มาฟังความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับเรื่องของ “กลิ่นตัว” กันเถอะ!

ภาพจาก : Good Ideas

มีหลายคนที่ต้องเผชิญกับปัญหากลิ่นตัวแรงแบบไม่เกรงใจใคร ซึ่งในบางครั้งก็อาจส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต ทำให้ขาดความมั่นใจ หรืออาจต้องเสียเซลฟ์ได้ในบางที ยิ่งเวลาต้องไปติดต่องานกับผู้คนมากมาย ยิ่งทำให้เครียดหนักขึ้นไปอีก วันนี้ Sanook! Men จึงรวบรวมความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับกลิ่นตัวมานำเสนอ ให้คุณรู้ลึกรู้จริง เพื่อจะได้หาทางรับมือกันได้อย่างถูกวิธีและเหมาะสมต่อไป ส่วนจะมีความเชื่อเรื่องกลิ่นตัวอย่างไรกันบ้างนั้นตามมาดูกันเลย

เหงื่อคนเรามีกลิ่นเหม็นและเป็นตัวการของกลิ่นไม่พึงประสงค์
อันที่จริงแล้ว “เหงื่อ” ก็คือของเหลวชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตออกมา เพื่อเป็นการขับของเสียผ่านทางผิวหนัง ในขณะที่ตัวของมันเองนั้นแทบจะไม่มีกลิ่นอะไรเลย แต่เพราะทุกครั้งที่มีเหงื่อออก เราก็มักจะได้กลิ่นเหม็นๆ ตามมาเสมอ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเหงื่อของคนเรานั้นมีกลิ่นเหม็น แท้ที่จริงแล้วกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นั้นมีสาเหตุมาจากการที่เหงื่อไปผสมกับแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของคนเราต่างหากที่เป็นตัวการทำให้เกิดกลิ่นตัว

คนขี้เกียจอาบน้ำเท่านั้นแหละที่มีกลิ่นตัว
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า แบคทีเรียบนผิวหนังเป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัว จึงทำให้หลายคนมีความเชื่อว่า คนที่มีกลิ่นตัวนั้นคงไม่ได้อาบน้ำจนผิวสกปรก และแบคทีเรียบนผิวหนังเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา ซึ่งความเชื่อในข้อนี้ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกไปหมดซะทีเดียว เพราะนอกจากแบคทีเรียจะเป็นตัวการหลักของการเกิดกลิ่นตัวแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดกลิ่นตัวในคนเราได้เช่นกัน อาทิ ปัจจัยในเรื่องของฮอร์โมน กรรมพันธุ์ การรับประทานอาหาร หรือผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวาน เป็นต้น

กินกระเทียมเยอะๆ มีผลกับกลิ่นปาก ไม่เกี่ยวกับกลิ่นตัว
ใครที่ชอบกินกระเทียมต้องทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทุกครั้งที่กินอาหารที่มีกลิ่นฉุนอย่างกระเทียม หัวหอม หรือเครื่องเทศ เวลาจะเอ่ยปากคุยกับใครซักทีก็ไม่ค่อยจะกล้า เพราะกลิ่นกระเทียมแรงได้ใจเหลือเกิน ในขณะที่บางคนบอกว่ากินกระเทียมแล้วปากเหม็น ก็ไปแปรงฟันซะก็จบ ฟังดูง่ายแต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ เนื้อแดง หรือแม้แต่กาแฟ ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็เพราะกลิ่นฉุนจากอาหารเหล่านี้สามารถซึมผ่านผิวหนังของเราออกมาได้ ดังนั้นหากไม่อยากปวดหัวกับปัญหากลิ่นตัว จึงควรจำกัดปริมาณการรับประทานอาหารเหล่านี้ไว้แต่พอดี

คุณต้องอยู่กับกลิ่นตัวไปทั้งชีวิต
หากคุณไม่หาทางรับมือกับปัญหากลิ่นตัว แน่นอนเลยว่าคุณจะต้องเจอกับกลิ่นตัวไปทั้งชีวิตแน่ๆ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้นการหาทางป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตัวน่าจะเป็นการดีที่สุด ส่วนใครที่ไม่อยากเจอกับปัญหากลิ่นตัวกวนใจ ก็ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายหลังอาบน้ำเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เพียงเท่านี้คุณก็คงไม่ต้องอยู่กับกลิ่นตัวไปตลอดทั้งชีวิตแล้วล่ะ

ขอบคุณภาพประกอบ: http://www.pinterest.com