ขอพรเสริมดวง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ
ขอเอาใจสำหรับชาว Sanook! ที่ชอบทำบุญไหว้พระขอพรเสริมดวงชะตากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดัง ที่มาแนะนำให้คุณๆ ได้ลองไปไหว้ขอพรสักการะสักครั้งในชีวิต
ซึ่งสถานที่ ที่แนะนำกันนั้นมีทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างประเทศไม่ไกลจากไทยมากนัก สำหรับคนที่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวก็ไม่ควรพลาดตามรอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้
ว่าแต่จะเป็นที่ไหนบ้าง แล้วแต่ละที่มีความโดดเด่นในด้านไหนบ้างไปดูพร้อมๆ กันเลย
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร
"วัดพระแก้ว" เป็นวัดประจำคู้บ้านคู่เมืองของไทยเรา ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวก็จะต้องไปกราบไหว้หรือเดินชมความงามของสถาปัตยกรรมภายในวัดพระแก้วกันทุกคน
วัดพระแก้วเดิมทีเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา จนล้นเกล้ารัชกาลที่ 1 มีพระราชประสงค์ให้อัญเชิญของ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกตที่ศักดิ์สิทธิ์ มาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งนี้
วัดแห่งนี้กล่าวกันว่าเป็นสัญลักษณ์และกึ่งใจกลางแทนดาวจันทร์ คนที่มากราบไหว้ขอพรส่วนใหญ่จะขอในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรุ่งเรือง มีสติปัญญา ชนะอุปสรรค มีความก้าวหน้าในชีวิตการงาน หรือชีวิตสุขสบายมากด้วยทรัพย์สินเงินทองไม่ขาดมือนั้นเอง
โดยจะต้องไปกราบไหว้ที่องค์พระแก้วมรกตในโบสถ์ ซึ่งการกราบไหว้นั้นมีพิธีกรรม คือ การกราบบูชาพระรัตนตรัย ด้วยการตั้งนะโมสามจบและสวด อะระหังสัมมา สัมพุทโธ ต่อจนจบด้วยสมาธิอันแน่วแน่ด้วยความศรัทธา ตามด้วยการสวดคาถามบูชาดวงชะตาแล้วอธิษฐานขอพระในสิ่งที่ต้องการ...
ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
"ศาลหลักเมือง" คือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของหลักเมือง ซึ่งตามธรรมเนียมพิธีของศาสนาพราหมณ์กล่าวว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น
ศาลหลักเมืองในประเทศไทยส่วนใหญ่ทำจากไม้มงคล เช่น ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ ในลักษณะเสา ปลายยอดเป็นดอกบัวตูม หรือหน้าเทวดา หรืออาจเป็นหลักหินโบราณ ใบเสมาโบราณ ที่พบในพื้นที่นั้นๆ
โดยที่ศาลหลักเมืองนั้นเป็นสถานที่รองลงมาจากวัดพระแก้วที่เราได้กล่าวไปข้างต้น (เพราะสถานที่อยู่ไม่ไกลจากกันมานัก ใครที่ไปวัดพระแก้วแล้วก็มักจะมาที่ศาลหลักเมืองด้วยเช่นกัน)
การมากราบไหว้ที่ศาลหลักเมืองนี้ เป็นเหมือนการมาฝากดวงชะตาถวายกับเจ้าพ่อหลักเมือง ถือเป็นการนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตในแต่ละปี ถ้ามาช่วงต้นปีหรือปีใหม่จะยิ่งดีเหมือนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้ชีวิตที่จะดำเนินต่อไปในปีนั้นรุ่งเรืองไร้อุปสรรคไปตลอดทั้งปี
ซึ่งการไปสักการะที่ศาลหลักเมืองมีเคล็ดลับว่า ต้องไปไหว้ "เทพารักษ์ทั้ง 5" คือ พระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี , เจ้าพ่อเจตคุปต์ , เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี"
และไหว้เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว และไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย ถึงเป็นอันเสร็จสมบรูณ์เพื่อเตรียมพร้อมในการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตตลอดทั้งปีนั่นเอง
หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
สถานที่ต่อไปออกมาชานเมืองกันบ้างไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก มุ่งตรงสู่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อกราบไหว้ "หลวงพ่อโสธร" วัดขึ้นชื่อของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่วัดนี้มีชื่อเสียงในการมากราบไหว้ขอพรให้ชีวิตรุ่งเรือง เสริมสิริมงคลแก่ชีวิตในทุกๆ ด้านรวมไปถึงหากใครที่มีเรื่องเดือนร้อนใจต้องการที่พึ่งทางใจ ก็จะมาทำการบนขอให้หลวงพ่อช่วยในสิ่งที่ต้องการ
โดยส่วนใหญ่จากประสบการณ์จะสำเร็จเกือบทุกราย จึงทำให้ชาวบ้านประชาชนจากทั่งทุกมุมของประเทศแห่กันมาไหว้ขอพรสักการะองค์หลวงพ่อโสธรกันตลอดไม่ขาดสาย
เคล็ดลับอีกอย่างสำหรับการขอพรโดยการบน คือ ถ้าได้สิ่งที่ขอดังที่หวังไว้แล้วคนส่วนใหญ่จะนำไข่ต้มมาแก้บน ตลอดจนถวายนางละครจากนางรำที่ทางวัดได้มีจัดเตรียมไว้ให้
เพราะความศรัทธาที่มากมายของเหล่าคนทุกหนแห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างโบสถ์ใหม่ที่ใหญ่และสวยงามเพื่อรองรับการมาของผู้ที่มีจิตศรัทธาอยากมากราบไหว้หลวงพ่อได้สะดวกสบายขึ้น แต่ในส่วนโบสถ์เก่าก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิมเปิดให้เข้าไปกราบไหว้ขอพรได้ปกติ ใครสะดวกตรงบริเวณไหนก็เชิญเข้าไปกราบไหว้ได้ตามจิตศรัทธา
พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม
มาต่อกันที่ การกราบไหว้ "องค์พระปฐมเจดีย์" ถือเป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยมไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก เพราะที่แห่งนี้เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน และที่สำคัญเลยนั่นก็คือที่แห่งนี้เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้
ส่งผลให้ที่องค์พระเจดีย์มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ตามความเชื่อ หากใครที่มีโอกาสไปไหว้ขอพรที่นี่ แล้วอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็มักจะได้รับสิ่งนั้นสมดังปรารถนาในทุกประการ
ไหวพระขอพรกับสถานที่ศักดิ์ขึ้นชื่อในประเทศกันไปแล้วขอพาชาวสนุก!ดูดวงบินลัดฟ้าไปประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทยกันบ้าง เริ่มกันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยเรา นั่นคือ "ประเทศพม่า"
ที่นี่เป็นประเทศที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ขึ้นชื่อที่กำลังเป็นที่สนใจของต่างชาติเป็นอย่างมากหนึ่งในนั้น คือ คนไทยเรานี่เองที่ถึงขนาดว่ามีจัดเป็นกรุ๊ปทัวร์ทำบุญไหว้พระขอพรตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในพม่ากันเลยทีเดียว
แต่สำหรับวันนี้เราจะขอแนะนำกันเฉพาะที่เด็ดและคิดว่าถ้าคุณมีโอกาสไปพม่าควรจะไปไหว้ขอพรสักครั้ง...
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า
หากใครที่มาที่ประเทศพม่า แน่นอนว่า ต้องมาไหว้พระขอพรที่ "พระมหาเจดีย์ชเวดากองแห่งเมืองย่างกุ้ง" เพราะที่นี่เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่า (คล้ายกับวัดพระแก้วของไทยเรา)
ที่นี่เป็นสถานบรรจุพระเกศาธาตุ 8 เส้น ที่ว่ากันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล ชั้นบนๆหุ้มด้วยทองคำแท้ ดังนั้นที่นี่จึงมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าหาได้มาสักการะขอพรก็จะได้สำเร็จสมหวังดังใจปอง
และแน่นอนเมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้วนอกจากจะไหว้ขอพรกับพระมหาเจดีย์แล้ว ก็ต้องไม่ลืมมาไหว้ขอพรกับ "เทพทันใจ" ซึ่งเป็นเทพที่ประทานพรได้ทันใจสมชื่อ โดยส่วนใหญ่คนที่มาไหว้ที่นี่
เชื่อกันว่า เทพทันใจ (นัตโบโบยี) เป็นเทพที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากว่าไหว้ขอพรอะไรไว้ก็จะได้สมดังใจปรารถนาทุกประการแบบทันใจกันไปเลย
จะเห็นจากคนดัง ดารา นักแสดงของไทยเราก็นิยมไปขอพรที่นี่กันมากมาย ใครมีโอกาสลองไปสักครั้งจะได้เสริมดวงให้ชีวิตราบรื่นในทุกๆ ด้าน
จากประเทศพม่าขยับออกมาไกลอีกนิดที่ฮ่องกงกันบ้าง ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งของใครหลายคนแล้ว แต่ใครจะรู้บ้างว่าในความอู้ฟู่เต็มที่ไปด้วยความวุ่นว่าย ก็ยังคงมีสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่...ถ้าอยากรู้ตามไปดูกัน
วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่อ่าว รีพัลส์ เบย์ (Repulse Bay) ฮ่องกง
ที่นี่เป็นสถานที่โด่งดังในเรื่องการมาไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครที่มีโอกาสมาที่ฮ่องกงพลาดไม่ได้กับการมาขอพรในสถานที่แห่งนี้ เพราะมาที่นี่สามารถขอพรได้กับเทพหลายองค์เป็นเหมือนที่รวมของเทพ เริ่มกันที่
"ไหว้ขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม" ด้วยการเดินบนวงกลม (ตรงจุดที่ไหวขอพร) เพื่อนำสิ่งไม่ดีออกไป และจากนั้นก็ไปขอพรจาก "เทพไฉ่ซิงเอี้ย" เพื่อให้ท่านประทานโชคลาภ ความร่ำรวย มาให้
ส่วนคนทีอยากมีลูก ให้ลูบที่ท้องพระ ลูบด้านขวาขอลูกชาย ด้านซ้ายขอลูกสาว ต่อกันด้วยการไหว้ "เจ้าแม่ทับทิม" เพื่อให้คุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง รวมไปถึงเรื่องธุรกิจค้าขาย
และสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ คือ "เดินข้ามสะพานต่ออายุ" เชื่อกันว่าทุกครั้งที่ข้าม อายุจะยืนขึ้นอีก 3 วัน ส่วนใครที่อยากสมหวังในความรักก็สามารถมาขอพรจาก "เทพแห่งความรัก" ได้ที่นี่เช่นกัน เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้พรกลับไปครบสมบูรณ์กันเลย
ข้ามกันไปไกลหน่อยที่ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณเก่าแก่หลายที่ โดยมีมาแนะนำกันสองที่ ที่หากว่าคุณมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะต้องแวะเวียนไปให้ได้ เริ่มกันที่
วัด Kotoku-in พระพุทธรูปใหญ่ คามาคุระ (Kamakura Daibutsu)
พระองค์นี้เป็นที่คุ้นตากันดีโดยเฉพาะตามาบริษัททัวร์ญี่ปุ่นรวมไปถึงตามหนังสือคู่มือท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในนาม Daibutsu ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “พระพุทธองค์ใหญ่”
ซึ่งที่วัดนี้โด่งดังมาจากข้อความสัจธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า “ความดีเท่านั้นที่คงทน” เปรียบได้กับพระพุทธรูปใหญ่คามาคูระ ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ไม่ว่าจะโดนพายุ สงคราม ที่ร้ายแรงขนาดไหน องค์พระก็ยังคงประดิษฐานอยู่ที่เดิม
จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาจากคนญี่ปุ่นและรมไปถึงชาวต่างชาติที่ไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็ต่างให้ความศรัทธาเป็นอย่างมากเช่นกัน
จุดสำคัญที่ทำให้พระพุทธรูปใหญ่คามาคูระนั้นโด่งดังและมีคนนับถือและศรัทธามากมายขนาดนี้ ก็เพราะการสร้างของพระพุทธรูปใหญ่มาจากเงินบริจาคโดยพระสงฆ์ และประชาชนที่ศรัทธา โดยเวลาล่วงเลยไปกว่า 750 ปีด้วยแรงศรัทธากับความเชื่อต่างๆ ทำให้คนญี่ปุ่นรวมถึงผู้คนจากทั่วโลกมาแสดงความเคารพต่อพระพุทธรูปใหญ่ของคามาคุระองค์นี้
และสถานที่สุดท้ายก็เป็นที่ประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกันซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นอีกที่ นั่นคือ
วัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่โดดเด่นด้วยโคมแดงยักษ์ขนาดใหญ่ใหญ่
วัดอาซากุสะคันนง (Asakusa Kannon) หรือวัดเซ็นโซจิ ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ของประเทศญี่ปุ่น วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในของญี่ปุ่น สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.628-645
จุดเด่นของวัดอาซากุสะ คือ โคมแดง ขนาดใหญ่มหึมาที่ตั้งอยู่บริเวณประตูคามินาริมง ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 เทวบาลรักษาประตู ได้แก่ ฟูจิน เทพเจ้าแห่งสายลม และ ไรจิน เทพเจ้าแห่งอสุนีบาต
ภายในวัดอาซากุสะจะมีการสักการะ "เทพเจ้าคันนง" โดยการรดน้ำ และตรงกลางวัดจะมี "กระถางธูปขนาดใหญ่" ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าผู้ใดได้รับควันธูปจากกระถางธูปนี้ จะโชคดีมีสุข นอกจากนี้ยังมีการทำบุญไหว้พระด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง และการเสี่ยงเซียมซีตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นอีกด้วย
และทั้งหมดนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เรามานำแนะให้คุณๆ ได้ทราบกัน ใครสะดวกที่ไหนก็หาเวลาหาโอกาสไปไหว้ขอพรกันได้
ยิ่งในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะถือเอาฤกษ์ดีเป็นการเสริมดวง เพิ่มสิริมงคลให้แก่ต้นเองเพื่อจะได้มีชีวิตที่ราบรื่นไร้อุปสรรคไปตลอดทั้งปีกันเลย
...ส่วนใครที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนที่ไปมาแล้วอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนคนอื่นได้รู้ก็เข้ามาพูดคุยคอมเมนท์กันได้เลยค่ะ