บ้านผิดฮวงจุ้ย..แก้อย่างไรดี
ปัญหาที่หลายๆ คนมักจะประสบกันอยู่เสมอ เวลามีคนมาทักว่า บ้านของตัวเองผิดฮวงจุ้ย ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะแก้ไขฮวงจุ้ยที่ผิดก็ไม่รู้วิธี แถมคนที่ทักว่าไม่ดีผิดฮวงจุ้ย ก็ไม่รู้วิธีแก้อีก ก็ยิ่งทำให้เจ้าของบ้านเกิดความกังวล กลัวจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นภายในบ้าน
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงวิธีการแก้ฮวงจุ้ยว่า มีวิธีอะไรกันบ้าง หลักการแก้ ฮวงจุ้ย เท่าที่ผมสรุปออกมาได้ก็จะมีอยู่ 5 วิธีคือ
1. หลบหลีก
2. หักเห
3. ปรับเป็นพวกเดียวกัน
4. สลายออก
5. ต่อสู้ป้องกัน
การจะนำวิธีไหนมาใช้นั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบ้านหลังนั้นเป็นหลัก....คราวนี้ ลองมาดูกรณีต่างๆ ที่เข้าข่ายผิดฮวงจุ้ย ผมจะไล่เลี่ยห้องต่างๆ ภายในบ้านกันก่อน ไล่ไปที่ละห้องกันเลยครับ เริ่มที่ประตูบ้านกันก่อน
ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน กรณีนี้จะเจอกันอยู่บ่อยๆ ในทางฮวงจุ้ยจะบอกว่า ทำให้เงินไหลออก เรียกว่า หาเงินมาเท่าไหร่ก็ไหลออกหลังบ้านหมด การแก้ไขกรณีนี้ ไม่ยากเลยครับ วิธีที่นิยมใช้กันมากก็คือ หาฉากหรือตู้โชว์มากั้นระหว่างประตูหน้ากับประตูหลังบ้าน กระแสที่พุ่งตรงระหว่างสองประตู ก็จะถูกหักเหออกไป
อีกวิธีหนึ่ง ย้ายประตูหลังหลบประตูหน้า โดยย้ายไปเปิดด้านข้างแทน อย่าลืมว่า บ้านจะต้องมีประตูหลังเสมอ นี่เป็นกฎพื้นฐานในทางฮวงจุ้ย บางคนแก้ไขประตูตรงกัน โดยการปิดประตูหลังเสีย หลังบ้านจึงทึบไม่มีทางออก ตำราบอกว่า จะส่งผลให้บ้านหลังนั้น อุดตัน อับโชค
ซึ่งถ้ามองตามหลักเหตุผล ก็จะหมายถึง บ้านจะอับลม เพราะธรรมชาติของลมจะต้องมีทางเข้าและทางออก อากาศถึงจะถ่ายเทได้ดี การแก้ไขอะไรก็แล้วแต่ จะต้องดูที่ผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ไม่ใช่แก้อย่างหนึ่งแล้วไปเสียอีกอย่างหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องตามแก้กันไม่รู้จบ
ห้องครัว กรณีที่พบบ่อยจะเป็นเรื่องตำแหน่งเตาไฟ กับซิงก์น้ำ ตามหลักฮวงจุ้ยจะบอกเอาไว้ว่า สองสิ่งนี้ห้ามอยู่ใกล้กัน หรือตรงข้ามกัน เพราะเตาเป็นธาตุไฟ ซิงก์เป็นธาตุน้ำ ไฟกับน้ำ เป็นธาตุปะทะกัน ส่วนใหญ่การวางเตาไฟกับซิงก์จะวางแยกกันในลักษณะตัวแอล เตาอยู่ด้านหนึ่ง ซิงก์อยู่ด้านหนึ่ง
กรณีที่เตากับซิงก์น้ำอยู่ติดกัน ให้พิจารณาก่อนว่า ระยะห่างมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าห่างเกิน 1 เมตร ถือว่าไม่จำเป็นต้องแก้ เพราะผลกระทบจะไม่เกิด แต่ถ้าอยู่ติดกัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ ย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แต่ถ้าทำไม่ได้ ให้หาฉากสแตนเลสกันความร้อนมากั้นตรงกลาง ก็ถือว่าใช้ได้
ส่วนกรณีที่เตาไฟกับซิงก์น้ำอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าห้องครัวมีพื้นที่กว้างพอ ให้ใช้โต๊ะมาวางขั้นกลาง แต่ถ้าห้องครัวแคบ ต้องย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกไป
ห้องส้วม ลักษณะผิดฮวงจุ้ยที่พบบ่อยก็คือ โถส้วม (ชักโครก) มักจะวางตรงกับประตูห้องส้วม พูดง่ายๆเวลาเปิดประตูก็เห็นชักโครกพุ่งเข้าหาคนที่เดินเข้า อย่างนี้ถือว่าผิดแน่นอน วิธีแก้ไข ย้ายโถส้วมเข้าด้านใน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ค่อนข้างจะยาก เพราะจะต้องย้ายท่อน้ำเสียตามไปด้วย
อีกวิธีหนึ่ง ให้หันโถส้วมไปในทิศทางที่ไม่ตรงกับประตู แทนที่จะพุ่งตรงออกมา ก็หันไปด้านข้างแทน โดยที่ไม่ต้องย้ายตำแหน่ง หรือ ถ้าไม่อยากย้ายโถส้วมก็อาจจะเลือกแก้โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของประตูแทนก็ได้ ถ้าไม่อยากย้ายอะไรเลย ก็ให้ปิดประตูห้องส้วมไว้เสมอ พยายามเปิดประตูเข้าออกให้น้อยที่สุด ก็จะช่วยลดผลกระทบลงได้
ห้องนอน ถือเป็นห้องสำคัญที่สุดในบ้าน มีข้อบัญญัติมากมายเกี่ยวกับห้องนอน แต่ที่พบเจอบ่อยๆก็จะเป็นเรื่องการวางเตียง ตำแหน่งต้องห้ามในทางฮวงจุ้ยคือ ห้ามวางเตียงตรงกับประตู หรือนอนขวางประตูห้อง นั่นเอง
การแก้ไขที่ดีที่สุดคือ ย้ายเตียงหลบ หรือไม่ก็ย้ายประตูห้อง การย้ายเตียงหลบน่าจะดีกว่า ถ้าย้ายไม่ได้ก็ต้องหาฉากมากั้นระหว่างประตูกับเตียง
หัวเตียงเป็นหน้าต่าง หลายคนกังวลกับเรื่องนี้มาก ตำราฮวงจุ้ยพูดเอาไว้จริง แต่การแก้ไขง่ายนิดเดียว แค่ติดม่านแล้วปิดเวลานอน ปัญหาก็หมดไป
ห้องพระ ตามหลักฮวงจุ้ยจะห้ามวางโต๊ะหมู่บูชา หรือหิ้งพระ ติดกับผนังห้องน้ำ ถ้าจำเป็นต้องวางจะต้องบุผนังด้านที่พิงห้องน้ำด้วยไม้ เพื่อขั้นระหว่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับห้องน้ำ แต่ถ้าย้ายตำแหน่งได้ก็ควรย้ายจะดีที่สุด
ขื่อ,คาน บ้านทุกหลังต้องมีคานด้วยกันทั้งนั้น คานที่มีผลกระทบก็คือ คานที่มองเห็นอย่างเด่นชัด การแก้ก็เพียงปิดฝ้าเพดาน เพื่อไม่ให้มองเห็นคาน นั่นเอง แต่ถ้าขี้เกียจเสียเงินติดฝ้าเพดาน ก็ให้เลี่ยงวางของที่สำคัญไว้ใต้คาน เช่น โต๊ะทำงาน เตียงนอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่ ฯลฯ
เหลี่ยมเสา เสาที่ถือว่ามีผลกระทบมากที่สุดก็คือ "เสาลอย" เพราะจะเกิดเหลี่ยมเสาถึง 4 ด้าน วิธีแก้ให้หาตู้มาพิงเสาด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อไม่ให้เสาลอย หรือใช้ฉากทำเป็นผนังกั้นไปเลยก็ได้ อีกวิธีหนึ่งลบเหลี่ยมของเสาออก โดยทำเป็นเสากลม อิทธิพลของเหลี่ยมเสาก็หมดไป
ส่วนเหลี่ยมที่เกิดจากมุมเสา ให้ใช้ต้นไม้ไปวางบังเหลี่ยม แค่นี้ก็แก้ไขได้แล้วครับ เห็นไหมครับ การแก้ฮวงจุ้ยไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก Homedd
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com