ความเชื่อเรื่อง....กรรมเก่าแต่ปางก่อน
.......มีความเชื่อกันว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมาล้วนมีกรรมติดตัว แต่จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง...หลวงพ่อชื่น หรือพระอธิการชื่น จิตวันโน เจ้าอาวาสวัดใหม่ประชาราษฎร์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ท่านเป็นพระเกจิฯ ที่มีชื่อเสียงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อชื่นมีคำสั่งสอนบรรดาศิษย์ของท่าน ด้วยคำพูดแบบชาวบ้านๆ ฟังแล้วเข้าใจง่าย ท่านเคยเทศน์เรื่อง กรรมเก่า ให้บรรดาญาติโยมของท่านฟังว่า เรื่องของกรรมเก่านั้นมีจริง กฏแห่งกรรมเป็นสิ่งที่มนุษย์เราหนีไม่พ้น
กรรมเก่ามีจริง
"คนทั่วไปมักชอบพูดกันว่า กรรมตามสนอง ชดใช้เวรกรรม แต่จะมีสักกี่คนที่เชื่ออย่างจริงๆ จังๆ ส่วนมากแล้วจะเป็นพวกเชื่อแต่ปาก พูดตามความเคยชิน ที่พูดเช่นนี้เพราะสังเกตว่า คนที่พูดเรื่องกรรมดี กรรมชั่ว เขาพูดโดยที่ตัวเขาไม่ได้เชื่อว่ามีจริง เพราะถ้าเชื่อว่ากรรมมีจริง ทำไมเขาจึงยังทำความชั่วอยู่อีก
คนที่ประพฤติแต่กรรมดีในชาติปางก่อน สิ่งที่ได้รับในชาตินี้คือสิ่งที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ เชื้อชาติ วงศ์ตระกูล รวมทั้งมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีชีวิตตั้งอยู่บนความสุขสบาย แต่คนที่สร้างผลกรรมแต่ชาติปางก่อน สิ่งเป็นกรรมย้อนกลับคืนสนองในชาตินี้ คือความทุกข์ยากลำเข็ญ รูปร่างหน้าตาชั่วช้าอัปลักษณ์ มีวงศ์ตระกูลที่ต่ำต้อย คำเนินชีวิตอยู่บนความทุกข์ทรมาน"
แม้ว่าจะเชื่อเรื่องกรรมแห่งกรรม แต่คนเรามักจะมีความคิดว่า อีกนานกว่าที่กรรมจะตามทัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เวลานี้ดูเหมือนว่าการเดินทางของ "กรรม" มันจะรวดเร็ว จนเราคาดไม่ถึง...หากสังเกตก็จะพบว่าเวลานี้คนที่สร้างเวรกรรมทำเข็ญกับคนอื่น ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า ชาตินี้ผลกรรมก็ตามทันแล้ว คนร้ายที่ยิงคนตายตอนเช้า ปรากฏว่าตอนสายๆ ตำรวจก็ตามจับตัวมาลงโทษได้แล้ว การติดคุกติดตะราง เหมือนไม่ต่างกับการตกนรกทั้งเป็น บางคนทำใจไม่ได้ที่จะต้องมาติดคุกติดตะราง ท้ายที่สุดก็ต้องตรอมใจตายในคุกนั่นเอง
ประสบการณ์จริง "กรรมเก่า"
แม่ชีฉลอง มากทอง ได้ถือศีลปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลานานร่วม 15 ปี ในเรื่องของกรรมเก่า แม่ชีฉลองได้เล่าให้ฟังว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งเคยประสบกับตัวเองมาแล้ว แม้ว่ากาลเวลาจะเนินนานมากว่า 40 ปี แต่เหตุการณ์ทั้งหมด มันยังคงฝังตรึงอยู่ในความทรงจำ
"สมัยเมื่อตอนเด็กๆ ตัวของแม่ชีไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป คือชอบเก็บตัวเงียบ ชอบอยู่คนเดียว ไม่ชอบเล่นกับพวกเพื่อนๆ ฐานะทางครอบครัวจัดว่ามีอันจะกินเลยทีเดียว คุณพ่อมีที่นาหลายร้อยไร่ มีข้าทาสบริวารหลายสิบคน ต่อมาคุณพ่อก็ล้มเจ็บ อาการของพ่อหนักมากทีเดียว พ่อเลยทำพินัยกรรมยกที่ดินให้พวกลูกๆ แม่ชีก็ได้ที่ดินมาพอสมควร
ตอนนั้นมีน้าชายเข้ามาอยู่ในบ้าน น้าของแม่ชีเป็นคนใจร้าย นิสัยดุดัน แม่ชีกลัวเขามาก ทุกครั้งที่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน น้าจะต้องหาเรื่องทุบตีแม่ชีเป็นประจำ เขาอยากจะได้ที่ดินส่วนของแม่ชี แต่แม่ชีไม่ยกให้เขา เขาเลยโกรธมาก เรื่องราวมันยิ่งเลวร้ายมากขึ้น เมื่อน้าชายให้คนมาลอบฆ่าแม่ชี แต่เหมือนมีเสียงพรายกระซิบ เขามาเตือนให้แม่ชีรีบหนีไป อย่ากลับมาที่บ้านอีกเป็นอันขาด พวกพี่ๆ ของแม่ก็ถูกทำร้าย บางคนกลัวตายก็เลยต้องยกที่ดินให้ไป
หลังจากที่หนีออกจากบ้านแล้ว แม่ชีก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เพราะไม่เคยมาไกลบ้าน เงินก็ไม่มีติดตัวเลย ต้องอาศัยนอนศาลาวัด มันลำบากมากทีเดียว พระท่านสงสารก็เอาข้าวมาให้กิน ประทังชีวิตรอดตายไปวันๆ ตอนนั้นรับจ้างทำงานสารพัด ได้เงินมานิดหน่อยๆ ก็เก็บเอาไว้ ในที่สุดก็เข้ากรุงเทพมาทำงานโรงงาน
ตอนที่มาทำงานในโรงงาน ความรู้สึกผิดปรกติเริ่มเกิดขึ้น "เหมือนมีคนมากระซิบข้างหู บอกว่ากำลังจะมีเคราะห์ใหญ่ถึงกับเลือดตกยางออก แม่ชีก็ได้แต่ระวังตัวเรื่อยมา เคยเอาดวงไปให้หลวงพ่อท่านดู พอหลวงพ่อท่านเห็นดวงของแม่ชี ท่านถึงกับผงะตกใจ แล้วบอกว่าอาตมาดูดวงของแม่ชีไม่ได้หรอก แม่ชีไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่มีบารมีแต่ชาติก่อนย้อนกลับมาเกิด" ตอนที่ได้ยินก็ยังไม่เชื่อ คิดว่าหลวงพ่อท่านล้อเล่น แต่ท่านบอกว่าไม่ใช่ล้อเล่น นี่เป็นเรื่องจริง แล้วให้แม่ชีลองฝึกนั่งสมาธิดู แม่ชีบอกว่านั่งสมาธิไม่ได้หรอก เพราะเป็นคนไม่มีสมาธิ หลวงพ่อก็เลยสอนการนั่งสมาธิให้แม่ชี
แม่ชีนั่งสมาธิในครั้งแรกเพียง 20 นาที ความอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นทันที เราสามารถเห็นภาพในอดีตแต่ชาติปางก่อน ตอนนั้นตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าชาติที่แล้วเราจะบุญวาสนาถึงเพียงนั้น พอนั่งไปเรื่อยๆ เราก็เห็นว่า ชาติที่แล้วเราทำกรรมอะไรไว้บ้าง เราชอบดุด่าบริวาร ชอบทำร้ายผู้อื่น ชอบทารุนสัตว์ เอามีดมาตัดนิ้วของเป็ดไก่ เห็นเลือดสดๆ ไหลนองพื้น มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก
แม่ชีได้ถามหลวงพ่อว่า ภาพที่เห็นทั้งหมดเป็นภาพลวงตาใช่หรือไม่ หลวงพ่อท่านบอกไม่ใช่ภาพลวงตา เป็นภาพจริงซึ่งเกิดขึ้นเมื่อชาติที่แล้ว ผลกรรมต่างๆ ที่แม่ชีได้ก่อเอาไว้ มันจะย้อนกลับมาในชาตินี้ ไม่มีทางจะหนีพ้น แม้ว่าจะสร้างกุศลผลบุญสักเท่าใด ก็ไม่อาจจะล้างหนี้กรรมได้เลย
จากนั้นแม่ชีก็สมัครเข้าทำงานโรงงาน ตลอดเวลาก็ระวังตัว กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้นกับตัวเอง วันหนึ่งกรรมเก่ามันก็ตามมาทัน แม่ชีกำลังป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องตัด ปรากฏว่านิ้วกลางของแม่ชียื่นเข้าเครื่องมากไป คมของใบมีดเลยตัดนิ้วกลางขาดกระเด็น ตอนนั้นมันเจ็บปวดมาก เลือดแดงฉานไหลนองพื้น มันเหมือนภาพตอนที่เราตัดนิ้วเป็ดไก่ไม่มีผิด ในใจก็คิดว่าเราได้ชดใช้เวรกรรมไปแล้ว" เมื่อต้องสูญเสียอวัยวะคือนิ้วกลางไปแล้ว แม่ชีก็ได้นั่งสมาธิเพื่อที่จะได้ล่วงรู้ถึงอนาคตว่า จะมีผลกรรมใดบังเกิดขึ้นกับตัวเองอีก
"ภาพที่ปรากฏในมิติเป็นภาพแม่ชีกำลังใช้เหล็กแหลม ทิ่มที่เท้าของทาสคนหนึ่ง มีเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา ทาสคนนั้นแสดงความเจ็บปวดจนแทบขาดใจ แต่แม่ชีกลับไม่นึกอะไร เห็นความเจ็บปวดของผู้อื่นเป็นเรื่องปกติ ตอนนั้นคิดว่าผลกรรมเรื่องนี้ จะต้องเกิดขึ้นอีกในไม่ช้านี้
วันหนึ่งแม่ชีกำลังรื้อกองไม้ ซึ่งไม้กองนั้นสูงมาก ขณะที่กำลังรื้ออยู่นั้น ไม้ท่อนหนึ่งมีตะปูขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา ไม้ท่อนนั้นได้ตกลงมาที่เท้าของแม่ชี ตะปูได้กระแทกที่หลังเท้าของแม่ชี จนทะลุไปใต้ฝ่าเท้า ตอนนั้นมีความเจ็บปวดมาก แม่ชีเห็นมีผู้ชายคนหนึ่งยืนมอง เขาไม่ช่วยแถมยังหัวเราะชอบใจ แม่ชีนึกขึ้นมาได้ว่า มันเหมือนคนที่แม่ชีใช้เหล็กแหลมทิ่มนั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่าเจ้ากรรมนายเวรจะคอยติดตาม จองล้างจองผลาญเราถึงขนาดนี้"
.........ขอฝากเป็นข้อคิดมายังท่านผู้อ่าน เรื่องของกฎแห่งกรรม เรื่องของกรรมเก่า เป็นเรื่องที่เชื่อกันมานานแล้วว่า มีอยู่จริง !!!
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oocities.org/sumpud/S6.htm