เมื่อคนส่วนใหญ่คบกันที่รูปร่างหน้าตาจากเคยหนัก 105 กิโลกรัม สู่ 75 กิโลกรัม

เมื่อคนส่วนใหญ่คบกันที่รูปร่างหน้าตาจากเคยหนัก 105 กิโลกรัม สู่ 75 กิโลกรัม

เมื่อคนส่วนใหญ่คบกันที่รูปร่างหน้าตาจากเคยหนัก 105 กิโลกรัม สู่ 75 กิโลกรัม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ Sanook! Men มีตัวอย่างดีๆ ของคนที่ลดน้ำหนักสำเร็จมาฝากอีกแล้ว โดยหนุ่มคนนี้มีอุปสรรค์ที่ความอ้วน จีบใครก็ไม่มีใครชอบ เขาเลยขอลดความอ้วนเติมความมั่นใจให้ตัวเอง ไปดูกันสิครับว่าหนุ่มคนนี้จะเปลี่ยนไปแต่ไหน แล้วสาวๆ ที่เคยเมิน ยังว่ายังไง ^^

ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งทางภาคอีสานที่มีริทเดอะสตาร์เรียนหมอ = มข. นั่นเอง555555ครับ ผมเป็นคนอ้วนคนหนึ่งครับ ตอนมอปลายเคยหนักสูงสุดถึง 105 กิโลกรัม ครับ ตอนมัธยมก็อยากมีแฟนนะครับจีบใครชอบใครเขาก็ไม่สนใจก็สงสัยว่าทำไมแต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายครับเพราะชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่กับเพื่อน สนุกเฮฮาไปแต่ละวัน

จนมาอยู่มหาวิทยาลัยครับ ผมคิดว่าเราจะได้มีแฟนที่นี่แหละเพราะสังคมเปิดกว้างเรามีโอกาสเจอคนมากมาย ตอนเข้ามาแรกๆ ไม่กล้าคุยกับใครเลยครับไม่ค่อยมีเพื่อนเลยตอนนั้น กลัวจะไปคุยกับใครแล้วเขาจะไม่อยากคุยกับเรา 5555555 แต่ก็มีเพื่อนบ้างครับแต่ไม่มากมายเท่าไหร่ ตอนนั้นเป็นช่วงรับน้องครับก็ได้ทำกิจกรรมมากมายรวมถึงการแข่งกีฬาน้องใหม่ ได้ไปเจอกับเพื่อนต่างคณะคนนึงครับ รู้สึกชอบเขามากแต่ก็ไม่กล้าทักจนได้มาเจออีกทีตอนที่เรียนรายวิชาเดียวกัน (ปี1คณะผมต้องเรียนรวมกับอีกหลายคณะครับ)

รู้สึกว่าตอนนั้นอยากทำอะไรสักอยากจึงได้ตามหาเฟสเขาแล้วก็เจอ แต่ก็ผิดหวังครับทักไปเขาตอบบ้างไม่ตอบบ้าง อ่านแต่ไม่ตอบก็มี หนักสุดทักไป อีกเจ็ดวันค่อยมาตอบด้วยคำว่า''อืม'' ผมนี่ไปไม่เป็นเลยครับ
(รูปตอนมอปลาย)

หลังจากนั้นก็เริ่มมาดูตัวเองสงสัยเราเองที่ขี้เหล่ไม่น่าสนใจ ตั้งใจว่าจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แต่ก็ได้แค่ตั้งใจครับทำได้ไม่กี่วันก็เลิก ชอบคิดว่าใครจะชอบเราเขาต้องชอบที่เราเป็นเราสิ แต่มันคือความคิดที่ผิดครับเพราะส่วนใหญ่รูปร่างภายนอกคือสิ่งแรกที่เขาจะมองเราแล้วจะทำให้เขารู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบเรา

หลังจากนั้นก็เรียนมาเรื่อยๆครับใช้ชีวิตเด็กอ้วนไปตามปกติ จนมาครึ่งเทอมหลังจะเริ่มมีการแสดงละครเวทีแต่ละคณะครับ แล้วพอดีว่าผมไปชอบพี่คนนึงแกเป็นนักแสดงในละครเวทีของคณะนึงในมหาวิทยาลัยที่คณะติดกับศาลาเดิม(ศาลาที่เด็กมหาลัยเรียกกัน) ผมชอบพี่แกมานานมากครับแต่รู้ว่าไม่เคยมีหวัง แต่อะไรดลใจไม่รู้ครับช่วงนั้นเป็นช่วงที่พี่แกอกหักพอดีแถมยังต้องมาแสดงละครอีก ไอ้เราก็คิดว่าเป็นโอกาสเหมาะที่จะทำคะแนนครับ ทักแชทไปคุยกับแกแทบทุกวัน ละครมีห้ารอบผมดูไปสามรอบทุกรอบก็จะมาให้กำลังใจพี่แก แต่ทุกครั้งที่คุยกับพี่แกจะรู้สึกว่าเหนื่อยๆ

จนผมตัดสินใจถามแกไปตรงๆครับว่า "ผมน่ะมีโอกาสที่พี่จะชอบได้ไหม" หลังจากนั้นก็นั่งรอคำตอบนานมากครับแล้วพี่ก็ตอบมาด้วยคำว่า "พี่ไม่ชอบคนอ้วนน่ะครับ" หลังจากนั้นครับโอ้โหหหหหหโลกแทบพัง รู้สึกเฟลมากครับ ทุกอย่างดูแย่ไปหมดรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่แย่มากพี่แกถึงไม่สนใจ เสียใจอยู่พักนึงครับตอนนั้นอยู่แต่กับเพื่อนกับพี่ที่คณะ ตอนนั้นเสียใจมากครับโทรคุยกับแม่ทุกวัน จนมีประโยคนึงที่แม่พูดว่า "จะไปสนใจคำพูดของคนอื่นทำไม ชีวิตเรานะลูก ไม่มีใครรักแม่รักเองก็ได้" น้ำตาแตกเลยครับบบบบบ

หลังจากนั้นก็ฮึดสู้ มีแต่คนดูถูกว่าอ้วนนักใช่ไหม ได้จะลดน้ำหนักให้ดู จะเอาให้พี่แกเสียดาย เก็บเอาคำพูดต่างๆ เด็กอ้วนบ้างล่ะ ไอ้หมูบ้างล่ะ ขับรถทีไรยางแบนตลอด เก็บเอาคำพูดต่างๆนาๆมาเป็นแรงกระตุ้น คิดอย่างเดียวว่าจะเป็นคนใหม่ให้ดู หลังจากนั้นก็เริ่มลดอย่างจริงจังครับ ผมเริ่มลดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะบอกชอบพี่แกไปวันวาเลนไทน์5555555 ลดมาเรื่อยๆจนถึง จนกระทั้งเปิดเทอมขึ้นปีสองครับ ระยะเวลาก็ประมาณห้าเดือนถึงหกเดือนได้ครับ

ผมเริ่มออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ทานน้อยลง ไม่ทานของมันของทอด ไม่กินน้ำอัดลม
ตอนแรกๆทรมานมากครับ อยากลดเร็วก็หายาลดความอ้วนมาช่วย แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร
จนสุดท้ายเลือกวิธีตัวเอง ควบคุมทุกอย่างและทานอาหารเสริม เพื่อช่วยเผาผลาญและจะได้ไม่ขาดสารอาหารครับ
จนตอนนี้ครับน้ำหนักผมลดมาเหลืออยู่ที่75กิโลกรัม เหมือนฝันไปจริงๆ

ล่าสุดเป็นงานลอยกระทงที่ผ่านมาครับ

(เก็บตกข้อผิดพลาดนะครับ)สำหรับการลดน้ำหนักของผมนะครับเผื่อใครอยากจะนำไปปฏิบัติ

ช่วงแรกของการลดนะครับ สิ่งแรกที่ต้องงดเลยคือ ข้าวเหนียวหมูปิ้งครับ ภัยเงียบที่คอยทำร้ายเรา เพรามีทั้งมันทั้งแป้งแล้วก็ย่างอีกเสี่ยงมะเร็งสุดๆ(แต่ก่อนผมชอบกินมากครับ)
ตอนเช้าจะทานพวกข้าวราดแกงครับแต่ละเลือกทานกับแกงจืดอย่างเดียว แต่จะทานแค่พออิ่มนะครับ หรือไม่ก็ขนมปัง10บาท บางวันก็ไม่ได้ทานครับ555555ชีวิตเด็กมหาลัยหลายคนคงเข้าใจ
ช่วงเที่ยงก็ทานเกาเหลาครับ ไม่มีไขมัน ไม่ทอด มีทั้งผักและเนื้อ อันนี้อิ่มด้วยครับ
ส่วนช่วงเย็นผมจะทานน้ำเต้าหู้สองถุงแต่เป็นแบบไม่ใส่น้ำตาลนะครับ เพราะความหวานก็ทำให้อ้วนได้ ถ้าหิวก็ทานน้ำเยอะๆครับดีต่อสุขภาพและลดความหิวได้
การออกกำลังกายผมออกกำลังกายโดยการเดินและวิ่งครับรวมๆกันก็วันละ 5 กิโลเมตร ส่วนมากจะเดินซะส่วนใหญ่ตามประสาคนอ้วนที่ขี้เกียจ555555555555 หลังจากนั้นก็ซิทอัพ ครับเซทละ 25 ครั้ง รวมทั้งหมด 4-6 เซทครับ แล้วก็วิดพื้นประมาน10-20ครั้งครับผม
ผมทำแบบนี้ประจำประมานเดือนนึงก็จะเริ่มเห็นผลครับ  ตอนแรกๆยอมรับว่าเหนื่อยมากครับ พอเหนื่อยเราก็จะเริ่มท้อแล้วก็จะไม่ทำ อีกวิธีที่ผมใช้ครับคือเขียนโพสอิทไว้ที่ต่างๆในห้อง ไว้เตือนตัวเอง และคำพูดมาเตือนใจตัวเองเข้าไว้ครับ มันช่วยได้จริงๆ
ผมทำแบบนี้มาเรื่อยๆจนตอนนี้ครับ เริ่มติดเป็นนิสัย จนกลายเป็นความเคยชินและก็ทำไปเรื่อยๆทุกวัน

จนตอนนี้ครับชีวิตผมเปลี่ยนไปเยอะเลย เสื้อผ้าที่เคยใส่ไม่ได้ก็ใส่ได้จากที่ใส่ XL หรือบางตัวก็ XXL ตอนนี้ผมใส่เบอร์ L แล้วครับ ส่วนกางเกงจากเอว 40-41 นิ้ว ตอนนี้ผมใส่ที่ 36 นิ้ว หรือบางยี่ห้อก็ 34 นิ้วครับ จะหาซื้อหรือหาเสื้อผ้าใส่ก็ไม่ต้องคิดมากอีกแล้ว

......มีช่วงนึงพี่แกทักมาครับ ช่วงนั้นน้ำหนักผมลดแล้วแต่ก็แค่นั้นแหละครับคนเราเจ็บแล้วต้องจำ.........

ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังลดน้ำหนักหรือคิดที่จะลดน้ำหนักนะครับ อยากบอกว่า ตอนแรกๆที่ลดมันจะเหนื่อยมากทั้งเหนื่อยทั้งท้อและไม่อยากที่จะทำมันเลย แต่อยากให้เพื่อนๆอย่าพึ่งท้อนะครับ ลดน้ำหนักก็เหมือนทำความดีแหละครับมันไม่ได้เห็นผลในพริบตาแต่ผลที่ออกมามันจะออกมาในระยะยาวและมันจะดีกับเราเสมอ ชีวิตหลังจากที่เราเอาก้อนไขมันที่อยู่กับเรามาตลอดออกไปมันเป็นชีวิตที่ดีมากนะครับ อยากให้กระทู้ของผมเป็นส่วนหนึ่งสำหรับใครที่อยากจะลดน้ำหนักแต่ยังไม่มีเป้าหมายที่แท้จริงลองเอาวิธีผมไปใช้ได้นะครับ

สุดท้ายอยากจะบอกว่า ทุกคนมีดีในตัวเองหมดเสมอครับไม่ว่าคุณจะอ้วนจะผอมจะดีหรือจะจน หรืออะไรก็ตามแต่ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองครับ เห็นคุณค่าในตัวเองรักตัวเองมากๆแล้วมันจะส่งผลดีต่างๆตามมามากมาย

ใครจะไม่รักก็ปล่อยเขาไป

คนผอมไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปคนอ้วนก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ตลอดไป ไม่มีใครดีแย่หรอกนะครับเราแค่รู้จักใช้ข้อดีที่มีในตัวเราให้เป็นประโยชน์แค่นี้คุณก็ไม่ต้องเหนื่อยไปวิ่งตามหาความรักแล้วครับ เพราะมันจะมาหาคุณเอง ......ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะครับ........

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : pantip.com

(คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

 

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ เมื่อคนส่วนใหญ่คบกันที่รูปร่างหน้าตาจากเคยหนัก 105 กิโลกรัม สู่ 75 กิโลกรัม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook