11 เรือนคลาสสิก ฮิตตลอดกาล

11 เรือนคลาสสิก ฮิตตลอดกาล

11 เรือนคลาสสิก ฮิตตลอดกาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่อง: สมพล มิ่งขวัญ
ภาพ: Mitch Payne

นาฬิกาเรือนเก่งที่พิสูจน์แล้วว่าจะอยู่เป็นที่นิยมไปอีกนานแสนนาน จะมีรายนามใดบ้างคุณคงต้องไปติดตาม


ZENITH
El Primero
กลไกระดับตำนานชุดนี้เริ่มร่างขึ้นในปี 1962 ด้วยไอเดียง่ายๆ คือเพื่อให้เป็นกลไกระดับตำนานที่จะเปิดตัวในวาระฉลองอายุ 1 ศตวรรษของซีนิธ (Zenith) ในปี 1965 ในฐานะกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติชุดแรกของโลก แม้แนวคิดจะง่ายแต่เรื่องทางเทคนิคนั้นไม่ง่าย เพราะกลไกชุดนี้ไปสำเร็จสมบูรณ์เอาในปี 1969 ซึ่งช้าไปจึงเลยเส้นยาแดงผ่าแปดไปนิด กลไก El Primero ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติ (แท้ๆ ที่ไม่ใช่การนำชุดโมดูลจับเวลามาประกอบบนเครื่องฐานกลไกอัตโนมัติอย่างของฮอยเออร์) ที่ดีที่สุดในโลก และได้รับการผลิตต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน

TAG HEUER
Monaco
โมนาโก (Monaco) คือหนึ่งในคอลเล็กชั่นนาฬิกาดีไซน์สุดคลาสสิกที่เกือบจะสูญหายไปในกาลเวลา เพราะถูกยกเลิกสายการผลิตในช่วงกลางยุค 70s มีความสำคัญในฐานะนาฬิกาตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสรุ่นแรกของโลกที่กันน้ำได้ และยังมาพร้อมฟังก์ชันจับเวลาโครโนกราฟ โมนาโกกลับสู่ตลาดอีกครั้งในแบบ 'Re-edition' ในปี 1998 โดยผลิตจำนวนจำกัดที่ 5,000 เรือน ก่อนที่จะกลับสู่สายการผลิตอย่างเต็มตัวในปี 2003 ด้วยกลไกชุดใหม่ที่ทำให้ต้องย้ายเม็ดมะยมกลับมาอยู่ฝั่งขวาเหมือนนาฬิกาโครโนกราฟทั่วไป [แต่ GQ ว่ารุ่นดั้งเดิมที่เม็ดมะยมอยู่ฝั่งซ้าย แต่ปุ่มกดจับเวลาทั้ง 2 ปุ่มอยู่ทางขวา ที่แท็ก ฮอยเออร์ (TAG Heuer) ตัดสินใจนำกลับมาผลิตอีกครั้งนี่เท่คลาสสิกกว่ากันเยอะ]

PATEK PHILIPPE
Calatrava
คอลเล็กชั่นนาฬิกาที่ได้รับการกล่าวถึงในฐานะผลงานระดับ 'เรือธง' ในหมู่นักประดิษฐ์นาฬิกาตลอดกาล เปิดตัวในปี 1932 รูปลักษณ์และกลไกของ Calatrava กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ต่างๆ มากมาย รวมถึงมีผลงานรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวออกมาอย่างสม่ำเสมอ และมีการปรับขนาดตัวเรือนหลายครั้งตามกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนไป ยุคหนึ่ง ปาเต็ก ฟิลิปป์ (Patek Philippe) เคยบรรจุเครื่องควอตซ์ลงในคอลเล็กชั่นนี้ด้วย แต่ได้ยกเลิกไปนานแล้ว และนี่คือคอลเล็กชั่นนาฬิกาที่นักสะสมว่ากันว่า 'ต้องมี'


OMEGA
Speedmaster
แม้คอลเล็กชั่นนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสุดดังนี้จะเปิดตัวครั้งแรกในปี 1957 แต่สปีดมาสเตอร์ (Speedmaster) ก็ต้องรอจนถึงปี 1969 กว่าจะได้ใช้ถ้อยคำแสนภาคภูมิ 'First Watch Worn on the Moon' เมื่อคาดติดข้อมือของบัซ ออลดริน (Buzz Aldrin) ขณะย่างเท้าจากยาน 'Lunar Module' ลงสู่ผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในขณะที่นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong) เพื่อนร่วมปฏิบัติการผู้เหยียบเท้าแรกของมวลมนุษยชาติลงบนผิวดวงจันทร์นั้นถอดสปีดมาสเตอร์ของเขาไว้บนยานเพื่อใช้เป็นตัวเทียบเวลาแทนนาฬิกาของยานที่ขัดข้อง (น่าเสียดายที่นาฬิกาของออลดรินสูญหายระหว่างที่จัดส่งให้แก่สถาบันสมิธโซเนียน) และปีถัดมา สปีดมาสเตอร์ของแจ็ก สวิเกิร์ต (Jack Swigert) ก็ได้ช่วยชีวิตลูกเรือของยาน 'Apollo XIII' เมื่อถูกใช้ทำหน้าที่กำหนดเวลาจุดระเบิดเครื่องยนต์ของยานพร้อมกันอีกครั้งในกำหนดที่ 14 วินาทีเนื่องจากนาฬิกาของยานเกิดความเสียหาย และก็ทำให้ทุกคนกลับสู่พื้นโลกได้อย่างปลอดภัย

IWC
Portuguese
คอลเล็กชั่นโปรตุกีส (Portuguese) ถือกำเนิดขึ้นในปลายทศวรรษ 1930s เมื่อ 2 นักธุรกิจชาวโปรตุเกส Messrs. Rodrigues และ António Teixeira มาเยือนโรงงาน IWC และแนะนำให้ผลิตนาฬิกาตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่มีความเที่ยงตรงเช่นเดียวกับ 'Marine Chronometer' ซึ่งใช้ในการเดินเรือ และวิธีเดียวที่จะทำเช่นนี้ได้ในเวลานั้นก็คือนำกลไกนาฬิกาพกมาใช้ ผลที่ได้คือนาฬิกาข้อมือขนาดใหญ่โตถึง 43.0 มิลลิเมตร (ถือว่าใหญ่มากสำหรับยุคนั้น) ปัจจุบัน...หัวใจหลักของคอลเล็กชั่นนี้ที่เปลี่ยนไปก็คือชื่อ เพราะชื่อโปรตุกีสนั้นไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Portugieser ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันแต่มีความหมายเช่นเดียวกันแทน

PANERAI
Radiomir
นาฬิกาพาเนอไร (Panerai) ไม่เคยที่จะหลุดกระแส เหตุผลง่ายๆ ข้อหนึ่งก็คือนี่ไม่ใช่นาฬิกา แต่เป็น 'อุปกรณ์' ที่สามารถบอกเวลาได้ (และยังสวยด้วย) ชื่อ 'Radiomir' ได้มาจากการแผ่รังสีของสารเรเดียมโบรไมด์ ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการผลิตสารเรืองแสงที่แต้มลงบนเข็มชี้และหลักชั่วโมง (ปัจจุบันผู้ผลิตนาฬิกาเลิกใช้สารกัมมันตรังสีนี้นานแล้ว เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง และได้เปลี่ยนมาใช้ 'Super-LumiNova' แทน) Panerai Radiomir เคยรับใช้ราชนาวีอิตาเลียนมาตั้งแต่ปี 1938 โดยใช้กลไกทำงานของโรเล็กซ์ และไม่ผลิตจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไป จึงทำให้ผลงานในอดีตเหล่านั้นกลายเป็นที่ต้องการของนักสะสม

JAEGER-LECOULTRE
Reverso
นี่น่าจะเป็นดีไซน์ซึ่งเป็นที่จดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา เรอแวร์โซ (Reverso) ถือกำเนิดขึ้นเมื่อนักธุรกิจนาฬิกาชาวสวิส César de Trey ได้รับคำร้องขอจากนักกีฬาโปโลอังกฤษในอินเดีย ว่าอยากได้นาฬิกาที่สามารถสวมใส่ระหว่างเล่นกีฬาได้โดยไม่ได้เสียหายหากถูกลูกโปโลพุ่งกระทบ ซึ่งเขาได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับแบรนด์เลอกูลตร์ (LeCoultre) นาฬิกาตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สามารถสไลด์ตัวเรือนออกไปด้านข้างแล้วพลิกกลับเอาด้านหลังตัวเรือนขึ้นมาไว้ด้านบนแทนได้สมชื่อ เรอแวร์โซจึงถือกำเนิดขึ้นและได้รับความนิยมไปทั่วโลกมากว่า 80 ปีนี่แล้ว

AUDEMARS PIGUET
Royal Oak
นี่คือดีไซน์สุดคลาสสิกที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูมาแล้วเมื่อเปิดตัวครั้งแรกในงาน 'Basel Fair' ปี 1972 ในฐานะนาฬิกาสปอร์ตหรู ซึ่งเป็นนาฬิกาตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่แพงที่สุดในโลกด้วยราคาเปิดตัว 3,000 ฟรังก์สวิส (แพงกว่านาฬิกาเรือนทองทั้งเรือนเสียอีก!) โดยเป็นผลงานการออกแบบของนักออกแบบนาฬิกาสุดอัจฉริยะ Gérald Genta ที่ออกแบบนาฬิกาชื่อดังระดับตำนานไว้มากมาย ปัจจุบันคอลเล็กชั่น Royal Oak และ Royal Oak Offshore ซึ่งเป็นรุ่นน้อง มีสมาชิกรุ่นต่างๆ มากมาย ทั้งยังเป็นคอลเล็กชั่นทำเงินสูงสุดของ Audemars Piguet

BREITLING
Navitimer
สัมพันธภาพอันดีระหว่างไบรต์ลิ่ง (Breitling) และโลกการบินสามารถสืบย้อนหลังกลับไปได้ถึงปี 1915 ในยุคของ Gaston Breitling ลูกชายของ Léon Breitling ผู้ก่อตั้งแบรนด์ โดยนาวิติเมอร์ (Navitimer) ถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาสำหรับนักบินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก คลาสสิกด้วยเอกลักษณ์การประดับ 'Slide Rule' หรือสเกลคำนวณค่าต่างๆ ทางการบินไว้บนพื้นหน้าปัด ซึ่งยังเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มาจนถึงรุ่นปัจจุบัน ประวัติการถือกำเนิดของนาวิติเมอร์นั้นยังคงคลุมเครือ เนื่องจากไม่พบบันทึกในส่วนนี้ แต่ทางไบรต์ลิ่งเองเชื่อว่าเปิดตัวครั้งแรกในปี 1952 แม้จะมี 'ผู้รู้' บางคนเห็นว่าน่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ราว 2 ปีก็ตาม

BVLGARI
Octo
ถือเป็นเรือนคลาสสิกที่มีอายุน้อยที่สุดที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ เพราะมีอายุแค่ราว 10 ปี อ็อกโต (Octo) เป็นผลงานการออกแบบที่สำคัญชิ้นสุดท้ายของเจราลด์ เจนตา (Gérald Genta) นักออกแบบนาฬิกาผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปีกัสโซและฟาแบร์เชแห่งโลกเวลา ที่ผ่านมา เจนตาเคยฝากผลงานการออกแบบไว้กับบุลการี (Bvlgari) มาแล้วด้วยความอมตะคลาสสิกของคอลเล็กชั่นบุลการี บุลการี อันเลื่องชื่อในปี 1977 คอลเล็กชั่นอ็อกโตนี้เป็นการนำเอาดีไซน์เลื่องชื่อของนาฬิกาตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมที่เจนตาเคยออกแบบและสร้างสรรค์ไว้ในปี 1994 ในฐานะนาฬิกาข้อมือที่สลับซับซ้อนที่สุดกลับมาตีความใหม่ ซึ่งก็ได้ผลสำเร็จอันงดงาม และกลายเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นของบุลการีที่จะก้าวขึ้นสู่ทำเนียบความคลาสสิกได้อย่างไม่ยากเย็น เจราลด์ เจนตา จากไปในปี 2011 ขณะอายุได้ 80 ปี

ROLEX
Submariner
จะบอกว่าซับมารีเนอร์ (Submariner) คือเรือนเวลาคู่ข้อมือนักดำน้ำที่โด่งดังที่สุดในโลกก็เห็นจะไม่ผิด แต่ที่แน่ๆ ก็คือนาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ปรากฏอยู่บนข้อมือของสายลับนักรัก James Bond 007 ในภาพยนตร์ (แต่ในบทประพันธ์ บอนด์สวม Rolex Oyster Perpetual ซึ่งไม่ได้ระบุละเอียดลงไปถึงชื่อรุ่นย่อย) โรเล็กซ์เปิดตัวซับมารีเนอร์ในปี 1953 ในฐานะนาฬิการุ่นแรกของโลกที่กันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ซึ่งต้องยกให้เป็นความดีจากความยอดเยี่ยมของตัวเรือนแบบ 'Oyster' นาฬิการุ่นนี้ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จากนักชีววิทยาทางทะเล และนักดำน้ำคนดัง Jacques-Yves Cousteau ผู้เป็นเพื่อนของคณะกรรมการบริหารของโรเล็กซ์



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook