เสริมพลังฮวงจุ้ยให้มั่งคั่งรุ่งเรือง
ถ้าบ้านหลังใหญ่โต แต่จัดบ้านไม่เป็น จัดแบบตามใจฉันก็ยากที่จะรุ่งเรืองตามหลักฮวงจุ้ย เพราะฉะนั้นจะให้ดีแล้ว ควรศึกษาวิธีการจัดบ้านให้ช่วยเสริมพลังฮวงจุ้ยกันเอาไว้สักหน่อย ความมั่งคั่งร่ำรวยและรุ่งเรืองจะได้บังเกิดขึ้นกับคุณ
บริเวณหน้าบ้าน ส่วนของหน้าบ้านนี้ ขอย้ำให้ฟังกันอีกรอบว่าเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะเป็นบ่อเกิดของพลังงานชี่ เป็นที่รอรับพลังงานชี่ก่อนที่จะนำพาเข้ามาสู่ตัวบ้าน ลานกว้างหรือเหม่งตึ๊งนี้ยิ่งกว้าง ยิ่งสวย ยิ่งดี คุณจะปูหญ้า จะวางหินต่อเรียงๆกันก็ได้ แต่ขอแนะนำว่าอย่าได้เอาหินก้อนโตๆใหญ่ๆมาวางขวางไว้ที่ประตูหน้าบ้านเด็ดขาด แต่ถ้าอยากจะวางจริงๆก็ขอให้เล็งให้ดี ลองมองออกไปจากประตูบ้านดูสิว่าหินก้อนนั้นวางขวางแนวประตูหรือเปล่า บังแนวประตูล่ะก็เท่ากับว่าคุณตกม้าตายตั้งแต่เริ่มต้น ต่อให้จัดบ้านดีแค่ไหนก็ลดทอนพลังที่ดีออกไป เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าจะให้ดีไม่ต้องกังวลก็อย่าหาหินมาวางเลย ปลูกดอกไม้หลายสีให้ดูสวยงามบริเวณหน้าบ้านจะดีกว่าเพราะช่วยกระตุ้นพลังงานที่ดีได้มากมาย
เรื่องของไฟรอบบ้าน แสงสว่างหรือไฟรอบๆบ้านนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ถือเป็นการตกแต่งให้บ้านดูโดดเด่นขึ้น และที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นพลังงานชี่ตามหลักฮวงจุ้ยได้เป็นอย่างดี อย่างที่เคยบอกเอาไว้เป็นประโยคคลาสสิกให้ฟังว่า เมื่อหยินและหยางสมดุลสรรพสิ่งจึงก่อกำเนิด นั่นก็หมายความว่าในยามค่ำคืนที่เป็นช่วงเวลามืด แสงสว่างน้อย นั่นคือสภาพของหยิน ยิ่งถ้าบ้านเรามีขนาดกว้างทั้งภายในและภายนอก แล้วคุณยังปล่อยให้บ้านมืดอีก ก็เท่ากับว่าปล่อยให้พลังงานหยินเข้ามาครอบงำเต็มที่ คนที่อาศัยอยู่ในบ้านยิ่งอยู่ก็จะยิ่งซึมกะทือ พลังงานดีๆก็ทดถอย สุขภาพก็จะไม่ดี อารมณ์ความรู้สึกก็จะแย่ ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือต้องทำให้เกิดหยินหยางที่สมดุล สิ่งที่จะทำให้เกิดสมดุลได้ก็คือแสงไฟ เพราะรอบบ้านหรือสวนรอบบ้านควรจะมีไฟประดับไว้ให้แสงสว่างในยามค่ำคืนด้วย แสงสว่างถือว่าเป็นพลังหยาง เป็นพลังที่เคลื่อนไหว และช่วยเหนี่ยวนำชี่ที่ดีหรือโชคลาภเข้ามาสู่ตัวบ้าน ซึ่งวิธีที่เราควรปฏิบัติก็คือ
1. ติดไฟไว้ที่ประตูรั้วทั้งสองด้าน เพื่อทำให้บริเวณนี้แลดูสว่าง ยิ่งถ้าฝั่งตรงข้ามบ้านเราเป็นที่รกร้างอันนี้ถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำให้บ้านเรานั้นดูสว่าง ให้ติดไฟไว้ที่หัวเสาของรั้วเลยก็ดี
2. ติดไฟไว้ที่ตำแหน่งประตูทางเข้าบ้าน ในกรณีนี้หมายถึงประตูที่เปิดเข้ามาเจอห้องรับแขกนั่นเอง
3. ติดไฟในสวน อันนี้จำเป็นมากๆบางบ้านมีสวนขนาดใหญ่ ไฟในสวนหรือไฟสนามจะช่วยดึงพลังชี่ที่ดีเข้าสู่ตัวบ้าน มีลูกค้าผมคนหนึ่ง มีสวนสนามบ้านที่ใหญ่มาก แต่ปลูกต้นไม้เอาไว้ซะครึ้ม กลางคืนก็ปิดไฟมืดตลอด บ้านนี้อยู่ไปอยู่มาก็ป่วยกันทั้งบ้าน ลักษณะนี้คือพลังหยินมากเกินไป
ประตูบ้าน คุณคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วที่หลายๆคนชอบพูดว่า ประตูหน้าบ้านและประตูหลังบ้านห้ามตรงกัน และคุณเองก็คงจะเคยสังเกตกันมาบ้างแล้วว่าบ้านของตัวเองนั้นประตูหลังบ้านและประตูหน้าบ้านตรงกันหรือเปล่า และถ้าตรงกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่ดีจะแก้ไขอย่างไร จริงๆแล้วข้อห้ามที่ว่าห้ามประตูหน้าบ้านกับหลังบ้านตรงกันนั้น หลายคนเอาไปตีความผิดเพี้ยน และบางทีก็ทึกทักเอาเองว่าประตูบ้านของเรานั้นตรงกันแหงๆจริงๆแล้วความหมายของประตูตรงกันนั้นมองจากประตูหน้าบ้านเข้ามาจะทะลุประตูหลังบ้านเลย โดยไม่มีอะไรมาเบรกตรงกลางไว้ และที่ว่าไม่ดีนั้นก็เพราะว่าประตูที่ตรงกันทำให้พลังงานชี่ที่ผ่านเข้ามาจากหน้าบ้าน จะไหลออกหลังบ้านอย่างรวดเร็ว ทำให้บ้านหลังนั้นไม่สามารถกักเก็บพลังชี่ที่ดีไว้ได้ บ้านนั้นจึงอยู่ในสภาพที่ว่าเงินเข้ามาแล้วออกตลอด จริงๆแล้วนอกจากประตูหน้าบ้านจะตรงกับประตูหลังบ้านแล้ว ในกรณีที่ประตูหน้าตรงกับกระจกบานใหญ่ๆ หลังบ้านก็เข้าข่ายไม่ดีเหมือนกัน ส่วนวิธีแก้ก็มีด้วยกันหลากหลายวิธี
1. หาฉากสวยๆหรือชั้นโชว์สวยๆมาเบรกพลังงานไว้ตรงกลาง แต่การวางนั้นต้องวางให้แลดูเหมาะสมด้วย ซึ่งวิธีแก้อันนี้ไม่ยากเลย แถมยังเป็นการจัดบ้านให้ดูสวยงามอีกด้วย
2. หาม่านหรือมู่ลี่มาใส่ที่ประตูหรือหน้าต่างบานหลังบ้านเอาไว้
3. ถ้าบ้านคุณมีความลึกอาจจะใช้ทั้งสองกรณีนี้ร่วมกัน แต่ถ้าบ้านคุณไม่ตื้นลึกเท่าไหร่ การวางพรมตรงกลางบ้านสักผืน และติดไฟห้อยลงมาตำแหน่งกลางบ้านก็จะช่วยชะลอพลังงานชี่ไม่ให้ไหลออกได้ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าบ้านไหนจะสะดวกแบบไหน
ห้องรับแขกที่อยู่แล้วรวย ผมเชื่อว่าทุกบ้านจะต้องมีห้องรับแขก จะเล็กหรือใหญ่ก็ถือว่าเป็นที่ต้อนรับคนเข้าคนออก คุณรู้มั้ยว่าห้องรับแขกนี้สำคัญมากๆสำหรับบ้านคุณ เพราะเวลาเปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะเจอห้องนี้ก่อน ห้องรับแขกตามหลักฮวงจุ้ยจึงเป็นตำแหน่งที่รองรับพลังงานชี่จากภายนอกสู่ภายใน การที่จะแต่งให้ห้องนี้ดูโดดเด่นรับพลังชี่ที่ดีมีหลายวิธีให้เลือกดังนี้
1. อย่าใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ใหญ่เกินไปสำหรับห้องนี้ ในกรณีที่ห้องรับแขกคุณกว้างมาก เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เกินไปจะทำให้บังพลังชี่ที่ไหลผ่านจากข้างนอกเข้าสู่ตัวบ้านจนหมด ทำให้พลังชี่ไหลเวียนไม่สะดวก
2. หาที่ติดภาพหรือหารูปปั้นที่เป็นจุดนำสายตามาวางไว้ในห้องนี้ อันนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน ภาพหรือรูปปั้นสวยๆจะช่วยดึงพลังชี่ที่ดีให้เข้ามาได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณคิดว่ารถที่คุณขับบ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ห้องรับแขกก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกันนี้กับบ้านของคุณ ภาพหรือรูปปั้นที่จะเลือกเข้ามาติดหรือวางไว้ ควรจะเป็นภาพหรือรูปปั้นที่ดูแล้วเป็นมงคล สวย สง่างาม และพยายามติดในตำแหน่งที่เวลาเดินเข้ามาแล้วสามารถมองเห็นได้ทันที
ทางเดินภายในบ้าน ทางเดินภายในบ้านเป็นพลังชี่เคลื่อนไหวตลอดเวลา อธิบายง่ายๆให้เห็นภาพก็คือถ้าเราเปรียบเทียบบ้านเป็นคน ทางเดินก็เปรียบได้กับเส้นเลือด ทางเดินภายในบ้านถ้าไม่สามารถเดินได้สะดวก ของวางไม่เข้าที่ ก็เหมือนเส้นเลือดของคุณเกิดการอุดตัน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก วิธีการจัดทางเดินให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยคือ
1. ทางเดินที่ดีไม่ควรสับสนซิกแซก คือควรจะเป็นทางเดินที่เดินได้สะดวก ไม่มีสิ่งของระเกะระกะหรือขวางไว้ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เข้ากัน
2. ทางเดินสับสนยิ่งอยู่ยิ่งติดขัด บางทีทางเดินที่สับสนนี้ เกิดจากบ้านที่เกิดการต่อเติมขึ้นทีหลังและต่อเติมแบบสับสน ต่อห้องเพิ่มมากมาย กั้นตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อยเพื่อให้เกิดเป็นห้องใหม่ จะทำให้บ้านดูทึบๆตันๆไปหมด บ้านแบบนี้ยิ่งอยู่มีแต่ยิ่งอับจน
3. ทางเดินในบ้านที่ค่อนข้างแคบ ในกรณีที่ทางเดินในบ้านค่อนข้างแคบนั้น แนะนำให้ใช้ไฟหรือแสงจากภายนอกช่วยด้วย การพยายามติดไฟในตำแหน่งที่แลดูแคบ ให้สว่างขึ้น เพื่อให้พลังงานหรือพลังชี่ไหลเวียนได้ดีขึ้น
จัดห้องนอนให้ดีก็รวยแล้วรวยอีก ห้องนอนถือว่าเป็นพระเอกของบ้าน เพราะห้องนอนเปรียบเสมือนที่ชาร์จแบตของตัวเรา วันวันหนึ่งเราใช้เวลาในห้องนอนประมาณ8ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย การนอนในตำแหน่งที่ดีที่ถูกถือว่าดีมาก การจัดห้องนอนให้ดีก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน บ้าน9ใน10หลังห้องนอนใหญ่มักจะมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ฉะนั้นเวลานอนพยายามปิดประตูห้องน้ำเอาไว้ แล้วเปิดหน้าต่างระบายอากาศภายนอกเอาไว้ด้วย และถ้าเป็นไปได้เตียงนอนนั้นพยายามวางให้ห่างจากห้องน้ำให้มากที่สุด ที่สำคัญพยายามดูเหลี่ยมมุมของห้องน้ำให้ดี อย่าให้พุ่งเข้ามาหาเตียงนอนเราเด็ดขาด วิธีแก้ฮวงจุ้ยเรื่องห้องน้ำในห้องนอนนั้น เนื่องจากห้ามปลูกต้นไม้ไว้ในห้องนอน ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่เราเรียนกันมาว่าต้นไม้จะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาตอนกลางคืนการวางต้นไม้เพื่อบังเหลี่ยมมุมในห้องนอนจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควร วิธีแก้ที่ขอแนะนำคือให้หาชั้นวางของโชว์หรือโซฟาตัวเล็กๆแนบเหลี่ยมมุมเข้าไป ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละห้องนอนที่ต่างกัน หรือให้ดีที่สุดถ้าพื้นที่เหลือ ทำเป็นห้องแต่งตัวหรือวอล์กกิงโคลสเซตไปเลยดีที่สุด หัวเตียงนอนควรหันไปพิงกำแพงทึบ ภาษาฮวงจุ้ยเรียกว่าเอ๋าเป๊ยซัว คือมีภูเขาให้พิงนั่นเอง ควรอย่างยิ่งในการนอนหันไปทางกระจกหรือหน้าต่าง เพราะด้านหลังที่โล่งจะทำให้ไม่มีความมั่นคงเวลานอน แต่ถ้าบ้านไหนจำเป็นต้องหันไปนอนทางหน้าต่างจริงๆก็ให้หาผ้าม่านมาแขวนไว้ถือว่าพอใช้ได้
ทั้งหมดนี้ถิอว่าเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นการเสริมฮวงจุ้ยบ้านคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอให้รวยๆเฮงๆกันทุกบ้านนะครับ
ขอบคุณภาพประกอบ : Getty Images