อานิสงส์ของการถวายเทียนพรรษา
ในช่วง วันเข้าพรรษา ถือว่าเป็นอีกวันที่พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่จะถือโอกาสเข้าวัดทำบุญ ฟังเทศน์ แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เรามักจะเห็นพร้อมๆ กันกิจกรรมการทำบุญคือ “ถวายเทียนพรรษา”
ในอดีตมีเรื่องเล่าว่าในระหว่างวันเข้าพรรษา พระภิกษุสงฆ์จะไม่สามารถไปจำวัดที่อื่นได้ และประกอบกับว่าในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน วัดในต่างจังหวัดไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยแสงสว่างจากเทียน ญาติโยม จึงมีการถวายเทียนในวันเข้าพรรษา เป็นที่มาของการ “แห่เทียนเข้าพรรษา” นั่นเอง
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://guru.sanook.com/4198/
โดยการทำบุญด้วยการถวายเทียนแบบนี้มีอานิสงส์ผลบุญที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การทำบุญด้วยวิธีอื่นๆ แต่จะได้อานิสงส์อย่างไรบ้าง เรามีข้อมูลมาให้ได้รู้กัน
หลวงพ่อพระราชพรหมยานเล่าถึงเรื่องราว อานิสงส์การถวายเทียนหรือหลอดไฟในวันเข้าพรรษาว่า "การถวายเทียนเข้าพรรษา หรือว่า ถวายกระแสไฟในพระพุทธ-ศาสนา เหมือนกัน อย่างนี้ถ้าเกิดเป็นเทวดาจะมีรัศมีกายสว่างมาก
ถ้าบรรลุมรรคผล จะเป็นบุคคลผู้เลิศใน ทิพจักขุญาณ อย่างพระอนุรุทธ"
ท่านได้ถวายเทียนเข้าพรรษาตลอดมา ถวายพระประทีปโคมไฟวัดไหนมืดชอบถวายตะเกียงบ้างน้ำมันบ้างให้มีแสงสว่างต่อมาในชาติสุดท้าย เมื่อเป็น พระอรหันต์วิชชาสาม ท่านสามารถมี ทิพจักขุญาณสว่างกว่าพระอรหันต์ทั้งหมด แม้แต่ พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณก็ยังสู้ไม่ได้
อีกประการหนึ่งถ้าท่านทั้งหลายไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม ก็จะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดา นางฟ้า และพรหมเขาถือรัศมีกายเป็นสำคัญเขาไม่ถือเครื่องแต่งกายเป็นสำคัญ องค์ไหนถ้ารัศมีกายสว่างมากองค์นั้นมีบุญมาก เมื่อมีจิตใจเลื่อมใส ได้ทำการบูชาเช่นนี้ พระชินศรีตรัสว่าเป็นมงคลอันสูงสุด
ดังพระบาลีว่า "ปูชาปูชะนียานัง เอตัมมังคลมุตตมัง" การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาเป็นมงคลอันสูงสุด อนึ่งชื่อว่าได้ขวนขวายในกิจ อันปราศจากโทษความเดือนร้อนในภายหลังมิได้ ย่อมได้รับผลพิเศษทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ขอบคุณภาพจาก http://guru.sanook.com/gallery/gallery/4198/264277/
การถวายเทียนพรรษานี้เป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบๆ มาเป็นเวลาช้านาน เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา ภิกษุทั้งปวงต้องจำพรรษาในอาวาสของตน 3 เดือน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดทำให้เป็นกุศลพิธีขึ้น เมื่อได้นำเทียนไปถวายพระสงฆ์แล้ว ท่านก็จะได้จุดบูชาต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ ส่งผลให้ผู้ถวายย่อมได้รับอานิสงส์ คือ
1. ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
2. ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ
3. ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
4. เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
5. ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
6. เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
7. เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
8. หากบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน
ขอบคุณภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/200269514649566052/
คำถวายเทียนพรรษา
ยัคเฆ ภันเต สังโฆ ปะฏิชานาตุ มะยัง ภันเต เอตัง ปะทีปะยุคัง สะปะริวารัง เตมาสัง พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ อิมัสมิง อุโปสะถาคาเร นิยยาเทมะ สาธุ โน ภันเต อะยัง เตมาสัง พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ ปะทีปะยุคัสสะ ทานัสสะ อานิสังโส อัมหากัญเจวะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ปิยะชะนานัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ ฯ
คำแปล
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงรับทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบถวาย เทียนคู่นี้ พร้อมกับของบริวารไว้ ณ พระอุโบสถนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษา ขออานิสงส์แห่งการถวายคู่เทียน เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษานี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย ตลอดกาลนานเทอญ ฯ
เคล็ดลับทำบุญ
ตั้งแต่ในอดีตที่เคยมีการถวายเทียน มีความเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตดีรุ่งเรืองโชติช่วงเหมือนดังแสงไฟจากเทียน หากเจอปัญหาก็จะพบทางออกที่เป็นเหมือนแสงสว่างของเทียน ต่อมาก็ได้มีการถวายเทียนเพื่อเป็นการเสิรมดวงความรัก โดยนิยมถวายเป็นคู่ เพราะเชื่อว่าแสงเทียนจะช่วยส่องสว่างในชีวิตเสริมให้ดวงความรักดีขึ้น มีชีวิตคู่ที่ราบรื่น
สำหรับคนโสดก็จะทำให้พบเจอแต่เรื่องดีๆ หรือเจอกับเนื้อคู่ในเร็ววันนั่นเอง
อย่างไรก็ดีตั้งแต่ในอดีต ผู้คนนิยมถวายเทียนพรรษาเพื่อให้พระภิกษุได้ใช้ส่องสว่างขณะจำพรรษาอยู่ที่วัด เชื่อว่าการถวายเทียน จะช่วยให้ชีวิตโชติช่วง พบเจอแต่เรื่องดีหรือ ถวายหลอดไฟก็ได้ แต่ผมแนะนำให้ถวายเป็นเทียนพรรษาดีกว่า เพราะตามตำราโบราณ มันได้ความรู้สึกบางอย่าง ซึ่งดีกว่าเป็นหลอดไฟ หากเป็นเทียน เวลาพระไปเดินจงกลมตรงไหน ก็จุดได้เลย