ธุรกิจของนักกีฬาคนดัง
ธุรกิจของนักกีฬาคนดัง
Text : พลอย สุภจรรยา สิริพูน
เท่านั้นยังไม่พอ วิธีเพิ่มความรวยขึ้นอีกของนักกีฬายุคนี้ก็คือ การจัดสรรทรัพย์สินและเพิ่มรายได้ด้วยการลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว
ตัวอย่างเช่น "มาเรีย ชราโปว่า" เธอประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนามเทนนิส และกำลังไปได้ดีกับการเป็นแม่ค้าขายลูกกวาด "ชูการ์โปว่า" ที่บอกว่าขายดีสุดๆ แบบเทน้ำเทท่า ยอดขายถล่มทลายในสหรัฐ น้องมาเรียเลยคิดจะวางขายทั่วโลกไปเลย
ช่วงสามเดือนแรกลูกกวาดของมาเรียขายไปได้ 250,000 ถุง ทั้งๆ ที่โปรโมตน้อยมากเมื่อเทียบกับขนมยี่ห้ออื่นๆ ที่วางขายตามท้องตลาด สาเหตุที่ขายดีก็น่าจะมาจากการที่เธอพกชูการ์โปว่าไปไหนมาไหนตลอด ไม่ว่าจะได้แชมป์รายการไหนก็ต้องถ่ายรูปคู่กับสินค้าของเธอเสมอ (Tie in ขนาดนี้ขายไม่ดีก็ให้มันรู้ไป)
นักเทนนิสเจ้าของธุรกิจคนต่อมาก็คือ หนุ่มล่ำ "ราฟาเอล นาดาล" ที่นิตยสารฟอร์บจัดอันดับให้เป็นนักกีฬาที่มีค่าตอบแทนสูงอันดับต้นๆ ของโลก จับมือกับ "คาร์ลอส คอสต้า" เอเย่นต์คู่หูร่วมกัน เปิดบริษัทดูแลนักกีฬาในเรื่องการจัดการดูแลภาพลักษณ์ รวมถึงดูแลการเงินให้กับนักกีฬาหลากหลายวงการ ทั้งเทนนิส กอล์ฟ ฟุตบอล นอกจากนี้บริษัทของนาดาลยังจะรับจัดอีเวนท์การแข่งขันกีฬาอีกด้วย จากเจ้าพ่อคอร์ตดิน เราอาจจะได้เห็นนาดาลกลายเป็นเจ้าพ่ออีเวนท์สุดฮอตในไม่ช้า
และสำหรับวงการฟุตบอลนั้นคนที่รวยที่สุด ก็ต้องยกให้กับ "เดวิด เบ็คแฮม" ที่แม้ว่าอายุอานามจะปาไปถึง 37 ปี แล้ว แต่ทรัพย์สินที่สื่อหลายสำนักแอบคำนวณดู เขาน่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินเกือบเก้าพันล้านบาท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้า ทั้งยังได้รับค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ จาก เสื้อผ้า วิดีโอเกมส์ หนังสืออัตชีวประวัติ รวมทั้งแบรนด์น้ำหอมของตัวเองที่วางจำหน่ายในอเมริกา รวยขนาดนี้ เบ็คแฮมต้องใช้บริษัทถึง 8 แห่งในการดูแลรายได้และดูแลบัญชี เรียกว่าเดินหน้าโกยเงินอย่างเดียว อะไรก็ขายดีไปหมดถ้ามีชื่อของเดวิด เบ็คแฮม
นักฟุตบอลที่รวยไล่ตามมาห่างๆ มีทั้ง ลีโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน โรนัลโด, ริคาร์โด้ กาก้า, เวนย์ รูนีย์ที่ส่วนมากจะลงทุนในเรื่องการซื้อเกาะ ซื้อคฤหาสน์ อพาร์ทเมนต์ โรงแรม และรถหรูๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าอย่างโรนัลโด้ที่ประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอล แต่พอไปเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่นกับน้องสาวโดยใช้ชื่อว่า CR7 กลับขายไม่ดี จนตอนนี้ยุบเหลือเพียงแค่สาขาเดียวในโปรตุเกส
อีกคนที่ดูเหมือนจะแหวกแนวจากนักฟุตบอลคนอื่นสักหน่อย ก็คงจะเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่นอกจากมีธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเทศ แถมได้ค่าเหนื่อยและโบนัสที่สูงลิ่วแล้ว เขาเป็นอีกคนที่สนใจธุรกิจบันเทิง ทั้งผลิตรายการโทรทัศน์ รวมทั้งการเป็นเจ้าของค่ายเพลงที่มีชื่อว่า White Chalk Music รวมไปถึงร้านอาหารสุดหรูในเมืองแมนเชสเตอร์ที่ชื่อว่ารอสโซ ล่าสุดเจ้าตัวบอกว่าอยากไปทำธุรกิจแถวๆ สเปนบ้าง
ว่าแล้วก็อิจฉาเหล่านักกีฬาชื่อดังที่นอกจากจะเล่นกีฬาเก่ง ประสบความสำเร็จแล้ว พวกเขาก็ยังมองการณ์ไกลวางแผนอนาคตด้วยการต่อยอดการลงทุนต่างๆ ได้ดีทีเดียว
.....................................................................................................................
พร้อมด้วยหลากหลายบทความเกี่ยวกับ สุขภาพ สาวสวย และที่เที่ยวกลางคืนได้ที่นี่