โบสถ์เทพมณเฑียร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต้องไปสักครั้ง!

โบสถ์เทพมณเฑียร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต้องไปสักครั้ง!

โบสถ์เทพมณเฑียร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต้องไปสักครั้ง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โบสถ์เทพมณเฑียร สถานที่ชื่อแปลกๆ ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเราเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากคุณได้รู้จักและทราบถึงเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้แล้ว คุณจะต้องอึ้ง! เพราะที่นี่เป็นเหมือนสถานที่รวมของเทพหลากหลายองค์ ที่คนทั่วไปต่างยกย่องศรัทธามากมาย….

โบสถ์เทพมณเทฑียรถูกสร้างขึ้นโดย ศาสนิกชนชาวฮินดู ชาวภารตะ (ชาวอินเดีย) ในประเทศไทย เพื่อเป็นการรวมใจชาวภารตะให้เป็นหนึ่ง ณ อาคารเล็ก ๆ หลังหนึ่งในย่านหลังวังบูรพา (ใกล้โบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า) ในนาม "ฮินดูสภา" ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น "สมาคมฮินดูสมาช" จนถึงปัจจุบัน

โบสถ์เทพมณเฑียรโบสถ์เทพมณเฑียร

แต่เวลาผ่านไปสมาคมได้มีการขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น ตลอดจนทางสมาคมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงได้สร้างโรงเรียนขึ้นมาด้วยในบริเวณตรงนั้น คือ "โรงเรียนภารตวิทยาลัย"

จึงได้ทำการก่อสร้าง "โบสถ์เทพมณเฑียร" ขึ้น และได้อัญเชิญเทวปฏิมา ของพระผู้เป็นเจ้าและเทพยดา อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวฮินดู มาจากประเทศอินเดียเพื่อมาประดิษฐานเอาไว้ที่โบสถ์แห่งนี้ด้วย

ซึ่งในโบสถ์วัดเทพมณเฑียรแห่งนี้ มีเทวรูปหินอ่อนประดิษฐานอยู่หลายองค์ด้วยกัน โดยมี พระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี เป็นองค์ประธาน

 พระวิษณุ และ พระแม่ลักษมีพระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี

พระวิษณุนารายณ์ คือ มหาเทพผู้ดูแลรักษาโลก เยียวยาความเจ็บปวดให้กับทุกสรรพชีวิตที่ศรัทธาในพระองค์
พระลักษมี คือ มหาเทวีผู้ประทานความสมบูรณ์ ทรัพย์สมบัติและความร่มเย็นเป็นสุข

ทั้งสองพระองค์จึงเป็นเทพเจ้าผู้ประทานความรักอันบริสุทธิ์และความผาสุขอันเป็นนิรันดร์

นอกจากนี้ยังมีเทวรูปองค์เทพอื่นๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย อาทิ เช่น

 พระพรหมพระพรหม

พระพรหมคือผู้สร้างโลก เป็นหนึ่งในตรีมูรติ มีพระชายาคือ พระแม่สรัสวดี พระองค์เป็นผู้ลิขิตชีวิตมนุษย์ (พรหมลิขิต) และประทานความสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาแก่ผู้ศรัทธาทุกคน

 พระแม่ทุรคา พระแม่ทุรคา

พระแม่ทุรคา สัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็งและความมีอำนาจ เป็นเทวรูป อีกปางหนึ่งของพระแม่อุมาเทวีชายาแห่งพระศิวะมหาเทพ (ผู้ทำลาย)

 พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้า ชาวพราหมณ์ฮินดูถือว่าเป็นอวตารปางที่เก้าของพระนารายณ์ สัญลักษณ์แห่งความไม่เบียดเบียน (อหิงสา) 

ตามปุราณะและตำนานต่างๆของพราหมณ์เชื่อกันว่า พระพุทธเจ้าเป็นอีกปางหนึ่งของ พระวิษณุ

 พระราม และ ภควดีสีดาพระราม และ ภควดีสีดา

พระราม และ ภควดีสีดา (พระแม่สีดา) พระรามเป็นอวตารปางที่เจ็ดของพระวิษณุ มหาเทพผู้เก่งกล้าจากมหากาพย์รามายณะ (รามเกียรติ์)เป็นปางหนึ่งของพระวิษณุอวตารเพื่อปราบมาร พระรามได้รับการสักการะจากชาวฮินดูเป็นอย่างมาก

 พระกฤษณะและชายาพระกฤษณะและชายา

พระกฤษณะและชายา อีกอวตารหนึ่งของพระวิษณุนารายณ์ พระกฤษณะคือผู้ให้กำเนิดคัมภีร์ภควัทคีตาเป็นอีกอวตารหนึ่งของพระวิษณุ ปรากฎในในมหาภารตะ พระองค์โปรดให้มนุษย์ทำในสิ่งที่ถูกต้องตามหน้าที่ และชี้นำเหล่าผู้ศรัทธาไปสู่โมกษธรรมอันสูงสุด

พระหนุมาน พระหนุมาน

พระหนุมาน อวตารของพระศิวะ เพื่อคุ้มครองดูแลพระราม พระหนุมาน บริวารและสมุนเอกแห่งพระราม ตามตำนานกล่าวว่าพระหนุมานมีกำลังเทียบเท่าพระพิฆเนศ

พระพิฆเนศวรพระพิฆเนศวร

พระพิฆเนศวร (พระคเณศ) โอรสของพระอิศวรและพระแม่อุมา มหาเทพผู้ประทานความสำเร็จแก่ผู้ศรัทธา

โดยส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่นอกจากจะมากราบไหว้องค์เทพอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความศรัทธาแล้ว สิ่งที่หลายคนนิยมขอมากที่สุดก็คือเรื่องของ “ความรัก” โดยเฉพาะการขอพรเรื่องความรักจากองค์เทพที่เป็นประธาน “พระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี” ซึ่งมีความเชื่อว่าองค์เทพทั้งสองเป็นเทพที่จะประทานพรมอบความรักอันบริสุทธิ์ที่เป็นนิรันดริ์ให้แก้ผู้ที่ไปตั้งจิตอธิษฐานอย่างจริงจัง ทำให้เราได้สมหวังได้ดั่งใจปอง

โบถส์มณเฑียรโบถส์มณเฑียร

สำหรับใครที่อยากสมหวังเรื่องความรักลองไปขอพรกับท่านได้เลยค่ะ…แต่สำหรับใครที่สมหวังในความรักแล้ว อยากจะไปกราบไหว้บูชาเทพองค์อื่นๆ ก็สามารถไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้

เพราะเราเชื่อว่าเมื่อไปแล้ว สิ่งที่จะได้กลับมาไม่ใช่แค่พรที่เราขอต่อองค์เทพ แต่เป็นความอิ่มเอมใจอิ่มบุญ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยได้กราบไหว้องค์เทพที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่มาจากอินเดีย โดยที่เราไม่ได้เดินทางไปไกลเลยค่ะ

สามารถมาขอพรได้ตามวันและเวลาดังนี้

- วันจันทร์ถึงวันพฤหัส ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30 – 12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.30 น. โดยในระหว่างเวลา 12.00 – 17.00 น. ทางเทพมณเฑียรจะปิดงดให้เข้าไปสักการะภายใน

- วันศุกร์ ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30 – 12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.00 น. โดยในระหว่างเวลา 12.00 – 17.00 น. ทางเทพมณเฑียรจะปิดงดให้เข้าไปสักการะภายใน

- วันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดต่างๆ เปิดให้เข้าได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 20.30 น.

แถมอีกนิดสำหรับคนที่ต้องการนำดอกไม้หรือพวงมาลัยมาถวายองค์เทพ ต้องจัดเตรียมมาเองให้พร้อมนะคะ เพราะที่นี่ไม่มีขาย

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ห้ามผู้ที่เข้ามาสักการะทำการจุดธูปเทียนภายในบริเวณเทพมณเฑียรอย่างเด็ดขาด (ยกเว้นพราหมณ์ที่จะจุดในขณะประกอบพิธีบูชาเท่านั้น)

การเดินทางมาที่โบสถ์เทพมณเฑียร ก็สังเกตง่ายๆ ว่าจะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดสุทัศน์เทพวราราม โดยมีรถประจำทางผ่านหลายสายดังนี้ สาย10 12 19 35 42 56 96 และรถปรับอากาศสาย 42

และนี้ก็เป็นเรื่องราวของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งที่เรามีมาฝากชาว Sanook! Horoscope ใครที่อยากจะไปไหว้ขอพรไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก หรือเรื่องอื่น ก็สามารถไปได้ที่ โบสถ์เทพมณเฑียรกันได้ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook