เผยเคล็ดลับ สักการะเทพกวนอู รับโชคตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีนปีนี้นับเป็นโอกาสดีของชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีนในบ้านเราที่จะได้สักการะองค์จำลองเทพกวนอู ที่ทางผู้บริหารศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค จับมือกับสายการบินแอร์เอเชีย และอาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมจีน เดินทางไปประกอบพิธีกรรมอัญเชิญองค์เทพกวนอูจากสุสานเจ้าพ่อกวนอูในประเทศจีนถึง 2 แห่ง
ได้แก่ สุสานเจ้าพ่อกวนอู ณ เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน สถานที่ฝังศีรษะของเจ้าพ่อกวนอู และสุสานในเมืองตังหยาง ซึ่งเป็นสถานที่ฝังร่างเจ้าพ่อกวนอู เพื่อประดิษฐานลงในองค์จำลองซึ่งได้นำไปตั้งไว้ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์คให้ประชาชนได้สักการะขอพรกันระหว่างวันที่ 7-28 กุมภาพันธ์นี้ภายในงานพาราไดซ์ พาร์ค มหาตรุษจีน รับโชคเสริมมงคลกับอัศจรรย์เทพกวนอู
โสภิตา กิติโกมลสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านกิจกรรมการตลาดศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เล่าถึงที่มาว่า ...
"เราต้องการให้คนไทยมีโอกาสสักการะเทพเจ้าที่คนจีนยกย่อง แล้วคนแถบศรีนครินทร์จะมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องค้าขายความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ เราเลยคิดว่า ศูนย์การค้าเราน่าจะนำเทพเจ้ากวนอูมาให้ผู้คนได้สักการะกัน เราจึงปรึกษากับอาจารย์วิโรจน์ว่าจะอัญเชิญมาได้อย่างไร เพราะเทพเจ้ากวนอูมีประวัติถูกตัดศีรษะ ทั้งศีรษะและตัวถูกฝังแยกจากกัน อาจารย์แนะนำว่า เราควรจัดกลุ่มมาอัญเชิญทั้งศีรษะและตัวให้ท่านประดิษฐานลงในองค์จำลองแล้วนำไปให้ผู้คนสักการะ นอกจากนั้น เรายังได้เตรียมผงธูปที่นำมาจากสุสานทั้งสองแห่งจำนวน 10,000 ซอง เพื่อแจกระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ วันละ 2,000 ซองด้วย"
ส่วนการไหว้ขอพรจากเทพกวนอูซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ เทพเจ้าแห่งคุณธรรม อาจารย์วิโรจน์แนะนำว่า "เวลาเราไหว้เทพเจ้ากวนอูอย่าไปอธิษฐานขอทรัพย์ แต่ให้อธิษฐานขอเครดิตหรือความน่าเชื่อถือ เพราะเทพเจ้ากวนอูเป็นเทพเจ้าแห่งความน่าเชื่อถือ แล้วคนที่มีความน่าเชื่อถือคนนั้นย่อมทำการค้าขึ้น ความน่าเชื่อถือเป็นทรัพย์ข้างใน เงินทองเป็นทรัพย์ภายนอกที่มีวันหมดลงได้ แต่เครดิตเป็นทรัพย์ภายในที่ใช้ไม่หมด ดังนั้น เวลาไหว้เทพเจ้ากวนอู ให้ขอความน่าเชื่อถือ ใครที่มีเครดิตคนนั้นจะรุ่งมาก"
ทั้งนี้ อาจารย์วิโรจน์ยังให้แง่คิดถึงการจับจ่ายเงินซื้อของไหว้เจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วยว่าให้ใช้จ่ายเงินตามกำลังทรัพย์
"อย่าไปหยิบยืมสตางค์ใคร หรือเป็นหนี้เพื่อจะซื้อของมาไหว้ อย่างนั้นเป็นบาป ถ้ามีเงินไม่มาก แค่ซื้อส้มมาไหว้อย่างเดียวก็ได้ เพราะส้มหมายถึงโชคดี หรือถ้าไม่มีเงินเลยจริงๆ แค่ทอฟฟี่เม็ดเดียวก็ไหว้ได้ เพราะทอฟฟี่หมายถึง ความหวานชื่น ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งจิต อยู่ที่เจตนามากกว่า"
อาจารย์วิโรจน์ยังเล่าว่า โดยส่วนตัวไม่ได้ไหว้ตรุษจีนมานานแล้ว
"แต่ก่อนก็จะไหว้ครบแต่ตอนนี้แก่แล้วก็ไม่ไหว้เลย แต่จะใช้วิธีปฏิบัติธรรมคือถือศีล 5 แล้วก็นั่งสมาธิ แล้วเอาบุญตรงนั้นถวายแด่เทพเจ้าทุกองค์ แล้วก็อุทิศบุญกุศลไปให้อากง อาม่า อาป๊า ฯลฯ อันนี้แหละจะมีอานิสงส์มากกว่าพิธีกรรมใดๆ ทั้งสิ้น"
ส่วนการแก้ปีชง อาจารย์วิโรจน์ก็มีแง่คิดน่าสนใจมาฝากกันด้วยว่า
"การแก้ชงเป็นเรื่องพิธีกรรม แต่ถามว่าทำแล้วเวิร์กมั้ย อาจารย์วิโรจน์ก็ขอตอบในฐานะชาวพุทธว่ามันไม่เวิร์ก เพราะทุกคนมีบัญชีกรรมมาคนละเล่ม กรรมเราทำมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา แล้วอยู่ดีๆ จะมาแก้ชงไปปัดๆ 2 ที แล้วบัญชีกรรมลบแล้วเหรอ มันลบไม่ได้ การจะล้างกรรมเราก็ต้องทำด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเช่นกัน แต่ใครจะไปแก้ชงเพื่อขวัญและกำลังใจก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเอาให้ชัวร์ต้องอยู่ที่ทำดี มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นที่จะแก้ได้ก็คือ ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม"