ท้าวทองกีบม้า นับถือคริสต์นิกายอะไร เหตุใดจึงได้ชื่อว่า "เกียรติยศแก่ศาสนา"
ท้าวทองกีบม้า ตองกีมาร์ หรือ แม่มะลิ ไม่เพียงเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในละคร "บุพเพสันนิวาส" และ "พรหมลิขิต" เท่านั้น แต่ตามประวัติศาสตร์ยังจารึกชื่อของนางในฐานะคริสตังหรือคริสเตียนผู้เคร่งครัด ดังที่ผู้ชมเห็นภาพท้าวทองกีบม้ามักสวมสร้อยไม้กางเขนในฉากต่าง ๆ เสมอ และมีเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาอย่างมาก
ท้าวทองกีบม้า นับถือศาสนาคริสต์นิกายอะไร
ก่อนที่ ท้าวทองกีบม้า จะตบแต่งเป็นภรรยาของเจ้าพระยาวิไชเยนทร์หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน ตามประวัติเล่าว่า ท้าวทองกีบม้า มีชื่อเดิมว่า มารีอา กียูมาร์ ดึ ปีญา เป็นคริสตังเชื้อสายโปรตุเกส เบงกอล และญี่ปุ่น เป็นธิดาคนโตของฟานิก กียูมาร์ และอูร์ซูลา ยามาดะ ที่อพยพมาจากอาณานิคมโปรตุเกส หลังสมรส ชื่อของท้าวทองกีบม้า ถูกบันทึกในจดหมายเหตุเมื่อครั้งอดีตว่า "มาดัมคอนซตันซ์"
บันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ครอบครัวของ ท้าวทองกีบม้า เป็นผู้เคร่งครัดทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีคำกล่าวอ้างว่านางเป็นหลานสาวของ ฟรันซิสโก เด ฆาโซ อี อัซปิลิกูเอตา ในประเทศไทยรู้จักในนาม ฟรังซิสเซเวียร์ บาทหลวงโรมันคาทอลิกชาวสเปน ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาคริสต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของคณะเยสุอิต (นักบุญมีสมญาว่า “ทหารของพระคริสต์”) ฟรังซิสเซเวียร์ เป็นนักบุญที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในประเทศญี่ปุ่นเป็นคนแรก ตลอดจนประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย ศรีลังกา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ จีน
ในยุคของโชกุนที่ไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น ครอบครัวของ ท้าวทองกีบม้า จึงกลายเป็นลูกหลานผู้ลี้ภัยทางศาสนา รอนแรมเดินทางย้ายถิ่นฐานและถูกกวาดต้อนจนมาปักหลักกรุงศรีอยุธยาเมื่อคราวสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพบุกตีเมืองละแวก
ท้าวทองกีบม้า เติบโตเป็นสาวในรัชสมัยของพระนารายณ์มหาราช และได้สมรสกับพระยาวิไชเยนทร์ ขุนนางชาวกรีกผู้โปรดปรานของกษัตริย์ ในขณะที่มีอายุได้ 16 ปี
ศาสนาคริสต์ในสมัยอาณาจักรอยุธยา
ชีวิตของท้าวทองกีบม้า สอดคล้องกับประวัติศาสนาคริสต์ที่เผยแพร่ในไทยเป็นครั้งแรกตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา ปรากฏหลักฐานว่าในปี พ.ศ. 2110 (ค.ศ. 1567) มีมิชชันนารีคณะดอมินิกัน 2 คน เข้าสอนศาสนาให้ชาวโปรตุเกสรวมทั้งชาวพื้นเมืองที่เป็นภรรยา ต่อมาจึงมีมิชชันนารีคณะฟรันซิสกันและคณะเยสุอิตเข้ามาด้วย บาทหลวงส่วนมากเป็นชาวโปรตุเกส
ระยะแรกที่ยังถูกปิดกั้นทางศาสนา มิชชันนารีจึงเน้นการดูแลกลุ่มคนชาติเดียวกัน กระทั่งรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประเทศไทยได้มีสัมพันธภาพอันดีกับฝรั่งเศส ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ทำให้มีจำนวนบาทหลวงเข้ามาเผยแพร่ศาสนามากขึ้น และการแสดงบทบาททางสังคมมากขึ้น บ้างก็อยู่จนแก่หรือตลอดชีวิตก็มี ด้านสังคมสงเคราะห์ มีการจัดตั้งโรงพยาบาล ด้านศาสนา มีการตั้งเซมินารีคริสตัง เพื่อผลิตนักบวชพื้นเมือง และมีการโปรดศีลอนุกรมให้นักบวชไทยรุ่นแรก และจัดตั้งคณะรักกางเขน หลังสิ้นรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชศาสนาคริสต์ถูกลดความสำคัญลงอย่างมาก
ตัวประกันทางศาสนา!?
ตลอดชีวิตของท้าวทองกีบม้าปฏิบัติตามคำสอนและสนับสนุนศาสนาคริสต์มาโดยตลอด จนถูกเรียกขานกันว่าเป็นมารดาของเหล่ามิชชันนารี แต่เมื่อถึงคราวที่ชีวิตต้องพลิกผันอย่างมากหลังสิ้นสุดรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเริ่มต้นรัชกาลพระเพทราชา ซึ่งถือกันว่าเป็นยุคของการเสื่อมความนิยมในชาวฝรั่งเศสด้วย หลังฟอลคอลถูกกำจัด ท้าวทองกีบม้า ถูกจับและหลบหนีตามกองทัพฝรั่งเศส ไม่เพียงเพื่อหนีจากผลกระทบตามความผิดของสามีแต่ยังหนีจากการตีตราว่าเป็นหญิงหม้ายที่ลูกกษัตริย์หมายปองอีกด้วย
ระหว่างหลับหนีมีข้อขัดแย้งกันเองในฝั่งฝ่ายฝรั่งเศสว่าจะส่งตัวนางคืนแก่สยามหรือไม่ น่าเห็นใจที่แม้มีกลุ่มมีชาวฝรั่งเศสประสงค์ให้นางกลับไปด้วย แต่กลุ่มนักบวชกลับเป็นฝ่ายแย้งว่าสมควรคืนนางให้กับฝ่ายสยาม อาจเป็นด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อให้การเผยแผ่ศาสนาคริสต์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดังเดิม!
บทสรุปคือ ท้าวทองกีบม้า ถูกส่งตัวกลับไปยังสยาม แล้วกองทหารฝรั่งเศสก็เดินทางกลับออกไป
"ท้าวทองกีบม้า" เกียรติยศแก่ศาสนาคริสต์
มีบันทึกที่กล่าวถึงท้าวทองกีบม้าหลายฉบับ หนึ่งในนั้นคือ บันทึกของ มองซิเออร์โชมองต์ ชาวต่างชาติที่เข้ามาในสยามได้บันทึกเกี่ยวกับนางไว้เมื่อครั้งที่พบในกรุงศรีอยุธยาระหว่างปี พ.ศ. 2262-67 ไว้อย่างมีเกียรติ
“มาดัมคอนซตันซ์ภรรยาของมองซิเออร์คอนซตันซ์ผู้มีชื่อเสียง แลซึ่งมีชื่อเสียงดังเมื่อครั้งมองซิเออร์เดอโชมองเปนราชทูตนั้นได้มาหาข้าพเจ้า ผู้หญิงคนนี้อายุในราว 65 หรือ 66 ปี ได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังของพระเจ้ากรุงสยาม ตั้งแต่มองซิเออร์คอนซตันซ์สามีได้ถึงแก่กรรม ท่านผู้ที่แย่งชิงราชสมบัติไปได้นั้น ได้เอามาดัมคอนซตันซ์ไปอยู่ในชั้นเดียวกับพวกทาส แต่ในเมืองนี้ผู้ที่เปนทาสหาได้เปนคนต่ำช้าเสียชื่อเสียงอย่างใดไม่ แต่ไทยกลับเห็นเปนชั้นผู้มีเกียรติยศ เพราะมีอำนาจที่จะทำความอยุติธรรมได้หลายพันอย่าง
แต่สำหรับบุคคลที่เปนคริสเตียนอันดี เช่นมาดัมคอนซตันซ์นั้นก็ต้องถือว่าเปนทาสอย่างร้ายแรง มาดัมคอนซตันซ์จะไปวัดคริสเตียนก็ได้ตามชอบใจ บางทีก็ไปนอนยังบ้านซึ่งเปนบ้านอย่างงดงามในค่ายของพวกปอตุเกศแลเปนที่อยู่ของหลานด้วย ส่วนในพระราชวังนั่นมีพนักงารผู้หญิงที่ทำราชการอยู่ในวัง ได้อยู่ในความบังคับบัญชาของมาดัมคอนซตันซ์กว่า 2000 คน แลมาดัมคอนซตันซ์เปนผู้ดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหลวงทั้งเปนหัวหน้าเก็บพระภูษาแลฉลองพระองค์ แลเปนผู้เก็บผลไม้ของเสวยด้วย
เมื่อมาดัมคอนซตันซ์ได้รับหน้าที่เช่นนี้ก็เปนช่องทางที่จะหาผลประโยชน์ได้เปนอันมาก แต่มาดัมคอนซตันซ์เปนคนซื่อ ไม่ยอมหากำไรในสิ่งที่คนเคยรับหน้าที่นี้มาแต่เดิมๆ ได้เคยหาทุกๆ ปี มาดัมคอนซตันซ์ได้คืนเงินเข้าท้องพระคลังปีละมากๆ ซึ่งเปนเหตุทำให้พระเจ้ากรุงสยามรับสั่งว่าการที่จะหาคนซื่อตรงเช่นนี้นอกจากผู้ที่ถือสาสนาคริสเตียนเห็นจะหาไม่ได้ ซึ่งเปนการเท่ากับให้เกียรติยศแก่สาสนาคริสเตียน
ข้าพเจ้าได้สังเกตว่ามาดัมคอนซตันซ์คนนี้เปนคนที่ใจคอดีแลอยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของสาสนาคริสเตียน แลเปนคนรู้นิสัยใจคอแบบธรรมเนียมแลความคดโกงของคนไทยทุกอย่าง เพราะฉนั้นเมื่อข้าพเจ้าตกอยู่ในที่ลำบากคราวใด ก็ได้เคยให้มาดัมคอนซตันซ์ช่วยเสมอ เพราะเห็นว่าคำแนะนำของเขาล้วนแต่ดีทั้งนั้น เวลานั้นมารดาของมาดัมคอนซตันซ์ยังอายุ 80 ปีเศษ เดิรไม่ได้แล้ว เมื่อข้าพเจ้ามาถึงได้สักปี 1 มารดามาดัมคอนซตันซ์ก็ถึงแก่กรรม”
แม้สิ้นลงหลายรัชสมัย ศาสนาคริสต์ผ่านกาลเวลาทั้งช่วงดับแสงและส่องสว่าง แต่เกียรติของบุตรแห่งพระเยซูคริสต์ผู้ได้ชื่อเรื่องความซื่อตรงนาม มาดัมคอนซตันซ์ หรือ ท้าวทองกีบม้า ยังคงเป็นที่กล่าวขานจนถึงปัจจุบัน
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ