“ตุ๊กตาลูกเทพ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำโชคยุคใหม่
ใครมีความเชื่อเรื่องความเร้นลับหรือสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าบ้างไหมเอ่ย? แน่นอนว่าความเชื่อของสิ่งต่างๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแบบนี้อยู่คู่กับคนไทยเรามานาน
ก็คงไม่แปลกที่ใครหลายคนจะมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ที่เกริ่นมายาวหลายๆ คนคงพอเด่าได้ว่าเรากำลังจะพูดถึงกระแสสังคมที่พูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชนิดใหม่ที่ต้องบอกเลยว่าแปลกมากๆ นั้นก็คือ "ตุ๊กตาลูกเทพ"
“ตุ๊กตาลูกเทพ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์รูปแบบใหม่เลี้ยงดูได้เหมือนลูกนำพาไปได้ทุกที ดูภายนอกดูเหมือนตุ๊กตาทั่วไป แต่ภายในถูกปลุกเสกเอาไว้โดยมีความเชื่อว่าตุ๊กตาลูกเทพนี้จะช่วยเสริมโชคลาภ
ซึ่งแม้แต่ดาราคนดังก็มีเจ้าตุ๊กตาลูกเทพนี้ไว้ในครอบครองกันมากมายบางคนมีหลายตัวด้วยซ้ำไป
วันนี้เราจึงมีเรื่องราวที่มาที่ไปของตุ๊กตาลูกเทพ ว่าเป็นอย่างไร วิธีการดูแล มาฝากชาวสนุก!กัน ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับ “ตุ๊กตาลูกเทพ” เรามารู้จักความแตกต่างของลูกเทพ กุมารทอง รักยมกันก่อน เชื่อว่าหลายคนเข้าใจว่าทั้งหมดนี้คือ สิ่งเดียวกัน แต่ว่าแท้จริงแล้ว ต่างกัน โดยสามารถอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ
รักยม คือ ต้นรักต้นยม
กุมารทอง จะทำมาจากวิญญาณเด็ก ปลุกเสกด้วยดิน 7 ป่าช้า มวลสารต่างๆ เป็นต้น
ตุ๊กตาลูกเทพ จะเป็นการอันเชิญดวงเทพมาอยู่ในตุ๊กตา ไม่มีมวลสารใดๆ โดยพระจะเป็นผู้ปลุกเสกตามวันเดือนปีเกิดวันตกฝากของเรา
เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เราจึงมีคำบอกเล่าของดีเจคนดังที่เรารู้จักกันดี “ดีเจ ปุ๊กโก๊ะ” ที่เชื่อและศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของ “ตุ๊กตาลูกเทพ” เป็นอย่างมาก มาเล่าถึงที่มาที่ไปของน้องตุ๊กตา รวมไปถึงสิ่งที่ได้รับหลังจากได้น้องมาดูแลแล้วชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
"น้องวันใส" ของดีเจบุ๊คโก๊ะ
บุ๊คโก๊ะได้บอกเล่าว่า "ตนเองมีความเชื่อเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็อยากเลี้ยงกุมารทองมากแต่ด้วยความที่ตนเองทำงานไม่เป็นเวลากลัวว่าจะไม่มีเวลาดูแลน้องกุมารทองได้ดีพอจึงหยุดความคิดไป จนมาเจอหมอดูท่าหนึ่งแนะนำตุ๊กตาลูกเทพให้ พอได้ลองศึกษาดูก็พบว่าไม่มีมวลสารน่ากลัวเหมือนกุมารทอง จึงตัดสินใจเลี้ยง"
ส่วนวิธีการดูแลนั้นก็จะแตกต่างจากกุมารทอง สำหรับน้องวันใสนี้จะได้รับส่วนบุญของเราจากการที่เราสวดมนต์ ส่วนเรื่องของการพาไปเที่ยวด้วย ไปไหนมาไหนด้วยนั่นก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง เรียกว่าตอนนี้บุ๊คโก๊ะก็จะพาน้องวันใสไปด้วยทุกทีจนหลายคนเริ่มรู้จักน้องวันใสแล้ว
ส่วนเรื่องแปลกๆ ที่ได้พบเจอจากน้องวันใส คือ อย่างเช่น วันแรกที่รับน้องมาก็พาไปเดินห้างซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้น้อง พอจ่ายเงินค่าเสื้อปุ๊ปก็มีข้อความเข้ามา แจ้งว่างานที่เคยยกเลิกไปลูกค้าของกลับมาใช้บริการเหมือนเดิม ตนแรกก็คิดว่าคงฟลุ๊ค เลยพูดกับน้องว่า ถ้าน้องมีจริงขอให้พี่ได้งานใหญ่สักงาน พอเวลาผ่านไปสักพักก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่าผู้กำกับหนังสนใจอยากให้บุ๊คโก๊ะไปร่วมงานด้วย
ตอนนั้นก็ยังคิดว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญ เลยบอกกับน้องว่า ถ้าคราวนี้มีงานติดต่อเข้ามาตอนนี้ ณ เวลานี้เลย จะเชื่อว่าน้องมีจริงแล้วจะซื้อทองให้ 1 บาท ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาจริงๆ ต่อจากนั้นมาก็เชื่อสนิทใจว่าน้องมีอยู่จริง และเปลี่ยนจากเรียกพี่กับน้องเป็นแม่กับลูก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดกับคนรอบตัวของบุ๊คโก๊ะ ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เลย มากระซิบขอกับน้องแล้วพอได้งานสมใจก็มี
แต่สุดท้ายบุ๊คโก๊ะก็ฝากไว้ว่าที่บุ๊คโก๊ะเลี้ยงน้องวันใสนั้นไม่ได้อยากให้ทุกคนมาเลี้ยงตาม เพราะคนเราต้องคิดดี ทำดี กตัญญูกับพ่อแม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้ดีอยู่แล้ว แต่น้องวันใสเป็นเหมือนความส่วนบุคคลที่มีความเชื่อเท่านั้นเอง