ยันต์คืออะไร ทำอย่างไรจะใช้เครื่องรางได้ผล โดย การะเกต์พยากรณ์
การะเกต์พยากรณ์ นักพยากรณ์และโหราเวทย์ไทย คลายข้อข้องใจหลายคนสงสัยว่า ยันต์คืออะไร ส่งผลดีร้ายอย่างไร หรือมีอิทธิฤทธิ์ประการใด กระทบต่อผู้บูชามากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงหากบูชายันต์มีข้อปฎิบัติอย่างไร ทำอย่างไรจะใช้เครื่องรางได้ผล ดังนี้
อยากจะเล่าถึงพลังงานที่อยู่ในยันต์ และวิธีการใช้ยันต์สักหน่อยนะคะ
ยันต์ หากจะถือเอาตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายไว้ว่า
หมายถึง *ตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข อักขระหรือรูปภาพที่เขียน สัก หรือแกะสลักลงบนแผ่นผ้า ผิวหนัง ไม้ โลหะ เป็นต้น*
ขณะที่หากสะกดตามแบบภาษาบาลี พ้องเสียงโดยเปลี่ยนรูป คำว่า “ยัญญ์”
เคยมีผู้อธิบายไว้ว่า หมายถึงสิ่งที่มนุษย์พึงเซ่นสรวงให้มีความสุขความเจริญ
แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว และในหลักวิชาที่ได้เรียนตรงมาจากพ่อ
สำหรับผู้พยากรณ์แล้ว ยันต์ หรือ เครื่องราง เป็นทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ ในเวลาเดียวกัน
เหมือนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ถ้าจะเทียบให้เข้าใจง่ายๆ
.
.
องค์ประกอบของยันต์ หากเรามองด้วยตาเปล่า คือ วัสดุที่จารึกภาพหรือตัวอักขระเอาไว้ ซึ่งสิ่งนี้แหละ คือฮาร์ดแวร์
แต่ภาพและอักขระ ที่จารึกลงไปในยันต์นั้น ไม่ใช่สักแต่จะเขียนๆ ลงไป จะต้องประกอบไปด้วยการจัดสร้างในฤกษ์เวลาอันเหมาะสม
(ฤกษ์ คือการใช้หลักโหราศาสตร์ พลังจากดินจากฟ้า จากกระแสดึงดูดทำมุมระหว่างดวงดาวต่างๆ มากำหนดเป็นไทม์ไลน์ในการกระทำสิ่งที่ประสงค์, การประจุพลังเวทย์ลงไปในวัสดุ และ การส่งมอบอุปกรณ์ดังกล่าว ให้ผู้ที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ ได้นำไปใช้
- แผ่นยันต์ = วัสดุ-ฮาร์ดแวร์ชิ้นหนึ่ง
- อักขระ รูป = สิ่งที่ปรากฎอยู่ในจอฮาร์ดแวร์ ผ่านการทำงานของซอฟแวร์ที่ออกแบบมาล่วงหน้า ว่าจะให้แสดงผลอย่างไร
- พลังในยันต์ = ประจุพลังงานที่เคลื่อนไหวอยู่ในวัสดุฮาร์ดแวร์นั้นๆ เป็นการทำงานร่วมระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟแวร์
(ซึ่งในข้อนี้ เป็นสิ่งที่อาจไม่สามารถจับต้องได้ เหมือนเรารู้ว่า ในอากาศมีคลื่นเสียงต่างๆ ท่วมท้นอยู่ และเราจะได้ยินเสียงเหล่านั้น เมื่อ "หู" ของเรา มีชิ้นส่วนที่ทำงานกับคลื่นเสียง และแปรเป็นสัญญาณให้เรา "ได้ยิน"
นอกจากนั้น ในโลกปัจจุบัน เรายังสามารถ "ฟัง" เสียงต่างๆ ด้วยอุปกรณ์ตัวช่วยอีกมากมาย ที่ทำหน้าที่เป็น "สื่อนำสัญญาณเสียง" มาสู่หูของเรา)
.
.
ในทางหนึ่ง ตัวยันต์เอง ก็เป็นเหมือน แชนแนลหรือช่องทางหนึ่ง ที่เปิดรับเอาพลังจากสิ่งที่มองไม่เห็น
ตามแต่การจะกำหนดไว้ล่วงหน้า ว่าผู้ประกอบสร้าง จะคัดสรรพลังแบบไหนเข้ามาไว้ในวัสดุฮาร์ดแวร์ตัวนั้นๆ
ซึ่งแน่นอนว่า การทำงานในเรื่อง "พลังงาน" เหล่านี้ เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ชัดเจน ดังที่ถึงถูกเรียกว่า เรื่องลี้ลับ บ้าง เรื่องเหนือธรรมชาติบ้าง หรือฟังดูเหมือนเรื่องเหลวไหลงมงายก็มี
ทั้งนี้ เพราะการดีลกับชุดพลังลักษณะนี้ ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์เฉพาะตน
.
.
ยกตัวอย่าง
เหมือนคนที่รู้ว่าอินเตอร์เน็ต คืออะไร Wi-Fi คืออะไร กับคนที่ไม่รู้ว่า อินเตอร์เน็ตคืออะไร ไวไฟทำงานยังไง หรือรู้ว่ามีโลกในอินเตอร์เน็ตคู่ขนานอยู่ แต่ไม่มีรหัสสัญญาณที่จะเข้าไปเชื่อมต่อกับโลกนั้นๆ...
ลองปิดสัญญาณไวไฟ ปิดมือถือ ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วกลับมานั่งจ้องมองทุกสิ่งรอบตัว โลกก็จะเหมือนมีแต่โลกจริงในปัจจุบัน (ออฟไลน์) ส่วนโลกที่ซ้อนขนานกันอยู่ (ออนไลน์) ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะจับต้องโดยปรากฎได้ต่อหน้า
คนที่เคยใช้อินเตอร์เน็ตมาแล้ว จะรู้ว่าโลกออนไลน์ใบนั้นยังคงอยู่ มีอยู่ มีจริง และมีความเคลื่อนไหวอึกทึกมากมายในนั้น
ส่วนคนที่ไม่รู้จักโลกอินเตอร์เน็ตเลย ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน ให้อธิบายแทบตาย เขาก็อาจจะคิดภาพไม่ออก และทุกสิ่งก็ย่อมจะ "มหัศจรรย์" ไปหมด
จนกว่าจะรู้ว่า มันเป็นเพียงเรื่องธรรมดา เพียงว่าเพิ่งได้รู้จักมันเท่านั้น
.
.
สำหรับผู้พยากรณ์แล้ว เครื่องรางคือตัวประจุพลังงานในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมันจึงขึ้นอยู่กับว่า ตัวมันบรรจุพลังแบบไหนไว้
ผู้จัดสร้างมันมานั้น ได้โปรแกรมอะไรลงไป
ได้ออกแบบให้มันประมวลผลในเรื่องไหนอย่างไร
(ยังไม่ต้องพูดถึงของปลอม ของ Copy ที่อาจเหมือนเพียงรูปลักษณ์ แต่ไม่มีพลังจริงอยู่)
และสิ่งสำคัญอันหนึ่ง ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบก็คือ เครื่องรางจำนวนมาก ต้อง Activate หรือเข้ารหัสกระตุ้นการใช้งาน เพื่อเริ่มต้นการเซ็ทอัพ จูนพลังของเครื่องรางให้เชื่อมต่อตรงกับตัวบุคคล
พูดง่ายๆ ว่า ให้เราได้เริ่มต้นใช้งานมันได้
นอกจากนั้น ยังมีเคล็ดลับอีกอันหนึ่งว่า เครื่องราง สามารถ On และ Off ได้เช่นเดียวกับสิ่งอื่นๆ
การสักการะบูชา การสวดมนต์ด้วยคาถาของยันต์ การลูบคลำสัมผัส การพกพาติดตัว การสวมใส่เครื่องราง จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดการทำงานของยันต์ กระตุ้นการทำงานของยันต์ และให้ยันต์เป็นหนึ่งในช่องทาง (Channel) ที่จะเชื่อมต่อพลังงานทั้งในตัวยันต์ และที่จะเข้ามาเติมประจุในยันต์ และเชื่อมต่อคอนเน็คกันกับผู้เป็นเจ้าของ
ยันต์ที่แอ็คติเวทอย่างถูกต้อง เชื่อมต่อกับเจ้าของได้แล้วเต็มที่ จึงสามารถนำพา โชค หรือ สิ่งที่มุ่งหวังประสงค์ มาสู่เจ้าของได้จริง
และของเหล่านี้ ถึงได้บอกว่า มันเป็นวิธีการเฉพาะ ที่ผู้มีประสบการณ์ตรงส่วนบุคคลเท่านั้น จึงจะทราบได้
อ้อ! อีกเคล็ดลับหนึ่ง ยันต์ที่มีประจุพลังงานดีๆ เต็มที่ จะมีพลังพอที่จะรับเอาแรงอธิษฐานของเจ้าของ ไปเสาะแสวงหาจับคู่สิ่งที่เจ้าของต้องการ แล้วนำเอาพลังเหล่านั้นย้อนกลับมาให้
อย่างอาจเรียกมันได้โดยย่อว่า การดลบันดาล
.
.
สำหรับผู้พยากรณ์แล้ว การทำงานกับกลุ่มพลังที่จัดเป็นศาสตร์ทางเลือกเหล่านี้ มีความละเอียดอ่อน และมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย
และอยากบอกอีกครั้งว่า ผู้พยากรณ์มีประสบการณ์ตรงด้วยตนเองกับสิ่งที่ดูเหนือธรรมชาติ เหล่านี้ แต่เพราะไม่เคยมองว่ามันคือสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ตรงกันข้าม กลับคิดว่า มันอาจเป็นเพียงสิ่งธรรมดาๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ แต่เพียงเพราะเราแค่ได้ไปค้นพบ มันเข้าก็เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้ จึงต้องมีคำว่า ควรใช้วิจารณญาณ เพราะมันมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความมโนนึก ความงมงายหลงใหล และการหลงไปในความโลภความหลง
ข้อเท็จจริงอีกอย่างมีว่า สำหรับผู้มีจิตอันกุศลดี มีความปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พลังบวกของไสยเวทย์จะทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะพลังบวก+พลังบวก คือสิ่งที่จะมอบพลังบวกอีกทวีคูณ