ฮวงจุ้ย : ห้องนอนกับฮวงจุ้ย
โครงการบ้านระดับอภิมหาโครงการที่มีราคาบ้านตั้งแต่ 8-10 ล้านขึ้นไปในปัจจุบันนี้ สถาปนิกมักจะมีการออกแบบบ้าน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องคนงาน ห้องนอน ห้องออกกำลังกายหรือห้องนั่งเล่นไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในสัดส่วนที่ลงตัวกับจำนวนเนื้อที่ดิน เมื่อสร้างเสร็จเจ้าของบ้านก็เพียงแต่หิ้วเสื้อผ้าเข้าไป ก็สามารถอยู่ได้เลยถึงแม้จะเป็นโครงการใหญ่ แต่จำนวนของห้องนอนในบ้านเดี่ยวนั้น ปกติอย่างมากก็อาจมีได้เพียง 3-4 ห้องเท่านั้น และดูเหมือนห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน มักจะถูกกำหนดไว้สำหรับเจ้าของบ้าน สถาปนิกมักจะกำหนดตำแหน่งการวางเตียงและทิศทางของเตียงนอน ในห้องนอนแต่ละห้องไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเห็นได้จากผังบ้าน ที่ถูกกำหนดไว้ในใบโฆษณาขายโครงการแต่ละโครงการ แต่การลงตัวของสถาปนิกอาจจะแตกต่างไปจากการลงตัวของศาสตร์ด้านฮวงจุ้ย เพราะในทาง
ฮวงจุ้ย นอกจากจะเน้นถึงเรื่องของทิศทางการหันของบ้านแล้ว ยังได้เน้นถึงความสำคัญของห้องนอนไว้อีกด้วย เนื่องจากคนเราในแต่ละวันใช้ชีวิตไม่ได้แตกต่างไปจากนก เช้าก็ต้องบินออกหากิน ไปประกอบกิจกรรมต่างๆ เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง แต่เมื่อกลับถึงบ้านหรือรังนอน สิ่งที่ไม่ว่านกหรือคนเราต้องการประการแรกก็คือการพักผ่อน ดังนั้นการจัดห้องนอนที่ถูกสุขลักษณะ มีบรรยากาศที่ช่วยให้พักผ่อนนอนหลับ จึงถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง
ห้องนอนที่ถูกหลักในเรื่องของฮวงจุ้ย ล้วนแต่มีส่วนช่วยเสริมให้ผู้นอน นอนหลับได้อย่างสบาย มีสุขภาพที่แข็งแรง ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น กระปี้กระเปร่าในการที่จะทำงานหาเลี้ยงสมาชิกในครอบครัวและรับผิดชอบในหน้าที่การงานได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป ในครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น สมาชิกของครอบครัวมิใช่มีเฉพาะสามีภริยาเท่านั้น ยังต้องมีบุตร พ่อแม่ คนแก่หรือผู้สูงอายุ บริวารอื่นๆ อีก ในแต่ละวันคนเราจะใช้เวลาอยู่กับการนอนโดยเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง ซึ่งก็เท่ากับใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตอยู่บนเตียงนอนและห้องนอนอย่างต่อเนื่องกัน และอาจจะมากกว่านั้นสำหรับคนป่วย คนชรา คนทุพพลภาพที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ตลอดทั้งวัน ทารกแรกเกิดต้องใช้เวลาอยู่บนเตียงอย่างน้อยก็กว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น
* คนแก่หรือคนชราซึ่งในไม่ช้าก็คือตัวเราเอง * ทำอะไรจะเชื่องช้าลง เวลาในแต่ละวันจะหมดไปกลับการขลุกอยู่ในห้องนอน สภาพร่างกายและจิตใจค่อนข้างอ่อนแอ อยากจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเพื่อการพักผ่อน ให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี มีชีวิตชีวา ในส่วนของ
* เด็กหรือบุตรหลาน * พ่อแม่ก็ต่างมุ่งหวังให้ลูกเติบโตขึ้นมาด้วยความเฉลียวฉลาด มีอารมณ์ที่แจ่มใส และร่าเริง มีพัฒนาการที่ดีและสามารถที่จะก้าวเข้าสู่สังคมด้วยความมั่นใจ เด็กเองจึงไม่แตกต่างอะไรกับต้นกล้าที่ต้องการความรัก การทะนุถนอม การดูแลเอาใจใส่ ในเรื่อง
* ความสัมพันธ์ระหว่างสามี-ภริยา * จะยืนยาวหรือไม่นั้นเรื่องของความรัก อารมณ์เพศก็เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง จุดนอนหรือตำแหน่งเตียงนอน ยังเป็นจุดก่อกำเนิดเชื้อสายโลหิตที่ดีให้แก่ครอบครัว ดังนั้นความสมบูรณ์ส่วนหนึ่งของครอบครัว จึงต้องอาศัยหลักฮวงจุ้ยของห้องนอนที่ดีมาเสริม ตำแหน่งห้องนอน ตำแหน่งของการวางเตียง และทิศทางการนอน ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความพร้อมมูลของภาวะจิตใจ อารมณ์ และสุขภาพที่ดีได้
การที่วิชาฮวงจุ้ยได้เน้นหนักถึงตำแหน่งห้องนอน ตำแหน่งการวางเตียงและทิศทางการนอนนั้น ก็เพื่อให้สามารถรับเอา พลังชี่หรือกระแสคลื่นแม่เหล็กโลก ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาเสริมความเป็นมงคลและสุขภาพแก่ร่างกาย พลังชี่นี้อาจไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยมือ แต่รับรู้หรือรู้สึกได้เมื่อเข้าไปนอนหรือนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นๆ ที่มีความเข้มของสนามแม่เหล็กโลกมาก สนามแม่เหล็กที่เข้มขึ้นจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านความสมดุลของร่างกาย มีผลให้อายุยืนยาวขึ้น ช่วยยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์ให้สูงขึ้น เพราะมีผลต่อต่อมพิทูอิทารี่ที่เป็นศูนย์กลางการสร้างพลังความคิดในรูปแบบต่างๆ สิ่งแรก ที่จะช่วยให้การจัดห้องนอนสามารถทำได้อย่างลงตัวตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้น ก็คือลักษณะรูปทรงของห้องนอนนั่นเอง ห้องนอนหากจะให้ดีที่สุดตามหลักของฮวงจุ้ย ควรจะออกแบบห้องนอนในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพราะถือเป็นรูปทรงของธาตุดิน ที่มีความปลอดภัยและมั่นคงที่สุด การออกแบบ การเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ประกอบห้องนอนค่อนข้างที่จะลงตัว เราสามารถใช้ประโยชน์จากเนื้อที่ของห้องได้ทุกตารางนิ้ว หากทำเป็นรูปทรงกลมหรือครึ่งวงกลม จะต้องใช้พื้นที่มากขึ้นทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ปัญหาที่ตามมาก็คือการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างทำได้ลำบาก ไม่เข้ากับสภาพห้อง เตียงนอนก็ต้องออกแบบเป็นทรงกลม เพื่อให้เข้ากับรูปทรงของห้อง มองดูแล้วอาจเกิดความรู้สึกที่วกวนหรือวิงเวียน นานๆ เข้าอาจจะทำให้นอนไม่หลับ ปัญหาสำคัญ สมองของคนเราก็คือส่วนที่เก็บพลังหรือเป็นที่เก็บประจุไฟฟ้าของร่างกาย จะต้องมีการชาร์จไฟให้เต็มไว้ตลอดเวลาเพื่อพร้อมที่จะใช้งาน ในหลักของฮวงจุ้ยนั้น การนอนจึงจำเป็นจะต้องนอนเอาศรีษะชิดกำแพงด้านใดด้านหนึ่ง กำแพงของห้องนอนเหมือนกับกำแพงของจักรวาลเล็กๆ ที่ถูกย่อส่วนลงมา การนอนไม่ชิดกำแพงหรือที่เรียกว่าหัวเตียงลอย เหมือนกับการเสียบปลั๊กไฟ หากเสียบไม่ลึกกระแสไฟก็ไม่เข้า หรือเข้าก็ไม่เต็มกำลัง ลักษณะของการนอนก็ไม่แตกต่างไปจากการนั่งที่จะต้องมีพนักพิง เวลานั่งจะรู้สึกว่ามั่นคงไม่ต้องมัวพะวงกับสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง หากนอนโดยมีด้านศรีษะชิดกำแพงเอาไว้ก็จะช่วยให้เกิดความรู้สึกที่หนักแน่น มีสิ่งยึดเหนี่ยว สามารถระวังเฉพาะสิ่งที่จะมาจากด้านหน้าเพียงด้านเดียว หลักอันนี้มีลักษณะทำนองเดียวกับการสร้างบ้านของชาวจีนโบราณซึ่งต้องหาภูมิประเทศที่มีภูเขาอยู่เบื้องหลัง เพื่อเป็นแนวต้านกระแสลมที่พัดมาจากขั้วโลกเหนือ และยังใช้เป็นแนวป้องกันการรุกรานของศัตรูหรือข้าศึกได้ ดังนั้น การนอนที่ดีอย่างน้อยหัวเตียงจึงไม่ควรห่างจากฝาผนังมากจนเกินไป ลักษณะของห้องนอนที่เป็นรูปทรงกลมหรือครึ่งวงกลมยากแก่การที่จะวางหัวเตียงให้ชิดกำแพงได้ ทำให้การรับเอากระแสพลังชี่หรือกระแสคลื่นแม่เหล็กโลก ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่งผลให้ผู้นอนนอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับไม่สนิทอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้