รู้ทัน 5 สาเหตุของอาการคันศีรษะ พร้อมวิธีรับมืออย่างได้ผล
อาการคันศีรษะอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งการจะรักษาให้หายนั้น ก่อนอื่นเราต้องทราบกันก่อนว่าสาเหตุที่แท้จริงของอาการคันศีรษะนั้นคืออะไร ซึ่งจะได้หาวิธีรักษาได้ถูกจุด ลองมาดู 5 สาเหตุที่เป็นตัวการทำให้คุณคันศีรษะจนต้องเกาแล้วเกาอีกกันเลย
ภาพจาก : MALE grooming
รังแค และ โรคต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic dermatitis)
เป็นสาเหตุหลักของอาการคันศีรษะส่วนใหญ่เลยล่ะ หลายคนต้องเจอกับปัญหาหิมะตกกันเต็มหัวไหล่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหมักหมม และการเพิ่มปริมาณของยีสต์และเชื้อราบนหนังศีรษะ จนทำให้มีเซลล์หนังศีรษะหลุดลอกออกมาในปริมาณมากเกินไป และเกิดอาการคันศีรษะตามมา โดยปกติแล้วรังแคจะไม่มีการอักเสบ แต่หากว่ามีการอักเสบบริเวณหนังศีรษะเกิดขึ้น โดยมีลักษณะเป็นผื่นแดง มีขุย นั่นอาจแปลว่าคุณกำลังเป็นโรคต่อมไขมันอักเสบอยู่ก็เป็นได้
วิธีรับมือ: หากปัญหารังแคของคุณไม่หนักหนาอะไร เพียงแค่คุณใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของ ซิลีเนียม (Selenium) หรือ ซิงค์ ไพริไธโอน (Zinc pyrithione) เป็นประจำ ก็จะช่วยควบคุมปริมาณของยีสต์และเชื้อราบนหนังศีรษะได้ ซึ่งอาการคันศีรษะก็จะหมดไปหากคุณใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่ในเคสที่เป็นมากจนเกิดอาการอักเสบบนผิวหนัง ก็อาจมีความจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาเฉพาะทางในการรักษาอาการอักเสบบนหนังศีรษะเพิ่มเติมต่อไป
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งทำให้ผิวหนังกำพร้าแบ่งตัวเร็วทำให้เกิดเป็นแผ่นหนา และหากเกิดบริเวณหนังศีรษะก็จะมีลักษณะเป็นขุยสีขาวหนา เห็นเป็นขอบชัดเจนบนหนังศีรษะ ซึ่งแตกต่างจากขุยของรังแคโดยทั่วไป
วิธีรับมือ: ใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของ ซาลิไซลิค แอซิด (Salicylic Acid) เพื่อควบคุมอาการของโรค จากนั้นควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาต่อไป
กลากเส้นผม (Tinea capitis)
อาการคันศีรษะที่เกิดจากการติดเชื้อที่รากผม หรือที่เรียกกันว่า กลากเส้นผม โดยทั่วไปจะเห็นเป็นผื่นวงแหวนที่มีขอบชัดเจน มีอาการคัน มีสะเก็ดรังแค และมีผมร่วงเป็นหย่อมๆ
วิธีรับมือ: เบื้องต้นสามารถรักษาได้ด้วยการใช้แชมพูสระผมที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา แต่เนื่องจากเชื้อราฝังตัวลงไปถึงรากผม จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยามารับประทานเพื่อฆ่าเชื้อราอีกทางหนึ่งด้วย
เหาบนหนังศีรษะ
เมื่อพูดกันถึงเหา หลายคนมักคิดว่าจะพบแต่ในเด็กวัยเรียน แต่ในความเป็นจริงแล้วใครๆ ก็สามารถเป็นเหาได้ โดยเหานั้นเกิดจากเชื้อปรสิตที่ชื่อว่า “Pediculus humanas” ที่อาศัยอยู่บนหนังศีรษะและเส้นผมของคนเรา คอยดูดกินเลือดเป็นอาหาร และจะวางไข่เกาะติดแน่นบนเส้นผม ซึ่งบางทีอาจดูคล้ายกับรังแค แต่อาการคันนั้นค่อนข้างจะรุนแรง และหากเกามากก็อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นติดเชื้อจนกลายเป็นหนองได้
วิธีรับมือ: ใช้น้ำยากำจัดเหา หรือ แชมพูกำจัดเหาอย่างต่อเนื่องจนหายขาด ตามด้วยการใช้หวีเสนียดสางไข่เหาและตัวเหาที่ตายแล้วออกให้หมด นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้หวีหรือแปรงผมร่วมกับผู้อื่น
ปฏิกิริยาภูมิแพ้
บางครั้งอาการคันศีรษะก็มักจะมาจากปฏิกิริยาภูมิต้านทานของร่างกายที่ไวต่อสิ่งรอบตัว อาทิ การแพ้น้ำยาทำสีผม แพ้สเปรย์ฉีดผม เป็นต้น ก็อาจเป็นสาเหตุของอาการคันและเป็นผื่นแดงที่หนังศีรษะได้เช่นกัน
วิธีรับมือ: โดยปกติแล้วปฏิกิริยาภูมิแพ้นี้จะลดลงหรือหายไปได้เอง หากคุณหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมตัวที่คุณแพ้ ดังนั้นหากใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะตัวไหนก็ตามแล้วเกิดเป็นผื่นแดง หรือมีอาการแสบร้อน ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ แล้วรอดูอาการ หากยังไม่หายดีก็ควรไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาให้ถูกโรคต่อไป
หนุ่มๆ ลองสังเกตอาการคันศีรษะของคุณกันดูว่าเข้าข่ายข้อไหนหรือไม่? จะได้หาทางรักษาอาการได้อย่างถูกโรคต่อไป
ขอบคุณภาพประกอบ: http://www.pinterest.com