เพราะสาเหตุใดตอนกรวดน้ำต้องรินน้ำให้หมดตรงคำว่า "ยะถา"
การกรวดน้ำเป็นพุทธพิธีอย่างหนึ่งที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล เป็นการอุทิศบุญกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการรินน้ำลงไปในแม่น้ำ ลำคลอง หรือทะเล โดยเชื่อว่าน้ำที่กรวดลงไปนั้นจะนำบุญกุศลไปสู่ผู้ล่วงลับ
ตามประเพณีแล้ว ควรเริ่มรินน้ำกรวดน้ำพร้อมกับตั้งใจอุทิศ ในขณะที่พระผู้นำเริ่มสวดว่า “ยะถาวาริวะหาปูรา...” และรินให้หมดเมื่อพระว่ามาถึง “…มะณิโชติระโส ยะถา...” เมื่อพระทั้งหมดรับพร้อมกันว่า “สัพพีติโย วิวัชชันตุ...” ก็พนมมือรับพรท่านไปจนจบ
การกรวดน้ำจะจบลงเมื่อพระสวดคำว่า “…มะณิโชติระโส ยะถา...” คำว่า "ยะถา" หมายถึง "ถึงอย่างนั้น" หมายความว่า บุญกุศลที่อุทิศไปนั้น จงถึงแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว
สาเหตุที่เวลากรวดน้ำต้องให้เสร็จลงเมื่อพระสวดคำว่า ยะถานั้น เกิดจากความเชื่อที่ว่า คำว่า "ยะถา" เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์ หากกรวดน้ำเสร็จก่อนคำว่า ยะถา บุญกุศลก็จะไม่ถึงแก่ผู้ล่วงลับ
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่ออีกว่า คำว่า "ยะถา" เปรียบเสมือนประตูสู่ภพภูมิของผู้ล่วงลับ หากกรวดน้ำเสร็จก่อนคำว่า ยะถา บุญกุศลก็จะไม่สามารถผ่านประตูไปได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ความเชื่อเรื่องกรวดน้ำให้เสร็จเมื่อพระสวดคำว่า ยะถา เริ่มลดน้อยลง เนื่องจากหลายคนมองว่าเป็นความเชื่อที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ และไม่จำเป็นที่จะต้องเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของผู้ที่กรวดน้ำเองและผู้ล่วงลับไปแล้ว หลายคนก็ยังนิยมกรวดน้ำให้เสร็จก่อนคำว่า ยะถา เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ล่วงลับ