอัญมณีประจำราศีมิถุนเช่นกัน เช่น มูนสโตน
@ ราศีกรกฎ(21 มิถุนายน-20 กรกฎาคม) อัญมณีของชาวกรกฎ เป็นอัญมณีสีขาวและสีเงิน จึงเหมาะกับ ไข่มุก ที่ช่วยเสริมสง่าราศี และเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนและการปกป้อง มุกดาหาร หินสีขาวใสถึงขุ่น ผิวเรียบเนียน มันวาว แสงสะท้อนจะดูนวลตา เชื่อว่าเป็นหินที่ช่วยให้รับความรู้สึกต่างๆได้ดีขึ้นโดยเฉพาะความรัก ความอ่อนโยน ความสงบ หรือ เทอร์คอยซ์ และ พลอยสีเขียวขุ่น ก็ใช้ได้เช่นกัน
@ ราศีสิงห์(21 กรกฎาคม-20 สิงหาคม) อัญมณีสีเขียวใส หรือ เพอริโดต์ (Peridot) คืออัญมณีประจำราศีสิงห์ เป็นอัญมณีที่มีพลังแห่งดวงอาทิตย์แฝงอยู่ จึงสามารถขับไล่วิญญาณของภูตผีปีศาจได้ ทำให้ผู้สวมใส่มีอำนาจบารมียิ่งใหญ่ จึงเหมาะกับชาวราศีสิงห์ แต่เพราะเพอริโดต์ เป็นพลอยที่มีความแข็งไม่มาก จึงเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่ถ้าหากต้องการอัญมณีที่มีความแข็งมากกว่านี้ก็ใช้ ไพฑูรย์ตาแมว ทับทิม ก็ถือเป็นอัญมณีของราศีนี้ได้เช่นกัน ถือเป็นเครื่องรางเพิ่มความกล้าหาญและความสง่างาม
@ ราศีกันย์(21 สิงหาคม-22 กันยายน) แจสเปอร์ ถือว่าเป็นอัญมณีที่สื่อถึงลักษณะของชาวราศีกันย์ได้ชัดเจนมาก เพราะใช้ในการรักษาความปลอดภัย และการดิ้นรนอยู่รอด ทำให้ผู้สวมใส่มีหลักการในการดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย หรือใช้เป็นโรส ควอทซ์ และ คาเนเลี่ยน ก็ได้เช่นกัน
@ ราศีตุลย์ (23 กันยายน-20 ตุลาคม) คนรักสงบ ประนีประนอมอย่างราศีตุลย์ เหมาะกับ โอปอล ซึ่หมายถึง ความสุขและความสมหวัง สามารถนำความรักและความสุขมาให้กับผู้สวมใส่ โดยเฉพาะโอปอลสีเข้ม หรือ แบล็กโอปอล นอกจากนี้ เลพิโดไลท์ หินสีชมพูออกม่วง สำหรับผู้ที่ปัญหาด้านความรัก อกหักรักคุด ช่วยให้เปิดกว้างรับสิ่งดีๆเข้าสู่จิตใจ
@ ราศีพิจิก(21 ตุลาคม-20 พฤศจิกายน) เพราะ ชาวพิจิก เป็นผู้มีความห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว แต่มุทะลุดุดัน จึงคู่กับ บุษราคัม ทับทิม นอกจากนี้ ซิทริน หรือคริสตัลเหลือง ช่วย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ให้กำลังใจและความเชื่อมั่น ช่วยในการตัดสินใจเมื่อต้องเสี่ยงหรือต้องเลือก
@ ราศีธนู (21 พฤศจิกายน-20 ธันวาคม) เทอร์คอยซ์ หินสีเขียวน้ำทะเล และ เพทายสีฟ้า คือ อัญมณีของราศีนี้ หมายถึงความร่ำรวยและความมั่งคั่ง เทอร์คอยส์ยังมีคุณสมบัติด้านความรักความเมตตา และช่วยเสริมสร้างสติปัญญา
@ ราศีมังกร (21 ธันวาคม-20 มกราคม) คนราศีนี้เป็นคนจริงจัง มีระเบียบแบบแผน แต่มักจะวิตกกังวล จึงส่งผลเสียต่อสุขภาพ และมักจะเจ็บป่วยแบบผู้สูงอายุ เช่น ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดหลัง จึงเหมาะกับ โกเมน จะช่วยให้ผู้สวมใส่มีสุขภาพที่ดี หรือถ้าจะเป็นเพชร ก็ไม่ขัดข้อง
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ