ทำนายทายทัก : เชื่อ แบบไม่ขัดแย้ง
เรื่อง "ความเชื่อ" น่ะ ต่างคนก็ต่างมี และมีแบบของใครของมัน โดยความเชื่อของคนคนหนึ่งนั้น อีกคนอาจเห็นเป็นเรื่องขัน เรื่องไร้สาระ งมงาย แต่ขอร้องละ อย่าได้ถกกันเลยว่า "ความเชื่อ" ที่นำมาให้อ่านนี้ของใครถูก ของใครผิด เพราะเดี๋ยวก็กลายเป็นปัญหาให้ปวดหัว ปล่อยให้เป็นสิทธิส่วนตัวของใครของมันเถิด "แหวน"ช่วยด้วย" อยู่ๆ ก็มีแหวนวงสวยปรากฏอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย ให้คนเห็นสงสัยว่าได้แต่ใดมา "ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิต" หัวเราะกิ๊กกับคำถาม ก่อนจะว่า ได้มาจากร้านค่ะ เพราะเสียสตางค์ซื้อมาเองแบบไม่มีใครให้ "ที่ใส่นิ้วนี้ เพราะเขาบอกกันว่าถ้าใส่แล้วจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเกี่ยวกับคู่รัก จะสมปรารถนาเรื่องความรัก"แต่จะกับใครเธอว่ายังบอกตอนนี้ไม่ได้ "เพราะยังอยู่ในช่วงดูๆ กันอยู่" ซึ่งขอโทษที่ดูๆ น่ะไม่ใช่คนเดียว "แต่ก็ไม่ได้หลายคนนะคะ"ส่วนว่าจะเลือกใคร ใหม่ว่าให้บอกตอนนี้คงยาก อาจต้องใช้เวลาอีกสัก 1 ปี ซึ่งระหว่างนั้นเธอจะใช้ "ใจ" พิจารณาอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็จะมีแหวนติดนิวนางข้างซ้ายอยู่ เพราะอยากจะรู้จริงๆ แหวนน่ะจะช่วยให้ได้สมหวังเรื่องความรักหรือเปล่า "ขอให้ได้เต๊อะ ขอให้ได้เถอะ-ในใจใหม่ต้องคิดอย่างนั้นแน่ๆ"
ส่วน "บิ๊ก-ภูชิสะ ธนพัฒน์" แม้ไม่ใส่ให้เห็น แต่เราก็รู้มาว่ามีความเชื่อเรื่องแหวนอยู่เหมือนกัน โดยแหวนที่บิ๊กใส่ประจำที่นิ้วนางข้างซ้าย ยกเว้นตอนไปทำงานถ่ายละคร หรือออกงานต่างๆ เป็นแหวนที่มีตัวอักษรภาษาจีนที่อ่านว่า "เฮง" ซึ่งคุณแม่เป็นคนให้มา "คุณแม่จะมีความเชื่อในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว" บิ๊กบอก ส่วนใส่แหวนวงนี้แล้วชีวิตเฮงขึ้น หรือดวงดีขึ้นหรือไม่นั้น บิ๊กบอกแบบหัวเราะๆว่ายังไม่รู้สึก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเพิ่งสวมได้ไม่นาน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วจะเฮงตามที่แหวนระบุไว้หรือไม่ บิ๊กก็ว่าไม่เป็นไร เพราะลึกๆ แล้วอย่างน้อยที่ก็เป็นแหวนที่แม่ให้ ทั้งยังทำให้ตัวเองมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมากขึ้นอีกด้วย "คาถา ณะ จา ริสิ"
ที่ "อุ้ม ลักขณา วัธนวงศ์สิริ" เชื่อคือคาถา "ณะ จา ริสิ" ที่ต้องท่องทุกครั้งก่อนขับรถ เป็นคาถาซึ่งผู้ใหญ่ที่นับถือท่านหนึ่งบอกไว้ว่าจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุเกี่ยวกับการขับรถได้ "เราคงไม่กล้าบอกว่าช่วยได้ทั้งหมดหรือเปล่านะ แต่ตั้งแต่ที่ท่องมาก็ยังไม่เคยเจออุบัติเหตุเลย" "ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราไม่ได้ขับไปชนเขานะ แต่จะเจอคนอื่นขับมาเฉี่ยวชนเราอยู่เรื่อย" นอกจากคาถาที่ว่า อุ้มยังมีลูกแก้วพกติดไว้ในกระเป๋าสตางค์ตลอด เป็นเครื่องรางหรือเปล่า อุ้มบอกไม่รู้ รู้แต่พระที่ขอนแก่นให้มาตอนไปนั่งวิปัสสนา เป็นลูกแก้วที่อุ้มระบุคุณสมบัติว่า "สารพัดนึก" "จะช่วยให้เราสมหวัง สมความปรารถนาในเรื่องต่างๆ" ทำได้ยังไง? ฟังคำถามแล้วอุ้มยิ้มๆ ก่อนแจงว่า อาจเป็นเพราะความเชื่อมั่นในลูกแก้วก็ได้ "อย่างเวลาไปติดต่องาน มันก็เหมือนจะช่วยให้เรามีความมั่นใจ อุ่นใจมากขึ้น ทั้งที่ก็รู้นะคะว่าส่วนหนึ่งก็ต้องอยู่ที่ตัวเราด้วย ว่าจะมีคุณสมบัติตามที่เจ้าของงานเขาต้องการหรือเปล่า แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่าพอมีลูกแก้วสารพัดนึก ก็ช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้น" "เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วน่ะค่ะ" "ทำบุญแหลก" ที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือ อาศัยแต่ใจและการทำบุญ ไหว้พระ ตักบาตร คือ "มดดำ คชาภา ตันเจริญ" ที่ว่างเมื่อไหร่ เมื่อสบายใจตอนไหนก็จะไปทำบุญเอาไว้
"พี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) จะสอนผมอยู่เสมอว่างานที่เราทำอยู่มันเป็นการพูดให้คนงมงายนะ เวลาที่มีรายได้จากการทำงานตรงนี้ ซึ่งก็ถือว่ามากพอสมควร ก็ควรจะแบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญ ทำทานบ้าง เพราะอย่างบางทีที่เราพูดหรือเล่าอะไรออกรายการไป ก็เหมือนไปทำให้คนที่เขาตกเป็นข่าวต้องทุกข์ใจ มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างกันไป รายได้ที่ได้มาก็ให้เอาไปแบ่งปันคนที่เขาทุกข์ยาก เดือดร้อนบ้าง" โดยบุญที่เขาทำบ่อยในระยะหลังคือทำบุญโลงศพ โดยไปที่วัดพระพิเรนทร์ แถวๆ วรจักรบ่อยๆ "เชื่อไหมในปีนี้ผมไปทำบุญโลงศพทุกอาทิตย์ จนเจ้าหน้าที่วัดมีเบอร์ผมเลย เวลามีศพไร้ญาติ เขาจะโทร.มาบอก ล่าสุด มีพระองค์หนึ่งท่านมรณภาพ แล้วก็ไม่มีญาติที่ไหนเลย ผมก็เป็นเจ้าภาพให้" "ถ้าถามผมว่าได้อะไรจากการทำบุญอย่างนี้ บอกไม่ได้หรอกนะครับ แค่รู้สึกว่าทำบุญแล้วสบายใจขึ้น จิตใจที่ขุ่นมัวก็ปลอดโปร่ง และรู้สึกว่าเรามองเห็นทางออกมากขึ้นด้วย" มดดำว่า "เรื่องของดวง"
ใครจะเชื่อ ไม่เชื่อ "อู ภาณุ สุวรรณโณ" บอกว่า ก็แล้วแต่ แต่ตัวเขาเอง "ค่อนข้างเชื่อ" "ไม่กลัวด้วยว่าใครจะมองว่างมงาย" เขาบอก "เพราะคนแบบผมมีเยอะ" พูดยิ้มๆ เล่าด้วยว่า เวลามีใครทักว่าดวงไม่ดีนั้น ทางแก้ที่คนแนะนำให้ส่วนใหญ่คือ การทำบุญ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ไม่มีอะไรเสียหาย ล่าสุด อูบอกว่า เขาไปงานบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดอุดรธานี แล้วก็ไปเจอเข้ากับร่างทรงของกุมารเขียว ที่ทักบอกให้บวชให้แม่ เพราะที่ผ่านมาแม่เขาเพิ่งรถมอเตอร์ไซค์ล้ม ทำให้เจ็บหัวเข่า เขาจึงตั้งใจไว้ว่าจะหาเวลาบวชตามคำแนะนำ อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจ "เพราะใจ "เชื่อ" ไปแล้วนี่"